Motorola ประกาศเปิดตัว Motorola Edge 50 Fusion สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล Edge 50 Series โดยมาพร้อมจุดเด่นหน้าจอ pOLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรท 144Hz, ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 7s Gen 2, ติดตั้งกล้องหลังคู่ 50MP, รองรับ IP68 และชาร์จไว 68W
สเปก Motorola Edge 50 Fusion
ตัวเครื่องมีขนาด 161.9 x 73.1 x 7.9 มม. และน้ำหนัก 174.9 กรัม หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ pOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 144Hz, อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงถึง 360Hz (ในโหมดเกม), รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1600nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.40GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7435-AB Snapdragon 7s Gen 2 (4 nm) สำหรับตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 6 Gen 1 SoC และหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz สำหรับตลาดละตินอเมริกา
หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710, RAM 8GB/12GB, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB/512GB UFS 2.2 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14
ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony Lytia LYT-700C รูรับแสง f/1.9, (wide), 1.0µm พร้อมระบบ dual pixel PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1.12µm, ระบบ AF และถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา และถ่ายภาพระยะใกล้ด้วย Macro Vision ในตัวสำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้สุดขีด
ขณะที่กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, (wide), 0.7µm พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel
รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68 (กันน้ำได้ลึก 1.5 เมตรใน 30 นาที), ติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอพร้อม Dolby Atmos และยังรองรับ Dolby Head Tracking, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอ,
รองรับ 2 SIM. รองรับ 4G/5G (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 68W TurboPower ชาร์จ 0-50% ภายใน 15 นาที
ทั้งนี้ Motorola Edge 50 Fudion มีให้เลือก 3 สีคือ Forest Blue, Marshmallow Blue และ Hot Pink โดยมีราคาอยู่ที่ 399 ยูโรหรือประมาณ 15,670 บาท และจะเปิดตัวในบางตลาดในเอเชีย ยุโรป ละตินอเมริกา และโอเชียเนียในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา : Fonearena