OnePlus ยืนยันเตรียมเปิดตัว OnePlus 13 อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีนในวันที่ 31 ตุลาคม เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับบ้านเราเวลา 17.00 น. โดยเป็นรุ่นภาคต่อของ OnePlus 12 และสมาร์ตโฟนรุ่นแรก ๆ ที่ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 8 Elite
![OnePlus 13](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/OnePlus-13-design-1024x678.webp)
OnePlus 13 จะวางจำหน่ายด้วยกัน 3 สี คือ
รุ่น “White Dawn” มาพร้อมเทคโนโลยี Silk Glass ล่าสุด ให้รูปลักษณ์ที่เพรียวบางและสง่างาม
รุ่น “Blue Moment” โดดเด่นในฐานะรุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่ใช้พื้นผิว BabySkin ซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มเหมือนผิวหนัง
และสุดท้าย รุ่น “Obsidian Secret” เปิดตัวด้วยการเคลือบกระจกลายไม้ Ebony ให้รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และประณีตชวนให้นึกถึงไม้ธรรมชาติ
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/OnePlus-13-Black--1024x1024.webp)
ในด้านการออกแบบ OnePlus 13 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบไมโครควอดที่ด้านหน้าและโมดูลกล้องหลังทรงกลมที่โดดเด่น ซึ่งแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า โดยโมดูลกล้องไม่ได้รวมเข้ากับกรอบของตัวเครื่อง ภายในมีเลนส์กล้องสามตัวพร้อมไฟแฟลช LED ที่จัดวางอย่างสมมาตรในรูปแบบสี่เหลี่ยม วงแหวนโลหะล้อมรอบโมดูลวงกลม เพิ่มความสง่างามและแยกส่วนกล้องออกจากแผงด้านหลังที่เหลือ
นอกจากนี้ยังมีเส้นแนวนอนที่ทอดยาวจากโมดูลกล้องไปจนถึงขอบ พร้อมด้วยโลโก้ “H” (Hasselblad) อยู่ขวาด้านบน ถัดลงมาตรงกลางมีโลโก้ OnePlus ที่ฝังไว้ใต้โมดูลกล้องอย่างแนบเนียนแสดงถึงภาษาการออกแบบที่สะอาดตา ส่วนด้านข้างเครื่องเป็นกรอบโลหะ ซึ่งช่วยให้รู้สึกหรูหรา
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/OnePlus-13-Blue--1024x1024.webp)
ทั้งนี้ ในส่วนสเปกของ OnePlus 13 คาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผล BOE X2 ขนาด 6.82 นิ้ว ความละเอียด 2K โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, ขับเคลื่อนชิป Snapdragon 8 Elite จับคู่กับ RAM LPDDR5x สูงสุด 24GB, หน่วยความจำภายใน UFS 4.0 สูงสุด 1 TB
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/OnePlus-13-White--1024x1024.webp)
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก เซ็นเซอร์ LYT-808 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP69, ติดตั้งมอเตอร์สั่น 0916T, ใช้แบตเตอรี่ความจุ 6,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W และชาร์จไร้สาย 50W และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15
ที่มา : Gizmochina