เข้าสู่ช่วงครึ่งปี 2020 เป็นที่เรียบร้อย เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีแพลนที่จะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ แต่ยังสองจิตสองใจไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปใช้รุ่นไหนดี วันนี้ทาง IbelieveIT เลยจะพามาส่อง 5 สมาร์ตโฟน Vivo มาแรง ปี 2020 กันครับ โดยจะมีรุ่นไหนที่ฮอตฮิต จนติดท็อปชาร์ตบ้าง ขอเชิญติดตามรับชมไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
Vivo Y11
เริ่มกันที่น้องเล็ก แต่ความสามารถไม่เล็กนะจะบอกให้ สำหรับ Vivo Y11 เป็นสมาร์ตโฟนซีรีส์ Y ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสมาร์ตโฟน beginning โดยพร้อมตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นที่มองหาสมาร์ตโฟน “จอใหญ่ แบตอึด ราคาประหยัด” ซึ่งจุดเด่นของ Vivo Y11 ยังคงจัดเต็มแบบรอบด้าน ทั้งในเรื่องดีไซน์ทูโทนที่ดูสวยงามพรีเมี่ยม พร้อมสเปคต่อราคาก็โดดเด่นไม่เป็นสองรองใครแต่อย่างใด และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาส่องกันว่า Vivo Y11 ในราคา 3,999 บาท นั้นมีจุดเด่นและความคุ้มค่าอย่างไรกันบ้าง จึงทำให้สามารถติด Top 5 สมาร์ตโฟน Vivo สุดร้อนแรงของปี 2020
จุดเด่น Vivo Y11
- ดีไซน์แบบทูโทน พร้อมใส่ลวดลายเท็กเจอร์ไว้ในฝาหลัง ซึ่งเป็นการออกแบบอย่างเหนือชั้นผ่านกระบวนการการผลิตด้วยการเคลือบสีในชั้นเลเยอร์อย่างมีระดับ ส่งผลให้ตัวเครื่องจะแสดงสีสันที่แตกต่างยามเมื่อแสงตกกระทบกับตัวเครื่องในมุมต่าง ๆ
- หน้าจอ Halo FullView Display ใหญ่เต็มตามาพร้อมรอยบากรูปทรงหยดน้ำในขนาด 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 × 1544 pixels) ในอัตราส่วนการแสดงผล 19.3:9 ที่ใหญ่เต็มตารับชมคอนเทนต์ได้เต็มอรรถรส โดยมีพื้นที่แสดงผลต่อตัวเครื่องสูงถึง 89% เลยทีเดียว
- เล่มเกมไม่มีสะดุด ด้วยฟีเจอร์ Ultra-Game Mode ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ Multi-Turbo สามารถตอบโจทย์เหล่านักเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิสูงสุดในขณะเล่นเกม โดยโหมดนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วของเกม และลดปัญหาเฟรมเรตตก ทำให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดติดขัดให้หงุดหงิดใจ
- กล้องหลังคู่ AI Dual Camera 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล ที่ให้ความคมชัดและขับเคลื่อนด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์อันชาญฉลาด ผสานกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมค่ารูรับแสง f/1.8 โดยจุดขายยังคงเป็น AI Face Beauty ที่สามารถวิเคราะห์เพศและใบหน้า พร้อมปรับแต่งให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามตรงใจผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม
- แบตสุดอึด ความจุสูงถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อย ๆ
สเปคเบื้องต้น
- ชิปเซ็ต Qualcomm SDM439 Snapdragon 439
- หน้าจอ Halo FullView Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 × 1544 pixels)
- แรม 3GB
- รอม 32GB
- กล้องหลัง เลนส์คู่ AI Dual Camera 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย (Funtouch 9.1)
- แบตเตอรี่ 5,000mAh
- สีที่วางจำหน่ายในไทย Mineral Blue และ Agate Red ราคาเปิดตัว 3,999 บาท
สรุป Vivo Y11
ถือว่าเป็นรุ่นเล็กที่เข้ามาเติมเต็มให้กับกลุ่มผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่มาพร้อมจอใหญ่ แบตอึด สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อย ๆ โดยตัวเครื่องไม่ต้องแรงมาก แต่สามารถรองรับการใช้งานทั่วไป ๆ รวมถึงเล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่ง Vivo Y11 นั้นตอบโจทย์ที่กล่าวมาทั้งหมด แถมเรื่องกล้องที่ไม่ได้คาดหวังไว้ตั้งแต่แรก แต่เมื่อได้ลองสัมผัสแล้วก็ทำผลงานได้ดีเกินคาดอีกด้วย จึงส่งผลให้ Vivo Y11 กลายเป็นสมาร์ทโฟน Beginning ระดับหัวแถว ที่ครบครัน ครบเครื่อง ในงบประมาณที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าในเรทราคาเดียวกัน Vivo Y11 ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน
อ่านรีวิว Vivo Y11 ได้ที่นี่ >>>
Vivo Y15 2020
ต่อกันด้วย Vivo Y15 2020 นี่คือซีรีส์ Y สุดคุ้มในราคาครึ่งหมื่น โดยยังคงมาพร้อมจุดเด่น “จอใหญ่ แบตอึด ราคาประหยัด” แต่สเปคและฟีเจอร์ก็ได้มีการยกระดับขึ้นมาอีกขั้น ทั้งเรื่องของขนาด RAM/ROM และกล้องหลังหลัง 3 เลนส์ ซึ่งสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานได้ครบ target ของ Vivo อย่างแท้จริง
จุดเด่น Vivo Y15 2020
- ดีไซน์แบบพรีเมี่ยมด้วยการใช้เทคโนการผลิตขั้นสูง มาพร้อมสี Phantom Black และ Burgundy Red ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
- จอแสดงผล Halo FullView™ Display ชนิด IPS LCD 16 ล้านสี ที่ให้สีสันสว่างสดใส มีความคมชัดให้มุมมองกว้าง มี Respond การตอบสนองที่อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ และมี Software ที่ช่วยปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น อีกทั้งยังมาพร้อมขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6.35 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.3:9 โดยมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 89% และมาพร้อม Notch หรือรอยบากในรูปทรงหยดน้ำขนาดเล็ก เมื่อผสานกับขอบจอที่บางเฉียบ จึงส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
- เล่มเกมได้อย่างลื่นไหล ด้วย RAM 4GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 64GB พร้อมขับเคลื่อนด้วยด้วยฟีเจอร์ Ultra-Game Mode ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ Multi-Turbo สามารถตอบโจทย์เหล่านักเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิสูงสุดในขณะเล่นเกม โดยโหมดนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วของเกม และลดปัญหาเฟรมเรตตก ทำให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดติดขัดให้หงุดหงิดใจ
- กล้องหลัง 3 เลนส์ มาพร้อมโหมด Ultra wide angle ให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 120 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป
- กล้องหน้าสุดคมชัด 16 ล้านพิกเซล โดดเด่นด้วย AI Face Beauty ที่ตอบโจทย์หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่ได้อย่างลงตัว
- แบตสุดอึด ความจุสูงถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อย ๆ
สเปคเบื้องต้น
- ชิปเซ็ต Mediatek MT6762 Helio P22
- หน้าจอ HHalo FullView Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ 720 × 1544
- แรม 4GB
- รอม 64GB
- กล้องหลัง กล้องหลัง: 3 เลนส์ AI Triple Camera กล้องหลัก 13ล้านพิกเซล + กล้องมุมมองกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + กล้องตัวที่ 3 depth sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย (Funtouch 9.2)
- แบตเตอรี่ 5,000mAh
- สีที่วางจำหน่ายในไทย Phantom Black, Burgundy Red ราคาเปิดตัว 4,999 บาท
สรุป Vivo Y15 2020
สเปคในภาพรวมแรงขึ้นมาจาก Y11 แบบพอสัมผัสได้ แต่ก็ยังทำราคาที่จับต้องได้ง่ายเหมือนเช่นเคย ซึ่งต้องบอกเลยว่าในด้านการใช้งานจริงถือว่าทำได้ดีสมราคาค่าตัวมาก ๆ เพราะนอกจากเรื่องความคุ้มค่าแล้ว Vivo Y15 2020 ยังคงมาพร้อมความโดดเด่นตั้งแต่การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่อง ด้วยการเลือกใช้โทนสีแบบทูโทน ที่ให้ความสวยงามโดยสามารถแสดงสีสันที่แตกต่างกันได้ยามเมื่อมีแสงตกกระทบกับตัวเครื่อง และยังมาพร้อมแบตสุดอึดใช้งานได้ยาวนานข้ามวัน รวมถึงหน้าจอ Halo FullView Display ที่ใหญ่เต็มตา รองรับการใช้งานทั่วไปและด้านความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม
ส่วนกล้องหลัง 3 เลนส์ Triple Camera และกล้องหน้าทำผลงานได้ดี ไม่แพ้รุ่นพี่ในซีรีส์ Y ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านั้น เมื่อมองในภาพรวมแล้ว คงต้องบอกว่า Vivo Y15 2020 เป็นสมาร์ทโฟนต์ราคาครึ่งหมื่น ที่มาพร้อมความครบครัน ครบเครื่อง ทั้งด้านดีไซน์, ประสิทธิภาพ, ฟีเจอร์, คุณภาพกล้อง และความคุ้มค่าอย่างแท้จริงครับ
อ่านรีวิว Vivo Y15 2020 ได้ที่นี่ >>>
Vivo Y30
เปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. 63 ที่ผ่านมา สำหรับ Vivo Y30 สมาร์ตโฟนซีรีส์ Y เจนเนอเรชั่นล่าสุดของต้นปี 2020 โดย Y30 มาพร้อมจุดเด่นที่มีการอัพเกรดแบบพลิกโฉม ทั้งเรื่องของดีไซน์ สเปคภายใน และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเป็นการอัพเกรดให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่นอกจากจะมองหาสมาร์ตโฟนสุดคุ้มแล้ว ยังต้องพร้อมตอบโจทย์การใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อีกด้วยนั่นเอง ซึ่ง Vivo Y30 นั้นไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะมาพร้อมความโดดเด่นรอบด้าน ทั้งหน้าจอแสดงผล Ultra O Screen ใหญ่เต็มตารับชมคอนเทนต์สะใจ แถมยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ Dazzling 3D Colors ที่ให้ความหรูหราพรีเมี่ยม และกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมแบตสุดอึดความจุสูงถึง 5,000mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานข้ามวัน
จุดเด่น Vivo Y30
- ดีไซน์ Dazzling 3D Colors ให้สีสันที่สง่างามพร้อมแฝงไว้ด้วยความพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากธรรมชาติ ที่ผสานให้สีสันบนตัวเครื่องมีการไล่เฉดอย่างมีระดับ โดยผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง การไล่ระดับสีบนตัวเครื่องจึงดูมีมิติสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อยามที่แสงและเงากระทบบนตัวเครื่อง ส่งผลให้ในบางมุมจะแสดงสีสันที่แตกต่างกันออกไป
- มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Ultra O Screen Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1560 × 720 พิกเซล) ในอัตราส่วน 19.5:9 มีความคมชัดสว่างสดใส ให้มุมมองกว้างตามสไตล์พาเนล IPS แถมยังโดดเด่นด้วยสัดส่วนระหว่างหน้าจอต่อตัวเครื่องที่สูงถึง 90.77% เลยทีเดียว
- กล้องหลังจัดเต็มสุดคมชัดด้วย AI Quad Camera กล้อง 4 เลนส์ที่ถ่ายได้ครบทุกระยะ ทั้ง Super Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา ถ่าย portrait ได้อย่างมืออาชีพด้วยเลนส์ Bokeh ที่ละลายฉากหลังได้ละมุนละไม และเลนส์มาโครที่ถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม.
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ AI Face Beauty และ Bokeh effect
- ROM 128GB ลงแอป ลงเกม และเก็บข้อมูลส่วนตัวได้อย่างจุใจ โดยไม่ต้องกลัวว่าพื้นที่จะเต็มไว
- แบตสุดอึด ความจุสูงถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อย ๆ
- มาพร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging ที่แปลงร่างให้ Y30 กลายเป็นพาวเวอร์แบงค์เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ ผ่านทางสาย OTG เรียกว่านอกจากแบตอึดแล้วยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองที่พกพาติดตัวไปตลอดเวลาอีกด้วย
สเปคเบื้องต้น
- ชิปเซ็ต Mediatek MT6765 Helio P35
- หน้าจอ Ultra O Screen ชนิด IPS LCD ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1560 × 720 พิกเซล)
- แรม 4GB
- รอม 128GB
- กล้องหลัง: 4 เลนส์ AI Quad Camera
เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
เลนส์ Super Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 - กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.05
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch 10 บนพื้นฐานของ Android 10
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับฟีเจอร์ Reverse Charging
- สีที่วางจำหน่ายในไทย Dazzle Blue (น้ำเงิน)/ Moonstone White(ขาว) ราคาเปิดตัว 6,999 บาท
สรุป Vivo Y30
หลังจากได้ลองสัมผัส Vivo Y30 มาสักพักใหญ่ ๆ สิ่งแรกที่ประทับใจมาก ๆ ก็คือดีไซน์ที่มีความสวยล้ำทันสมัย ด้วยการออกแบบ Dazzling 3D Colors ส่งผลให้ Y30 เป็นสมาร์ทโฟนที่มองนาน ๆ ก็ไม่รู้สึกเบื่อแต่อย่างใด ในส่วนของสเปคแม้จะได้แรงเท่าซีรีส์ V แต่ตัวชิปเซ็ตและพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องสูงถึง 128GB ทำให้รองรับการใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมโดยปรับกราฟิกให้สมดุลก็สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นโดยไม่รู้สึดอึดอัดแต่อย่างใด
และแน่นอนสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือคุณภาพกล้องหน้า/หลัง ซึ่ง Vivo Y30 สามารถสอบผ่านได้แบบสบาย ๆ เพราะทำผลงานได้ดีตามเกณฑ์มาตรฐานของทางค่าย เมื่อรวมกับแบตสุดอึดความจุมหาศาลถึง 5,000mAh พร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging ในราคาต่ำหมื่น สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ Vivo Y30 เป็นสมาร์ทโฟนซีรีส์ Y ที่มาพร้อมความครบครัน ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความสวยงามและความคุ้มค่าอย่างแท้จริง
อ่านรีวิว Vivo Y30 ได้ที่นี่ >>>
Vivo Y50
Vivo Y50 เปิดตัวมาพร้อมหน้าจอ Ultra O Screen หรือหน้าจอที่มีกล้องเจาะรูเป็นรุ่นแรกของ Y ซีรีส์ รวมถึงกล้องหลัง 4 เลนส์เหมือนรุ่นพี่ในซีรีส์ V อีกด้วย ในส่วนของดีไซน์ มาพร้อมการออกแบบที่เรียกว่า Dazzling 3D Colors โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ด้วยแสงและเงาที่กระทบบนตัวเครื่อง ทำให้มีมุมมองสีสันที่แตกต่างกัน และดูมีมิติมากยิ่งขึ้น เมื่อมองไปที่สเปคก็ถือว่าให้มาแบบครบ ๆ ทั้ง RAM 8GB / ROM 128GB ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน เอาเป็นว่านี่คือ Y ซีรีส์ที่มาพร้อมความสุดแบบรอบด้าน
จุดเด่น Vivo Y50
- ดีไซน์ Dazzling 3D Colors ให้ฟิลลิ่งสง่างามพรีเมี่ยม มาพร้อมความบางเบา และออกแบบตาม
หลัก Ergonomics ที่มีความโค้งแบบ 3D Micro Arc จึงจับถือพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว - หน้าจอ Ultra O Screen หรือหน้าจอที่มีกล้องเจาะรูเป็นรุ่นแรกของ Y ซีรีส์
- กล้องหลัง 4 เลนส์ คุณภาพจัดเต็ม พร้อมให้ฟีเจอร์มาแบบกระทบไหล่ซีรีส์ V
- กล้องหน้ามี Super Night Mode มาให้ใช้งาน ช่วยให้เซลฟี่ได้สวยใสในทุกสภาพแสง
- สเปคแรงในระดับเล่นเกมที่มีกราฟิกสูง ๆ ได้อย่างไหลลื่น
- แบตสุดอึด ความจุสูงถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อย ๆ
สเปคเบื้องต้น
- ชิปเซ็ต Qualcomm SM6125 Snapdragon 665
- หน้าจอ Ultra O Screen ชนิด IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 × 2340 (FHD+) อัตราส่วน 19.5: 9
- แรม 8GB
- รอม 128GB
- กล้องหลัง: 4 เลนส์ AI Quad Camera
เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
เลนส์ Super Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 - กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch 10 บนพื้นฐานของ Android 10
- แบตเตอรี่ 5,000mAh
- สีที่วางจำหน่ายในไทย Starry Black/Iris Blue ราคาเปิดตัว 7,999 บาท
สรุป Vivo Y50
วีโว่ส่ง Y50 มาลงตลาดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนหน้าจอใหญ่ สเปคแน่น กล้องสวย เล่นเกมเด่น แบตอึด ๆ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ๆ ซึ่ง Vivo Y50 ถือว่าตอบโจทย์ลงตัวโดยไม่มีข้อกังขาแต่อย่างใด ใครที่มองหาความครบครัน ในราคาไม่ถึงหมื่น Vivo Y50 ตอบโจทย์อย่างแน่นอนครับ
อ่านรีวิว Vivo Y50ได้ที่นี่ >>>
Vivo V19
ปิดท้ายกันด้วย Vivo V19 สมาร์ตโฟนซีรีส์ V รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมนิยาม “Ignite your night” จุดประกายยามค่ำคืนให้เติมเต็มกว่าที่เคย โดย Vivo V19 มาพร้อมความโดดเด่นด้วยกล้องหน้าเลนส์คู่แบบฝังในจอแสดงผล ซึ่งนับว่าเป็นเจเนเรชั่นที่ 2 ที่ได้มีการอัพเกรดคุณสมบัติในภาพรวมขึ้นไปอีกขั้น ส่วนกล้องหลัง AI 4 เลนส์ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมาพร้อมดีไซน์พรีเมี่ยม และขับเคลื่อนด้วยสเปคจัดเต็ม ซึ่งเมื่อรวมกับฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่อัดแน่นอยู่ภายใน ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยของแฟน ๆ ซีรีส์ V อย่างแน่นอน
จุดเด่น Vivo V19
- ดีไซน์หรูหรา พรีเมี่ยม กล้องหลังดีไซน์แบบ Retro-styled ตัวเครื่องถูกออกแบบตามหลัก Ergonomic ที่ให้ความโค้งมนแบบ 3D จึงสอดรับกระชับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่เต็มตา 6.44 นิ้ว สามารถแสดงขอบเขตสีตามมาตรฐาน DCI-P3 ได้สูงถึง 100% ใช้วัสดุ E3 OLED ได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV ประเทศเยอรมัน ในด้านความปลอดภัยจากจากแสงสีฟ้า รวมถึงยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันการกระพริบ ที่ทำให้เกิดภาพสั่นไหวขณะหน้าจอมีความสว่างต่ำ (Low Brightness Anti-Flicker)
- มาพร้อมนวัตกรรม In-Display Fingerprint Scanning หรือการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายในจอแสดงผล โดยเจนเนอเรชั่นล่าสุดมีการอัพเกรดตัวเซ็นเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ จึงส่งผลให้การทำงานมีความรวดเร็วแม่นยำที่ดีมากยิ่งขึ้น
- กล้อง 6 ตัว มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เด่นทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมาย อาทิเช่น Selfie Softlight Band, AI Super Night Selfie, AI Image Matting, Ultra Stable Selfie Video, Ultra Stable Video, Art Portrait Video, AI Video Editor
- Multi-Turbo 3.0 บน Vivo V19 จะพาผู้ใช้งานไปสัมผัสประสบการณ์ความรวดเร็วด้วย ART++ Turbo เพื่อเพิ่มความเร็วในการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่น โดยฟีเจอร์ Game Turbo จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสัมผัสให้เร็วขึ้น และการตอบสนองได้ไวขึ้น พร้อมด้วย Center Turbo ที่ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกได้ถึง 78.05%
- ขับเคลื่อนด้วย Hardware อันทรงพลัง ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 712, GPU Adreno 616, RAM 8GB (LPDDR4X) ROM 128GB (UFS 2.1) พร้อมตอบโจทย์การใช้งานหนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรนเดอร์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K การเล่มเกมที่มีกราฟิกพร้อมตั้งค่าความละเอียดสูง ๆ ได้แบบสบาย ๆ
- ระบบระบายความร้อน Copper Tube Liquid Cooling ระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ที่ใช้ประโยชน์จากการถ่ายเทความร้อนระหว่างของเหลว และไอน้ำเพื่อให้เกิดการกระจายความร้อนอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทำให้อุณหภูมิ CPU ลดลง 3~7 ℃
- มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,500mAh ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานครบวัน แถมยังมีระบบชาร์จไวด้วยเทคโนโลยี 33W vivo FlashCharge 2.0 ที่ใช้เวลาเพียง 30 นาที สามารถชาร์จได้ถึง 54% พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 9 ชั้น
สเปคเบื้องต้น
- ชิปเซ็ต Qualcomm SDM712 Snapdragon 712
- หน้าจอ Ultra O Screen Display ชนิด Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 1080 × 2400 (FHD+) อัตราส่วน 20:9 ขอบเขตสี DCI-P3 100% รองรับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วในจอแสดงผล In-display Fingerprint Scanning
- แรม 8GB
- รอม 128GB
- กล้องหลัง: 4 เลนส์ AI Quad Camera
เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
เลนส์ Super Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 - กล้องหน้าคู่ : กล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.08 + เลนส์ Super Wide-Angle 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.28
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch 10 บนพื้นฐานของ Android 10
- แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 – 33W
- สีที่วางจำหน่ายในไทย Gleam Black, Sleek Silverราคาเปิดตัว 12,999 บาท
สรุป Vivo V19
สมการรอคอยของแฟน ๆ ซีรีส์ V อย่างแท้จริง โดยเฉพาะถ้าหากเคยประทับใจกับ Vivo V17 มาก่อน เชื่อว่าจะตกหลุมรัก Vivo V19 ยิ่งกว่า เพราะนี่คือการอัพเกรดในแบบรอบด้าน ทั้งเรื่องดีไซน์ที่พรีเมี่ยมขึ้น หน้าจอใหญ่ แสดงผลสวยงามคมชัดสมจริง กล้องหน้าเลนส์คู่ผสานกล้องหลังสี่เลนส์ ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นในที่แสงน้อยหรือเวลากลางคืน พร้อมขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 712 รองรับการใช้งานได้เต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทั้งการรับชมคอนเทนต์และการเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ได้สบาย ๆ แถมเครื่องไม่ร้อนด้วยเทคโนโลยี ระบายความร้อนอัจฉริยะ เมื่อรวมกับแบตสุดอึดที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว 33W Vivo FlashCharge 2.0 ส่งผลให้ Vivo V19 เป็นสมาร์ตโฟนระดับ Mid-range ที่มาพร้อมความครบครัน คุ้มค่า สามารถตอบทุกโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
อ่านรีวิว Vivo V19 ได้ที่นี่ >>>
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 สมาร์ตโฟนสุดร้อนแรงจากค่ายวีโว่ เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงมีตัวเลือกในใจเป็นที่เรียบร้อย สำหรับในภาพรวมต้องบอกว่าทั้ง 5 รุ่นสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานได้ครบทุก target ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น หรือระดับโปรที่ต้องการประสิทธิภาพขั้นสุด ก็สามารถเลือกสมาร์ตโฟนที่ตรงใจและอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอนครับ