OnePlus ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปอีกขั้นกับ OnePlus 8T 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่มาต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น OnePlus 8 Series ที่เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยมาพร้อมคอนเซปต์ Ultra Fast Ultra Smooth โครตลื่น โครตเร็ว พร้อมดีไซน์สุดพรีเมียม
Ultra Fast เร็วแรงไปกับชิปเซ็ท Snapdragon 865 + ชิปโมเด็ม X55, RAM สูงสุด 12GB + ROM สูงสุด 256GB, รองรับ 5G และชาร์จเร็ว Warp Charge 65W Ultra Smooth ใช้งานได้รวดเร็วลื่นไหลไปกับจอ 120Hz Fluid AMOLED Display, OxygenOS 11 บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 11 และการอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากสเปกดังกล่าวแล้ว OnePlus 8T 5G ยังอัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานอย่างครบครันอีกด้วย เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้แล้วว่าจะมีฟีเจอร์เด่นๆ ทั้งหมดนี้จะน่าสนใจแค่ไหน เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า
สเปกเบื้องต้น OnePlus 8T 5G
| ขนาด | 160.7 x 74.1 x 8.4 มม. |
| น้ำหนัก | 188 กรัม |
| หน้าจอ | 120Hz Fluid AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (402 ppi) ขนาด 6.55 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, รองรับ HDR10+, sRGB, Display P3 และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass |
| หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8250 Snapdragon 865 (7 nm+), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650 |
| RAM | 8GB แบบ LPDDR4X /12GB แบบ LPDDR5 |
| หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 |
| microSD Card | ไม่รองรับ |
| ระบบปฏิบัติการ | OxygenOS 11 based on Android 11 |
| เชื่อมต่อ | 2×2 MIMO, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G, Wi-Fi 6 Bluetooth 5.1, support aptX & aptX HD & LDAC & AAC NFC GPS (L1+L5 Dual Band), GLONASS, Galileo (E1+E5a Dual Band), Beidou, A-GPS |
| กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED และ Flicker Sensor – กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รูรับแสง f/1.7, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS + EIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX481 รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 123 องศา – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 3 ซม. – กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.4 และระบบกันสั่น EIS |
| รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA) GSM: B2, 3, 5, 8 WCDMA: B1, 2, 4, 5, 8, 9, 19 LTE-FDD: B1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 13, 17, 18, 19, 20, 25, 26, 28, 32, 66 LTE-TDD: B34, 38, 39, 40, 41, 42 5G NSA: N1, 3, 7, 28, 41, 78 5G SA: N41, 78 MIMO: LTE: B1, 3, 7, 38, 41; NR: N1, 3, 7, 78 |
| แบตเตอรี่ | 4500mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว Warp Charge 65W |
| สี | Aquamarine Green และ Lunar Silver |
| ราคา | RAM 8+128GB ราคา 24,990 บาท / RAM 12+256GB ราคา 29,990 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องแพคเกจจิ้งของ OnePlus 8T 5G เป็นกล่องทรงยาวสีแดงสดซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของ OnePlus ด้านหน้ากล่องครอบด้วยกระดาษสีขาวที่มีข้อความว่า “ยินดีต้อนรับสู่วงการ OnePlus วงการนี้ เข้าแล้วออกยากนะ” พร้อมโลโก้ OnePlus และ QR Code เข้าหน้าเพจเฟสบุ้คของ OnePlus โดยด้านข้างทั้ง 2 ด้านมีข้อความ 5G และด้านหลังมีข้อความ Fast & Smooth ส่วนบนกล่องด้านหน้ามีชื่อรุ่น และด้านหลังมีข้อมูลหน่วยความจำ สีตัวเครื่อง เลขอีมี่ และวันที่ผลิต
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง OnePlus 8T 5G ในสี Lunar Silver ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว Warp Charge 65W
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ / ใบรับประกันสินค้า พร้อมจดหมายต้อนรับ และสติกเกอร์โลโก้ OnePlus
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว Warp Charge 65W
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
ตัวเครื่อง OnePlus 8T 5G มีดีไซน์พรีเมียมสวยหรู ด้วยรูปทรวงเพรียวบางเพียง 8.4 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 188 กรัม ด้วยการออกแบบแบบ Flowscape ที่มีความยืดหยุ่นกับหน้าจอ 120Hz โดยเปลี่ยนจากจอขอบโค้งในรุ่น OnePlus 8 และ OnePlus 8 Pro มาเป็นจอแบนเรียบแบบ AMOLED ในขอบหน้าจอที่บางแบบ edge-to-edge โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Aquamarine Green สีเขียวน้ำทะเล (สำหรับรุ่น 12+256GB) และสี Lunar Silver สีเทาสงบ (สำหรับรุ่น 8+128GB)
หน้าจอแสดงผลแบบ Fluid AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080×2400 พิกเซล (402 ppi) ขนาด 6.55 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+, รองรับการแสดงผลเฉดสี sRGB, Display P3 การันตีความปลอดภับจากแสงสีฟ้าโดย SGS Eye Care Display Certificatio และการันตีคุณภาพจากสถาบันทดสอบชั้นนำระดับโลกอย่าง DisplayMate ด้วยผลคะแนนระดับ A+ และเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ที่มุมซ้ายด้านบน
ด้านหลังเคลือบด้วยกระจกด้านแบบ Glossy Glass หายห่วงเรื่องรอยนิ้วมือ พร้อมดีไซน์ขอบโค้งช่วยให้ถือจับได้อย่างถนัดมือ
โดยมุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยม ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รูรับแสง f/1.75 และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS + EIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX481 รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 123 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 3 ซม.
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มเลื่อนขึ้นลงสำหรับเปิดปิด รูปแบบการแจ้งเตือนของตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง
ด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ SIM Card ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง, ช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน OnePlus 8T 5G
OnePlus 8T 5G มาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ซึ่งแสดงผลภาพได้อย่างสมจริง และคมชัดกว่าหน้าจอแบบ IPS รวมถึงยังมอบประสบการณ์นุ่มนวล เนียนตาบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อน ถูไถ ปัดหน้าจอไปมา รวมถึงความหน่วงในการตอบสนองที่ต่ำมาก ทำให้สัมผัสถึงความลื่นไหลได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกการแสดงผล ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือเล่นเกม และสามารถปรับค่ารีเฟรชเรทได้ 2 ระดับคือ 60Hz เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และ 120Hz เพื่อให้ใช้งานได้ลื่นไหลมากขึ้น
ใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 865 บวกกับชิปโมเด็ม X55 รองรับ 5G ที่เร็วแรงและลื่นไหล โดยจับคู่กับ RAM สูงสุด 12GB และหน่วยความจำภายในสูงสุด 256GB แบบ UFS 3.1 ที่มีประสิทธิภาพในการอ่านเขียนประมวลข้อมูล โดยพร้อมใช้สัญญาณ 5G ได้ทันที มีทั้ง B1 และ B3 คลอบคลุมการใช้งานทั้งประเทศ (หลังการอัปเดต Firmware เครื่อง)
รองรับการชาร์จเร็ว Warp Charge 65W โดย OnePlus 8T 5G มาพร้อมแบตเตอรี่เซลล์คู่ Twin-battery Charging Technology ในความจุ 4,500mAh สามารถชาร์จ 0-100% ภายในเวลาเพียง 39 นาที โดยชาร์จได้อย่างต่อเนื่องในอุณหภมิระดับที่ปลอดภัย และยังสามารถเทอร์โบชาร์จให้กับโทรศัพท์อื่นๆ รวมถึงแท็บเล็ต และแล็ปท๊อปที่รองรับอีกด้วย