หกเดือน สี่ผู้ชนะ และหนึ่งผลิตภัณฑ์สุดพิเศษ ที่เปิดให้แฟน ๆ จากทั่วโลกของ Nothing ได้มีส่วนร่วมใน
การ co-create สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของเรา: Phone (2a) Plus ตั้งแต่ขั้นตอนดีไซน์ฮาร์ดแวร์ วอลเปเปอร์ แพ็คเกจจิ้ง และแคมเปญการตลาด โดยรอบนี้พิเศษสุดกับคอนเซปเรืองแสงในที่มืด พร้อมธีมหลักของแคมเปญคือ หิ่งห้อย
วันนี้ Nothing เปิดตัวผลลัพธ์ของโครงการ The Community Edition Project โดย Phone (2a) Plus Community Edition เป็นผลิตภัณฑ์ที่ร่วมสร้างสรรค์กับชุมชนเป็นครั้งแรกของ Nothing ซึ่งกลุ่มผู้ใช้งานที่มีความสามารถโดดเด่นบางส่วนได้ทำงานร่วมกับทีมผลิตของ Nothing โดยตรง ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ วอลเปเปอร์ ไปจนถึงแพ็คเกจจิ้ง และแคมเปญการตลาด
สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการของชุมชนของ Nothing อย่างแท้จริง เพื่อให้ร่วมกำหนดอนาคตของแบรนด์ Nothing ไปด้วยกัน Nothing กำลังก้าวสู่การทำงานรูปแบบใหม่ที่มุ่งลบเส้นแบ่งระหว่างบริษัทและชุมชน โครงการนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 900 คนจาก 47 ประเทศทั่วโลก
The Community Edition Project ถือเป็นโครงการนำร่องที่สำคัญครั้งแรกของ Nothing ในการร่วมสร้างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และคอนเทนต์ร่วมกับชุมชนผู้ใช้งาน นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตของธุรกิจร่วมกัน
ผู้ชนะ Astrid Vanhuyse, Kenta Akasaki, Andrés Mateos, Ian Henry Simmonds และ Sonya Palma
ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทีม Design Studio, Creative, Brand และ Marketing ของ Nothing ที่ลอนดอน
เพื่อปรับแนวคิดที่ชนะให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผลลัพธ์จากความร่วมมือนี้ระหว่างทีม Nothing และชุมชนก็คือ
Phone (2a) Plus Community Edition ซึ่งเป็นเวอร์ชันเรืองแสงในที่มืดของรุ่นยอดนิยม Phone (2a) Plus
ขั้นตอนที่ 1 – การออกแบบฮารด์แวร์
Astrid Vanhuyse & Kenta Akasaki ร่วมมือกับ Adam Bates ผู้อำนวยการด้านการออกแบบของ Nothing
และ Lucy Birley ดีไซเนอร์ด้าน CMF เพื่อทดลองใช้วัสดุและสีหลากหลายรูปแบบ นำ เสนอแนวคิด
“Phosphorescence” หรือ “การเรืองแสง” ให้เป็นจริง พร้อมคงเอกลักษณ์หลักของอุปกรณ์จาก Nothing
การออกแบบนี้ใช้วัสดุเรืองแสงสีเขียวที่ด้านหลังของโทรศัพท์ ซึ่งให้แสงนุ่ม ๆ ในที่มืด โดยทำงานแบบอนา
ล็อกไม่ต้องใช้พลังงาน และสามารถเรืองแสงได้นานหลายชั่วโมงก่อนจะค่อย ๆ จางลง และสามารถชาร์จแสง
ใหม่ได้เมื่อเจอกับแสงธรรมชาติ
ขั้นตอนที่ 2 – การออกแบบวอลเปเปอร์
เพื่อเสริมการออกแบบฮาร์ดแวร์ Andrés Mateos ได้ใช้เครื่องมือ AI ผสมผสานกับการออกแบบดิจิทัล
สร้างสรรค์ชุดวอลเปเปอร์ที่เรียกว่า “Connected Collection” โดยเริ่มจากโจทย์ให้พัฒนาวอลเปเปอร์สี่แบบ
แต่ Andrés และทีมงาน Nothing ได้แก่ Mladen M Hoyss ผู้อำนวยการด้านการออกแบบซอฟต์แวร์ และ
Ken Giang นักออกแบบซอฟต์แวร์ ได้ขยายชุดวอลเปเปอร์เป็นหกแบบ
ขั้นตอนที่ 3 – การออกแบบบรรจุภัณฑ์
Ian Henry Simmonds ได้ตีความการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของ Nothing ใหม่ด้วยแนวคิด “Less is More”
โดยใช้การครอบตัดแบบ super-macro ที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น ในบรรจุภัณฑ์ขั้นสุดท้ายมีการเพิ่ม
องค์ประกอบสะท้อนแสงที่เรืองแสงในที่มืด เพื่อเสริมให้เข้ากับการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ชนะเลิศ
ขั้นตอนที่ 4 – แคมเปญการตลาด
Sonya Palma ได้นำทุกองค์ประกอบมาผสานเข้าด้วยกันผ่านแนวคิดแคมเปญที่ลึกซึ้งและทรงพลังของเธอ
“Find your light. Capture your light” แคมเปญที่น่าดึงดูดนี้สะท้อนถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งแรกของ
Nothing ซึ่งมุ่งเน้นไปที่“สัญชาตญาณบริสุทธิ์” ทั้งสองแนวคิดสื่อถึงการค้นหาและแสดงพลังภายในของตัว
เราเอง Sonya ได้ร่วมงานกับทีมครีเอทีฟของ Nothing เพื่อพัฒนาเนื้อหาสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นแคม
เปญภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์
สร้างรากฐานจากชุมชนผู้ใช้งาน
การสร้างร่วมกันเป็นหัวใจของภารกิจของ Nothing ในขณะที่ Phone (2a) Plus Community Edition เป็น
โครงการที่ใหญ่ที่สุดของทีมชุมชนจนถึงปัจจุบัน Nothing ยังคงทำงานร่วมกับสมาชิกในชุมชนเพื่อพัฒนา
ซอฟต์แวร์และเนื้อหาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ในปี 2022 Nothing ยังได้แนะนำบทบาทของ ผู้สังเกตการณ์
คณะกรรมการชุมชน ซึ่งเป็นบุคคลที่ไดรั้บการเลือกตั้งเพื่อเป็นตัวแทนชุมชนแฟนในการประชุมคณะกรรมการบริหารของ Nothing
สถานที่วางจำหน่าย and Pricing
Nothing จะผลิต Phone (2a) และ Phone (2a) Plus Community Edition เพียง 1,000 เครื่องเท่านั้น ใน
ประเทศไทยจะมีให้ซื้อเพียง 25 เครื่องตามลำดับคิวการเข้าตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ CARNIVAL ออ
นไลน์ https://carnivalbkk.com/ ในราคา 15,490 บาท