Nothing ประกาศเปิดตัว Nothing Phone (2a) อย่างเป็นทางการ โดยเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นแรก และรุ่นที่ 3 ของบริษัท โดยมีความแตกต่างจากรุ่นเรือธงเล็กน้อยในส่วนของดีไซน์ และยังคงอัดแน่นด้วยคุณสมบัติหลักระดับพรีเมี่ยม ในราคาเพียงหมื่นนิดๆ เท่านั้น !!!
สเปก Nothing Phone (2a)
![Nothing Phone (2a)](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/03/Nothing_Phone__2a_-2-1024x649.jpg)
ตัวเครื่องมีขนาด 161.7 x 76.3 x 8.6 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ Flexible AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1300nits, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 และรองรับ Always On Display
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/03/Nothing-Phone-2a-6-1024x988.jpg)
ด้านหลังของ Nothing Phone (2a) มาในคอนเซ็ปต์โปร่งใสโชว์การจัดวางของขดลวดและสายแพร์ พร้อมด้วยเส้นไฟ LED (Glyph) อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีการจัดวางกล้องหลังตรงกลางเครื่อง ล้อมด้วยขดลวด NFC และเส้นไฟ Glyph ช่วยขับตัวกล้องให้โดดเด่น คล้ายดวงตาที่กำลังจ้องมอง กระจกฝาหลังของ Nothing Phone (2a) ออกแบบให้ครอบทับไปถึงตัวเฟรมด้านข้าง ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกระแทก
สำหรับเส้นไฟ LED หรือ Glyph Interface สามารถแสดงแจ้งเตือน และเป็นลูกเล่นสำหรับฟีเจอร์การจับเวลา, ไฟฉาย และ Glyph Progress ในการติดตามสถานะของแอป
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/03/Nothing-Phone-2a-4.jpg)
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.8GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7200 Pro (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G610 MC4, RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR4X, หน่วยความจุภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Nothing OS 2.5 รองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ 3 ปี และแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/03/Nothing-Phone-2a-3-1024x682.jpg)
ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, 24mm (wide), 1/1.56″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1/2.76″, 0.64µm และถ่ายมุมกว้างได้ 114 องศา
พร้อมอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ UltraXDR, Motion Capture, Night Mode, Action Mode และ Portrait Optimizer
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/03/Nothing-Phone-2a-2-1024x683.jpg)
รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP54, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, ฺBluetooth 5.3, NFC, พอร์ต USB Type-C, และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ชาร์จ 50% ภายใน 23 นาที และชาร์จ 100% ภายใน 60 นาที
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/03/Nothing-Phone-2a-1-1024x683.jpg)
ทั้งนี้ Nothing Phone (2a) มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีขาว โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 12 มีนาคม 2024 ซึ่งในล็อตแรกจะอยู่ภายใต้แคมเปญ #THE100 Drop จำนวนจำกัด 100 เครื่อง ใช้วิธีวางขายแบบใครมาก่อนได้ก่อน
ส่วนราคามีดังนี้
- รุ่น RAM 8 + 128GB ราคา 11,499 บาท
- รุ่น RAM 12 + 256GB ราคา 12,999 บาท
ที่มา : Nothing