ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดออฟฟิศแห่งใหม่ในโครงการ One Bangkok ที่ผสานความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพนักงาน การใช้ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) และวัฒนธรรมองค์กรแบบ Growth Mindset สร้างต้นแบบของออฟฟิศยุคใหม่ที่รองรับการทำงานได้จากทุกที่ ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างแท้จริง ตอกย้ำพันธกิจในการเสริมศักยภาพให้ทุกคนและทุกองค์กรได้บรรลุผลสำเร็จที่ดียิ่งขึ้น

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอด 50 ปีของไมโครซอฟท์ทั่วโลก และ 32 ปีในประเทศไทย เราอยู่คู่กับการทำงานของผู้คนและองค์กร และเป็นผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ยกระดับศักยภาพในการทำงานมาทุกยุคสมัย
นับตั้งแต่ยุคของพีซี สู่ยุคคลาวด์ มาจนถึงยุค AI ด้วยพันธกิจสำคัญคือ การช่วยให้ทุกคนและองค์กรทุกระดับบรรลุผลสำเร็จที่มากขึ้น ความสำเร็จนี้เกิดจากวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Growth Mindset ที่เชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การเปิดรับความหลากหลาย และการทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อสร้างความแตกต่างและผลกระทบเชิงบวก
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้าน AI และนวัตกรรมเทคโนโลยี เราต้องทำความเข้าใจและปรับตัวให้ทันต่อสัญญานการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ด้วยการคาดการณ์และเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก
ออฟฟิศแห่งใหม่ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นนี้ โดยผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในทุกส่วน ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเป็นตัวอย่างให้แก่องค์กรที่ต้องการพลิกโฉมสถานที่ทำงาน และตอบโจทย์การสร้างนวัตกรรม รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพและความสุขในการทำงานที่คนทำงานยุคใหม่กำลังมองหา”
ใช้ข้อมูลเชิงลึก ปั้นออฟฟิศที่ใช่
จากการศึกษาของไมโครซอฟท์ที่ได้สำรวจองค์กรชั้นนำใน 9 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา บราซิล และเม็กซิโก พบว่าการทำงานในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ส่งผลให้ความหมายของ “ประสิทธิภาพ” และ “ความสำเร็จ” เปลี่ยนแปลงไปด้วย
แม้เป้าหมายด้านยอดขายและผลกำไรจะยังคงมีความสำคัญต่อธุรกิจ แต่หลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ประสิทธิภาพการทำงาน การทำงานเป็นทีม การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน และวัฒนธรรมองค์กร จากผลสำรวจยังพบอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางประสิทธิภาพในการทำงาน ได้แก่ รูปแบบวัฒนธรรมองค์กร ภาระงานที่มากเกินไป และขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน รวมถึงความยากลำบากในการระบุทักษะและพัฒนาพนักงานอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ เบื้องหลังการสร้างสรรค์ออฟฟิศแห่งใหม่ เกิดจากการนำข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการออกแบบและพัฒนาพื้นที่และองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้ออฟฟิศไมโครซอฟท์ เป็นพื้นที่ที่พนักงาน ลูกค้า และพันธมิตร มาร่วมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในสังคมไทยร่วมกัน
โดยใช้ข้อมูลเชิงลึก เช่น สถิติการใช้งานออฟฟิศ และการใช้พื้นที่ต่างๆ ในการประเมินความเพียงพอ แล้วนำมาปรับปรุง รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน เพื่อออกแบบพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ชู 4 หัวใจสำคัญ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
ออฟฟิศใหม่ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการทำงาน เข้ากับการดูแลสุขภาวะเพื่อความสุขในการทำงาน โดยเน้น 4 หัวใจสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาวะในการทำงาน (Wellness) เช่น ระบบไฟในพื้นที่ทำงานที่ออกแบบมาเพิ่มลดความอ่อนล้าของสายตา โต๊ะทำงานทั้งหมดสามารถปรับระดับความสูงได้ การเพิ่มห้อง Focus room สำหรับการทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง และ Phone room สำหรับการคุยโทรศัพท์ส่วนตัว รวมถึงห้องดูแลและให้นมบุตรสำหรับพนักงานที่เป็นคุณพ่อหรือคุณแม่
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือความใส่ใจในคนทุกกลุ่ม (Inclusivity) ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง Hearing loop ที่ผู้มีปัญหาทางการได้ยินสามารถเชื่อมต่อสัญญาณเข้ากับเครื่องช่วยฟัง เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมหรือการประชุมได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังคำนึงถึงผู้ใช้วีลแชร์ โดยอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น สวิตช์ไฟ เครื่องอ่านบัตรพนักงาน ได้รับการติดตั้งในระดับความสูงที่เหมาะสม รวมถึงประตูอัตโนมัติที่เข้าออกได้ง่ายสำหรับผู้ใช้วีลแชร์
ไมโครซอฟท์ยังสร้างสถานที่ทำงานยุคใหม่ (Modern Workplace) ที่เสริมประสิทธิภาพการสื่อสาร และการทำงานร่วมกันจากทุกที่ เพิ่มเติมจากโซลูชั่นและ Copilot ที่เป็นผู้ช่วยทำงานของทุกคนแล้ว ภายในออฟฟิศยังมีอุปกรณ์ที่ทำให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ เช่น ในห้องประชุมติดตั้งกล้องที่กระดานไวท์บอร์ดพร้อมระบบ AI เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมออนไลน์มองเห็นข้อความบนกระดานได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ทุกห้องยังติดตั้งทีวีหรือ Surface Hub ขนาดใหญ่ และสุดท้ายคือการใส่ใจความยั่งยืน (Sustainability) โดยเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน
สะท้อนความผูกพันกับประเทศไทย
แนวคิด “Digital Harmony” ได้รับการถ่ายทอดลงในองค์ประกอบต่างๆ ภายในออฟฟิศแห่งใหม่นี้ ผสานความล้ำสมัยของโลกดิจิทัลเข้ากับเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างลงตัว ทั้งลวดลาย วัสดุ และของตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น ลายดอกราชพฤกษ์ ปลากัด ปลาตะเพียน รวมถึงภาพหนุมานที่ประกอบขึ้นจากตัวอักษรและตัวเลขไทย ทุกองค์ประกอบเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย และพร้อมที่จะเติบโตเคียงข้างประเทศไทย
“เราตั้งใจให้ออฟฟิศใหม่ของเราเป็นสถานที่ที่ส่งเสริมให้คนกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงความคิดเห็น โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับคนไทย องค์กรธุรกิจ และประเทศไทย ให้ก้าวไปสู่อนาคตในโลกยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนร่วมกัน” นายธนวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ ออกแบบและพัฒนาเครื่องมือ และผู้ช่วย AI ให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกมากขึ้น อาทิ Microsoft Teams และ Microsoft 365 มาพร้อมกับ AI agents ที่มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยสนับสนุนพนักงาน ได้แก่ SharePoint agent รวบรวมความรู้จากเอกสารในทีม, Facilitator ช่วยจัดการการประชุม, Interpreter ช่วยแปลภาษา, Project manager ช่วยจัดการโครงการ และ Employee service ตอบคำถามช่วยเหลือพนักงานในเบื้องต้น
รวมถึง Copilot ซึ่งเป็น UX for AI แห่งอนาคต เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน ช่วยให้พนักงานมีเวลาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้มากขึ้น หรือพัฒนาทักษะที่ต้องการเพิ่มเติม และมีความพึงพอใจกับการทำงานมากขึ้น