OnePlus ประกาศเปิดตัว OnePlus 13 อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน โดยเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอความละเอียดสูง 2K+ พร้อมความสว่างสูงสุด 4,500nits
และได้รับคะแนน DisplayMate A++ เป็นรายแรกของโลกสำหรับหน้าจอ, ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 8 Elite และแบตเตอรี่ความจุ 6,000mAh
สเปก OnePlus 13
ตัวเครื่องมีขนาด 162.9×76.5×8.5 มม. (กระจก) / 8.8 มม. (หนัง) และน้ำหนัก 213 กรัม (กระจก) / 210 กรัม (หนัง) หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ LTPO AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด QHD+ 1440 x 3168 พิกเซล ขนาด 6.82 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9
โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ Dolby Vision, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 4,500nits, อัตราการหรี่แสง PWM 2,160Hz, รองรับ Always-on display และครอบทับด้วยกระจกกันรอยซุปเปอร์เซรามิก Crystal Shield
รวมถึงมีกรอบกลางแบบไมโครอาร์คที่แคบเป็นพิเศษ และยังคงใช้สไลด์แจ้งเตือนสามขั้นตอนที่ด้านซ้ายข้างเครื่อง มีเสาอากาศแบบบูรณาการใหม่ และโซลูชัน Alert Slider เพื่อมอบประสิทธิภาพเสาอากาศที่ดีขึ้นสำหรับการเล่นเกม
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 4.32GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8750-AB Snapdragon 8 Elite (3 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 830, RAM 12GB/16GB/24GB แบบ LPDDR5, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15 (จีน), OxygenOS 15 (ตลาดโลก)
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera ที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-808 รูรับแสง f/1.6, 23mm (wide), 1/1.43″, 1.12µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS ซึ่งเซ็นเซอร์ดังกล่าวจะช่วยดึงแสงและเงาให้ภาพออกมาสวยและชัดเจนยิ่งขึ้น
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 รูรับแสง f/2.6, 73mm, 1/1.95″, ระบบ PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 3x
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 15mm พร้อมระบบ PDAF และถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 21mm (wide), 1/2.74″, 0.8µm
นอกจากนี้ยังรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68/iP69, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบอัลตราโซนิก, ระบายความร้อน VC 9925mm², มีมอเตอร์เชิงเส้นแกน X AAC CSA+ 0916 (ปริมาตร 602mm³) ซึ่งบริษัทเรียกว่ามอเตอร์สั่นแบบ Bionic Turbo ที่เพิ่มเอฟเฟกต์สั่นระดับคอนโทรลเลอร์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งปรับให้เข้ากับการสั่นสะเทือน 4D พิเศษของเกมมือถือ และลำโพงคู่สเตอริโอ
รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual or tri-band, Wi-Fi Direct, ฺBluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C
และใช้แบตเตอรี่ความจุ 6,000mAh รองรับชาร์จไว 100W ชาร์จ 50% ภายใน 13 นาที, ชาร์จ 100% ภายใน 36 นาที, ชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W, ชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ 10W และชาร์จแบบย้อนกลับ 5W
ทั้งนี้ OnePlus 13 มีให้เลือก 3 สีคือ สีฟ้าพร้อมฝาหลังหนังวีแกน, สีขาวพร้อมฝาหลังกระจกด้าน และสีดำพร้อมฝาหลังหลังกระจกลายไม้ โดยเปิดให้สั่งจองที่ประเทศจีนแล้ววันนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12GB + 256GB ราคา 4,499 หยวนหรือประมาณ 21,350 บาท
- RAM 12GB + 512GB ราคา 4,899 หยวนหรือประมาณ 23,250 บาท
- RAM 16GB + 512GB ราคา 5,299 หยวนหรือประมาณ 25,150 บาท
- RAM 24GB + 1TB ราคา 5,999 หยวนหรือประมาณ 28,460 บาท
ที่มา : Fonearena