คลังเก็บ

เปิดตัว Nothing Phone (3a) และ (3a) Pro มาพร้อมชิป Snapdragon 7s Gen 3 และกล้องเลนส์ Telephoto

Nothing ประกาศเปิดตัว Nothing Phone (3a) และ Phone (3a) Pro สมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดยสองรุ่นใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน แต่รุ่น Pro เพิ่มคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง กล้องที่ดีกว่า และดีไซน์ที่แตกต่าง

สเปก Nothing Phone (3a) Pro

ตัวเครื่องมีขนาด 163.5 x 77.5 x 8.4 มม. และน้ำหนัก 211 กรัม หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ Flexible AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2392 พิกเซล ขนาด 6.77 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 3000nits, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Panda Glass และรองรับ Ultra HDR image

ด้านหลังของ Nothing Phone (3a) Pro มาในคอนเซ็ปต์โปร่งใสโชว์การจัดวางของขดลวดและสายแพร์ พร้อมด้วยเส้นไฟ LED (Glyph) อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีการจัดวางกล้องหลังตรงกลางเครื่อง ล้อมด้วยขดลวด NFC และเส้นไฟ Glyph ช่วยขับตัวกล้องให้โดดเด่น คล้ายดวงตาที่กำลังจ้องมอง กระจกฝาหลังของ Nothing Phone (3a Pro) ออกแบบให้ครอบทับไปถึงตัวเฟรมด้านข้าง ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกระแทก

สำหรับเส้นไฟ LED หรือ Glyph Interface สามารถแสดงแจ้งเตือน และเป็นลูกเล่นสำหรับฟีเจอร์การจับเวลา, ไฟฉาย และ Glyph Progress ในการติดตามสถานะของแอป

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7635 Snapdragon 7s Gen 3 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710 (940 MHz),

RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR4X, หน่วยความจุภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Nothing OS 3.1 รองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ 3 ปี และแพตช์ความปลอดภัย 6 ปี

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, 24mm (wide), 1/1.57″, 1.0µm, ระบบ dual pixel PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.6, 70mm, (15cm – ∞), 1/1.95″, 0.8µm, ระบบ PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคัล 3 เท่า สามารถขยายได้ถึง 6 เท่าโดยใช้กลไก TrueLens 3.0 และ AI อัจฉริยะอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของภาพ
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 15mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 24mm (wide), 1/2.76″

รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP64, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอแบบออปติคัล, ลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA), 

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, ฺBluetooth 5.4, NFC, พอร์ต USB Type-C, และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 50W ชาร์จ 50% ภายใน 19 นาที และชาร์จ 100% ภายใน 56 นาที

ทั้งนี้ Nothing Phone (3a) Pro มีให้เลือก 2 สีคือ เทา และดำ โดยจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ในวันที่ 11 มีนาคม 2025

ส่วนราคามีดังนี้

  • รุ่น RAM 8 + 128GB ราคา 29,999 รูปีหรือประมาณ 11,610 บาท
  • รุ่น RAM 8+ 256GB ราคา 31,999 รูปีหรือประมาณ 12,390 บาท

และรุ่น RAM 12GB+256GB ราคา 449 ปอนด์หรือประมาณ 19,370 บาท / 459 ดอลลาร์หรือประมาณ 15,490 บาท / 459 ยูโรหรือประมาณ 16,440 บาท / 33,999 รูปีอินเดียหรือประมาณ 13,160 บาท

สเปก Nothing Phone (3a)

ตัวเครื่องมีขนา163.5 x 77.5 x 8.4 มม. และน้ำหนัก 201 กรัม หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ Flexible AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2392 พิกเซล ขนาด 6.77 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 3000nits, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Panda Glass และรองรับ Ultra HDR image

ด้านหลังของ Nothing Phone (3a) มาในคอนเซ็ปต์โปร่งใสโชว์การจัดวางของขดลวดและสายแพร์ พร้อมด้วยเส้นไฟ LED (Glyph) อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีการจัดวางกล้องหลังตรงกลางเครื่อง ล้อมด้วยขดลวด NFC และเส้นไฟ Glyph ช่วยขับตัวกล้องให้โดดเด่น คล้ายดวงตาที่กำลังจ้องมอง กระจกฝาหลังของ Nothing Phone (3a Pro) ออกแบบให้ครอบทับไปถึงตัวเฟรมด้านข้าง ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกระแทก

สำหรับเส้นไฟ LED หรือ Glyph Interface สามารถแสดงแจ้งเตือน และเป็นลูกเล่นสำหรับฟีเจอร์การจับเวลา, ไฟฉาย และ Glyph Progress ในการติดตามสถานะของแอป

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7635 Snapdragon 7s Gen 3 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710 (940 MHz),

RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR4X, หน่วยความจุภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Nothing OS 3.1 รองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ 3 ปี และแพตช์ความปลอดภัย 6 ปี

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, 24mm (wide), 1/1.57″, 1.0µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 50mm, (25cm – ∞), 1/2.74″, 0.64µm, ระบบ PDAF และซูมออปติคัล 2 เท่า
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 15mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 22mm (wide), 1/3.44″

รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP64, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอแบบออปติคัล, ลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA), 

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, ฺBluetooth 5.4, NFC, พอร์ต USB Type-C, และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 50W ชาร์จ 50% ภายใน 19 นาที และชาร์จ 100% ภายใน 56 นาที

ทั้งนี้ Nothing Phone (3a) มีให้เลือก 2 สีคือ ดำ น้ำเงิน และขาว โดยจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ในวันที่ 4 มีนาคม 2025 ผ่านร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Nothing

ส่วนราคามีดังนี้

  • รุ่น RAM 8 + 128GB ราคา 329 ปอนด์หรือประมาณ 14,200 บาท / 329 ยูโรหรือประมาณ 11,790 บาท / 24,999 รูปีหรือประมาณ 9,680 บาท
  • รุ่น RAM 8+ 256GB ราคา 26,999 รูปีหรือประมาณ 10,450บาท

และรุ่น RAM 12GB+256GB ราคา 379 ปอนด์หรือประมาณ 16,360 บาท / 379 ดอลลาร์หรือประมาณ 12,790 บาท / 379 ยูโรหรือประมาณ 13,580 บาท

ที่มา : Gsmarena