รายงานผลการสำรวจวิจัยของแคสเปอร์สกี้เรื่อง More Connected Than Ever Before: How We Build Our Digital Comfort Zones เผยว่า 46% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นรู้สึกสบายใจดีเวลาที่แชร์บริการสตรีมมิ่ง (streaming services) กับเพื่อนร่วมเคหะสถาน อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสาม (32%) ก็มีความค่อยแน่ใจเท่าใดว่าบัญชีที่ใช้อยู่นั้นจะปลอดภัยนัก เพราะว่าตนไม่รู้อุปนิสัยพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลของเพื่อนร่วมบ้าน
ข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 และความจำเป็นที่ต้องจำกัดกิจกรรมอยู่แต่ภายในเคหะสถานนั้น มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตการใช้บริการดิจิทัลของผู้คน ทำให้ต้องหันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของทั้งตนเองและเพื่อนร่วมบ้านกันมากขึ้นในการใช้งานอินเทอร์เน็ต นี่รวมถึงการตัดสินใจว่าสมาชิกร่วมบ้านเดียวกันควรจะใช้บัญชีบนแพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนท์ร่วมกันดีไหม หรือเรียนรู้พฤติกรรมออนไลน์ของแต่ละคนมากขึ้นว่าเสี่ยงไหม เป็นต้น
จากการวิจัยพบว่าบริการออนไลน์หลายประเภทนั้นสามารถรวมทุกคนเข้ามาด้วยกันได้ และก็ยังเต็มใจที่จะแชร์ข้อมูลบัญชีส่วนตัวด้วย เพื่อที่จะให้คนในบ้านเดียวกันได้ใช้งานบัญชีไปด้วยกัน เช่น การแบ่งแอคเซสเข้าใช้สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มนั้น หนึ่งในสาม (33%) บอกว่าแชร์พวกบัญชีซื้อจับจ่ายสินค้าออนไลน์ จำพวก eBay, Amazon Prime เป็นต้นกับคนในบ้านเดียวกัน อีก 30% รับว่าแชร์บัญชีฟู้ดดิลิเวอรี่กันในบ้าน และยังมีการแชร์จำพวกสมาชิกเกมส์ออนไลน์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ว่าผู้เข้าร่วมการวิจัยทุกคนจะมั่นใจกับความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตเมื่อต้องมาใช้ร่วมกัน และจะส่งผลกระทมบต่อพฤติกรรมดิจิทัลของพวกตนหรือไม่ เช่น 43% กล่าวว่าตนรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นเช่นบริการสตรีมมิ่งหรือเกมมิ่ง หนึ่งในสี่ (24%) กังวลกับพฤติกรรมออนไลน์ของเพื่อนร่วมชายคาว่าจะกระทบกับความเร็วอินเทอร์เน็ต และจะมากระเทือนกับความมันส์ในการเล่นเกมออนไลน์ของตน
“การใช้ชีวิตร่วมกันแชร์สิ่งต่างๆ กันนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาของโลกทุกวันนี้ และหลายๆ บ้านแชร์อินเทอร์เน็ต และแอคเซสใช้บริการออนไลน์อีกหลายอย่าง เพราเราย่อมรู้สึกเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมบ้านของเรา เลยแชร์บริการออนไลน์ให้ใช้งานร่วมกันได้ง่ายกว่า ได้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ต้องยุ่งยากอะไร แต่ว่าหากเรามองข้ามเรื่องที่เราแชร์ข้อมูลส่วนตัวแม้จะแชร์กับสมาชิกบ้านเดียวกันก็ตาม ก็เพิ่มความเสี่ยงที่คนอื่นนอกบ้าน นอกกลุ่มจะมาล่วงรู้ข้อมูลเหล่านั้นด้วย ผู้ให้บริการบางรายจึงมีนโยบายออกมาโดยเฉพาะ เพื่อเป็นมาตรการช่วยในกรณีผู้ใช้หลายคนต่อหนึ่งสมาชิกภาพ โดยไม่จำเป็นต้องแชร์รหัสผ่าน ไม่ว่าคุณจะอยู่ร่วมกับใครหรือไม่ก็ตาม เราแนะนำว่าคุณควรจะต้องมีการป้องกันอุปกรณ์สื่อสารและข้อมูลสำคัญส่วนตัวของคุณให้ปลอดภัยด้วยไซเบอร์ซีเคียวริตี้โซลูชั่นที่มีสมรรถนะแข็งแกร่ง เพื่อให้แน่ใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะได้รับการปกป้องอยู่เสมอ” แอนดรูว์ วินตัน รองประธาน ฝ่ายการตลาด แคสเปอร์สกี้ กล่าว
แคสเปอร์สกี้ได้มีคำแนะนำแก่ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน เพื่อป้องกันอุปกรณ์สื่อสารดังต่อไปนี้
- อย่าคลิ้กลิ้งก์ที่แชร์ส่งต่อผ่านอีเมล์ที่ไม่รู้จักที่มาหรือน่าสงสัย ประการแรก ตรวจสอบว่าผู้ส่งเป็นของจริงหรือไม่ เช่น ตรวจสอบเว็บไซต์ทางการว่าเข้าไปตามนั้นได้หรือไม่
- อย่าแชร์ข้อมูลส่วนตัวหรือให้ผู้อื่นมาใช้แอคเซสของเรา ยกเว้นเสียแต่ว่าในกรณีจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ซึ่งจะเป็นการลดโอกาสที่ข้อมูลของเราจะรั่วออกอินเทอร์เน็ต
- ติดตั้งโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีสมรรถนะ อาทิ Kaspersky Password Manager เพื่อสร้างและป้องกันรหัสผ่านที่มีความเฉพาะตัวและแกะยากสำหรับใช้กับบัญชีต่างๆ ที่มีอยู่ ลดโอกาสที่จะกลับไปใช้รหัสตัวเก่าซ้ำอีก
- ติดตั้งซีเคียวริตี้โซลูชั่นที่มีสมรรถนะ อาทิ Kaspersky Security Cloud ซึ่งมีฟีเจอร์ Account Check ในการป้องกันข้อมูลรายละเอียดของบัญชีออนไลน์ของคุณได้ และแจ้งเตือนเมื่ออาจจะเกิดความสุ่มเสี่ยงกับข้อมูล
เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้คนในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ ทางแคสเปอร์สกี้ได้นำเสนอคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยเพื่อการสร้างโซนดิจิทัลที่ปลอดภัยของตัวคุณเอง Digital Comfort Zone เช่น คุณสามารถที่จะเรียนรู้วิธีการที่จะป้องกันชีวิตดิจิทัล ของคุณรวมทั้งวิธีแชร์สมาชิกภาพบัญชีออนไลน์ให้แก่สมาชิกร่วมบ้านใช้งานร่วมกันอย่างปลอดภัย