คลังเก็บ

LINE ประเทศไทย ปักธงปีที่ 12 หนุนขับเคลื่อน Smart Country ด้วย LINE Economy ชูแพลตฟอร์มเพื่อคุณภาพชีวิตคนไทยผสานการเติบโตเศรษฐกิจดิจิทัลแบบยั่งยืน

LINE ประเทศไทย ปักธงครบรอบ 12 ปี ตั้งเป้าขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น Smart Country ด้วย LINE Economy ระบบเศรษฐกิจบนแอปพลิเคชั่น LINE ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 54 ล้านคน

มุ่งผลักดันการพัฒนาและทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างภาคเทคโนโลยีและภาคส่วนผู้ใช้งานต่าง ๆ บน 4 กลยุทธ์ ได้แก่ (1) ผสานจุดแกร่งระบบนิเวศเพิ่มขีดการแข่งขัน (2) ชูการเป็น Smart Platform ขับเคลื่อน Smart Country (3) สร้างคุณภาพชีวิต Life on LINE ที่ดีบนโลกดิจิทัล และ (4) ส่งเสริมการเติบโตยั่งยืนของเทคคอมพานี

LINE

ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “LINE ก้าวสู่ปีที่ 12 เราเติบโตจากแอปพลิเคชั่นสื่อสารมาเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันที่สำคัญของผู้ใช้งานกว่า 54 ล้านคนในปัจจุบัน (ณ มิถุนายน 2566) 

โดยมีประชากรผู้ใช้หลากหลายภาคส่วน ธุรกิจ พันธมิตร คอมมูนิตี้ ที่ทำงานร่วมกันกับบริการและโซลูชันส์ต่าง ๆ บนระบบนิเวศจนเกิดเป็นระบบเศรษฐกิจบนแอป LINE (LINE Economy) นำไปสู่โจทย์ทางธุรกิจข้อถัดไปของเราในการสร้างความยั่งยืนบนแพลตฟอร์มที่เติบโตนี้

โดยมีหมุดหมายสำคัญคือการผลักดันแพลตฟอร์ม LINE ด้วยบทบาทในระดับมหภาค บนความมุ่งมั่นของเราที่อยากจะเห็นแอปพลิเคชั่น LINE มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น Smart Country กล่าวคือ การที่เทคโนโลยีของ LINE มีบทบาทสำคัญในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สอดประสานเข้าด้วยกัน นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย”

กลยุทธ์สร้าง LINE Economy ระบบเศรษฐกิจบนแอป LINE ให้ยั่งยืน

1.     ผสานจุดแกร่งระบบนิเวศเพิ่มขีดการแข่งขัน

หลังเสริมทัพแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงและจัดกลุ่มธุรกิจใหม่เพื่อปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มพัฒนาแพลตฟอร์ม, กลุ่มธุรกิจ Consumer Business, กลุ่มธุรกิจ LINE For Business, กลุ่มธุรกิจคอนเทนต์และบริการใหม่ และกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  บริษัทฯ เดินหน้าสร้างพันธมิตร ไปพร้อมกับการผสานจุดแกร่งระหว่างบริการ – โซลูชันส์บนระบบนิเวศ เพื่อนำเสนอโซลูชันส์ในรูปแบบใหม่ ๆ ไปสู่การเพิ่มขีดการแข่งขันให้แก่ลูกค้าธุรกิจในทุกระดับ เป็นการดึงข้อได้เปรียบจากการเป็นแพลตฟอร์มที่มีโซลูชันส์ครบครัน สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ 

2.     ชูการเป็น Smart Platform ขับเคลื่อน Smart Country

หมุดหมายสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็น Smart Country คือการที่ทุกภาคส่วนในประเทศประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาเพื่อยกระดับการดำเนินการในส่วนต่าง ๆ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ซึ่ง LINE มุ่งหวังให้เทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มเป็นส่วนช่วยผลักดันในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ภาครัฐ ที่นำเสนอบริการ e-Service ให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าถึงและตรวจสอบการดำเนินการผ่านบัญชีทางการ LINE ได้ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน ภาคเอกชน ที่นำโซลูชันส์ต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม LINE มาสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจที่ต้องการแข่งขัน อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า และภาคประชาชน ด้วยประสบการณ์การใช้งานแอป LINE ในชีวิตประจำวันผ่านบริการและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การสื่อสาร โซเชียลมีเดีย ช้อปปิ้ง คอนเทนต์ข่าวสาร สั่งอาหารฯลฯ มากไปกว่านั้น คือการส่งเสริมให้ผู้ใช้สามารถเป็นได้หลากหลายบทบาทในเวลาเดียวกัน ทั้งครีเอเตอร์ แอดมินของคอมมูนิตี้ ผู้ประกอบการ โดยมี LINE เป็นแพลตฟอร์มรองรับ

3.    สร้างคุณภาพชีวิต Life on LINE ที่ดีบนโลกดิจิทัล

นอกจากบริการต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ บริษัทฯ ได้ริเริ่มแนวคิด LINE Digital Well-being ที่ต้องการปักหมุดในระยะยาวเพื่อให้ความสำคัญในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่บนโลกดิจิทัล โดยที่ผ่านมาได้ทำแคมเปญรณรงค์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการบริหารเวลาเพื่อลดความเหนื่อยล้าบนโลกออนไลน์ ความเห็นอกเห็นใจและทัศนคติเชิงบวกบนโลกออนไลน์  การดูแลความสัมพันธ์รอบตัว ซึ่ง LINE ประเทศไทย ก็ได้หยิบยกแง่มุมใหม่ ๆ มานำเสนอเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในประชากรผู้ใช้เพื่อสุขภาวะที่ดีบนโลกดิจิทัล

4.   ส่งเสริมการเติบโตยั่งยืนของเทคคอมพานี

การดูแล Well-being ของพนักงาน ไปพร้อม ๆ กับการสร้างคนรุ่นใหม่ให้กับอุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ จึงเดินหน้าพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ผ่านโครงการ LINE ROOKIE เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้ามาฝึกงานในโลกของการทำงานจริง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาเป็นจำนวนมากกว่าพันรายในแต่ละปี เพื่อสร้าง New Talent ให้กับตลาดงานและแลกเปลี่ยนแนวคิดจากคนรุ่นใหม่เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีแผนความร่วมมือที่จะนำความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาพัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศเพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพป้อนสู่ตลาดงานในประเทศภายในปี 2566 อีกด้วย