เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global) บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศฟินแลนด์ เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ก้าวขึ้นสู่แบรนด์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ระดับท็อป 5 ในตลาดหลายแห่งทั่วโลก ภายใต้กรอบแนวคิดที่เชื่อว่าเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนได้ โนเกียจึงเป็นสมาร์ทโฟนที่ “ยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โนเกียถือเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ทั่วโลกรู้จักในด้านความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เอชเอ็มดี โกลบอล เปิดตัวสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการเพียวแอนดรอยด์ (pure android) ที่ดีที่สุดจากกูเกิล (Google) ซึ่งมีทั้งประสิทธิภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่อัปเดตเป็นประจำทุกเดือน ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดได้อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ ทำให้โนเกียก้าวขึ้นสู่แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับท็อป 5 ในตลาดหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงภูมิภาคที่สำคัญ เช่น ยุโรปตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และรัสเซีย แม้จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับวงการสมาร์ทโฟนทั่วโลก แต่ในปี 2018 โนเกียสามารถเพิ่มฐานผู้ใช้งานขึ้นเป็นสามเท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟนอันดับ 1 ของโลก ทั้งด้านยอดขายและมูลค่ารวม ที่ผ่านมาโนเกียเสริมแกร่งแบรนด์ด้วยการพัฒนาศักยภาพของโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนในตำนานอย่าง Nokia 3310 และ Nokia 8110 ให้มีคุณภาพเป็นที่น่าพึงพอใจแก่ผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก ปัจจุบันโนเกีย มีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 200,000 สาขาทั่วโลกดำเนินการใน 80 ประเทศ และมีผู้ใช้งานบนแอปพลิเคชัน My Phone ของโนเกียกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน
นอกจากการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์แล้ว ด้านนวัตกรรม โนเกียยังได้จับมือกับพันธมิตรอย่างกูเกิล ภายใต้โครงการ Android One ซึ่งกูเกิลได้รับรองฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ของสมาร์ทโฟนโนเกียว่าสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ได้ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนโนเกียบนระบบปฏิบัติการเพียวแอนดรอยด์ที่ทันสมัยอยู่เสมอ โดยสมาร์ทโฟนโนเกียทุกรุ่นจะรองรับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการถึงสองปี รวมถึงการอัปเดตระบบความปลอดภัยรายเดือนได้ยาวนานถึงสามปี โดยในประเทศไทยสมาร์ทโฟนโนเกียรุ่นที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2017 ถึงปัจจุบัน มีจำนวน 9 รุ่น ที่รองรับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie แล้ว อาทิ Nokia 8.1, Nokia 8, Nokia 7 Plus, Nokia 6.1, Nokia 6.1 Plus, Nokia 6 และ Nokia 5, Nokia 5.1 Plus และ Nokia 3.1 อีกทั้งสมาร์ทโฟนโนเกียแต่ละรุ่นยังได้รับการพัฒนาให้มีระบบ AI ที่โดดเด่น อาทิ นวัตกรรมการสั่งการด้วยเสียง (Google Assistant) ระบบ AI การถ่ายภาพ และระบบความปลอดภัยรุ่นล่าสุดจาก Google Play Protect ที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่อง รวมถึงระบบปฏิบัติการแบบเพียวแอนดรอยด์ ที่ปราศจาก UI/UX หรือแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น ทำให้แบตเตอรี่ และการประมวลผลไม่ต้องทำงานหนัก ผู้ใช้งานจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์และเพลิดเพลินกับการใช้งานสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์คุณภาพระดับเรือธงที่ทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานรุ่นใหม่ได้นานยิ่งขึ้น
แนวคิดการออกแบบของโนเกียนั้น ไม่เพียงแค่เน้นความสวยงามเท่านั้น แต่ได้ผสมผสานการคัดเลือกวัสดุที่มีความทนทานและเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำมาใช้ ประกอบกับมาตรฐานการผลิตที่มีชื่อเสียงมายาวนาน จึงมั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จากโนเกียทุกรุ่น จะมอบประสบการณ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพให้แก่แฟนๆ ทั่วโลกได้ นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงยังนำเสนอประสบการณ์การถ่ายภาพเหนือระดับด้วย ZEISS เลนส์กล้องชั้นนำ อีกทั้งยังให้ภาพคมชัดเสมือนจริงด้วยหน้าจอแบบ PureDisplay ในราคาที่ใครก็สามารถครอบครองได้
ความสำเร็จและรางวัล
2019
- คว้ากว่า 31 รางวัลจากงาน Mobile World’s Congress 2019
- ก้าวสู่แบรนด์สมาร์ทโฟน 5 อันดับแรกในตลาดโลก รวมถึงภูมิภาคที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เช่น ยุโรปตะวันออกกลางแอฟริกาเหนือ และรัสเซีย
- เป็นผู้นำด้านฟีเจอร์โฟนระดับโลก ทั้งด้านยอดขายและมูลค่ารวม
- เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายแรกที่การันตีการอัปเกรดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ขั้นต่ำสองเวอร์ชั่น และเป็นรายแรกที่สามารถอัปเกรดระบบปฏิบัติการสู่ Android Pie ซึ่งรุดหน้ากว่าแบรนด์อื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ถึงสองเท่า
2018
- เพิ่มฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนขึ้นเป็นสามเท่า เมื่อเทียบกับปี 2017
- เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีความมั่นคง และมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ
- เป็นเจ้าของ 25 รางวัลชนะเลิศจากงาน Mobile World’s Congress 2018
2017
- ประสบความสำเร็จในการจัดส่งสินค้ามากกว่า 70 ล้านเครื่องทั่วโลกในปีแรก (2017)
- คว้า 17 รางวัลชนะเลิศในงาน Mobile World’s Congress 2017
จากความสำเร็จและหลากหลายรางวัลที่ได้รับในหลายปีที่ผ่านมา จึงการันตีได้ว่า โนเกียเป็นสมาร์ทโฟนเพียวแอนดรอยด์ ที่ “ยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”