iQOO ประกาศเปิดตัว iQOO 13 อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน โดยเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 8 Elite อันทรงพลังของ Qualcomm และชิป SuperComputing รุ่นที่สอง Q2 ของบริษัท มาดูสเปกกัน
สเปก iQOO 13
ตัวเครื่องมีความหนา 7.99 มม. หรือ 8.13 มม. และน้ำหนัก 207 กรัม หรือ 213 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ LTPO AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1260 x 2800 พิกเซล ขนาด 6.82 นิ้ว (450ppi) ในอัตราส่วน 20:9, ความสว่างสูงสุด 4500nits โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 144Hz และรองรับ HDR10+ และพัฒนาโดยใช้วัสดุเรืองแสง Q10 ของ BOE
นอกจากภาพที่คมชัดแล้ว จอภาพใหม่นี้ยังปรับปรุงความแม่นยำของสีได้ 50% อายุการใช้งานยาวนานขึ้น และลดการเลอะเทอะได้ 15% ทั้งยังใช้พลังงานน้อยลง 10% อีกด้วย
โดยหน้าจอขั้นสูงนี้ยังมาพร้อมกับโซลูชันปกป้องดวงตาที่ปรับแต่งเองโดย vivo ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติแสงโพลาไรซ์แบบวงกลมเพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา และระบบลดแสง PWM ความถี่สูง 2592Hz ที่ความสว่างสูงสุด ช่วยให้สบายตาแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน
ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 4.32GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8750-AB Snapdragon 8 Elite (3 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 830, RAM 12GB/16GB แบบ LPDDR5X, หน่วยความจำภายในแบบ UFS 4.1 การผสมผสานฮาร์ดแวร์ใหม่นี้ทำให้ได้รับคะแนนที่น่าประทับใจมากกว่า 3.15 ล้านคะแนนบน AnTuTu และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย OriginOS 5
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX921 รูรับแสง f/1.88, 1/1.56″ และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX816 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.85, 1/2.93″, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 2 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide เซ็นเซอร์ Samsung JN1 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, ระบบ AF และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
ระบบกล้องนี้มีคุณสมบัติซอฟต์แวร์ เช่น เอฟเฟกต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบมืออาชีพ ภาพบุคคลที่มีระยะโฟกัสหลายจุด โหมดกลางคืนระดับการทำงาน การสร้างภาพ 3 มิติ และโหมดถ่ายภาพสตรีทแบบฮิวแมนิสติกใหม่สำหรับการถ่ายภาพสตรีทที่สดใส
iQOO 13 รองรับการเล่นเกม 60fps ใน Naraka: Bladepoint และ 90fps พร้อมเปิดใช้การติดตามรังสีใน Dark Zone Breakout และ Honkai Impact 3 ที่น่าทึ่งคืออุปกรณ์นี้สามารถรักษา Genshin Impact ไว้ที่ 60fps ได้นานถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ iQOO ในการปรับแต่งทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิภาพความร้อน
นอกจากนี้ยังรองรับการแทรกเฟรมเรตผ่านชิป Q2 มอบอัตราเฟรมสูงสุดถึง 144fps ในเกมที่เข้ากันได้ และคุณสมบัติความละเอียดสูงสุดช่วยให้เล่นเกมได้ในระดับ 2K ในตอนแรกจำกัดอยู่แค่เพียงไม่กี่เกมเท่านั้น ตอนนี้คุณสมบัติเหล่านี้ครอบคลุมเกมความละเอียดสูงสุดมากกว่า 140 เกมและเกมความละเอียดสูงสุดมากกว่า 100 เกม โดยมี 98 เกมที่รองรับทั้งสองความสามารถพร้อมกัน
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, ติดตั้งระบบระบายความร้อน VC และมอเตอร์เชิงเส้นตรงแกน X คู่, ติดตั้งลำโพงสเตอริโอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, tri-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 6,150mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 100W
ทั้งนี้ iQOO 13 มีให้เลือก 4 สีคือ Legend, Track, Isle of Man และ Nardo Gray โดยวางจำหน่ายแล้วที่ประเทศจีน
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12GB+256GB ราคา 3,999 หยวนหรือประมาณ 19,830 บาท
- RAM 16GB+256GB ราคา 4,299 หยวนหรือประมาณ 21,320 บาท
- RAM 12GB+512GB ราคา 4,499 หยวนหรือประมาณ 21,320 บาท
- RAM 16GB+512GB ราคา 4,699 หยวนหรือประมาณ 21,320 บาท
- RAM 16GB+1TB ราคา 5,199 หยวนหรือประมาณ 23,300 บาท
ที่มา : Gizmochina