Infinix ประกาศเปิดตัว Infinix Hot 40 Series อย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย Infinix Hot 40, Hot 40 Pro และ Hot 40i โดยชูจุดเด่นแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh และฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Xboost gaming engine เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ระหว่างเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น
![Infinix Hot 40 Series](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Series-1-1024x640.jpg)
สเปก Infinix Hot 40 Pro
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Pro-1.jpg)
ตัวเครื่องมีขนาด 168.6 x 76.6 x 8.3 มม. และน้ำหนัก 199 กรัม หน้าจอแสดงผลทรง Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2460 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz และความสว่างสูงสุด 500nits
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Pro-2.jpg)
พร้อมฟีเจอร์ Magic Ring ซึ่งเป็นโซนการแจ้งเตือนประเภท Dynamic Island โดยจะให้ข้อมูลเมื่อโทรศัพท์ถูกปลดล็อค กำลังชาร์จ หรือใช้ระหว่างการโทร
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Pro-3.jpg)
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Helio G99 (6nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC2 จับคู่กับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB/256GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13.5
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Pro-4.jpg)
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช Quad LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, (wide), 0.64µm และระบบ AF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ AI ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Series-2-1024x576.jpg)
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Pro-5-1024x639.jpg)
รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.1, NFC, พอร์ต USB Type-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 33W ชาร์จ 20-75% ภายใน 35 นาที
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-Pro-6-1024x640.jpg)
ทั้งนี้ Infinix Hot 40 Pro มีให้เลือก 4 สีคือ Palm Blue, Horizon Gold, Starlit Black และ Starfall Green ส่วนราคายังไม่มีการประกาศออกมาในตอนนี้
สเปก Infinix Hot 40
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-1-1024x1024.jpg)
ตัวเครื่องมีขนาด 168.6 x 76.6 x 8.3 มม. และน้ำหนัก 196 กรัม หน้าจอแสดงผลทรง Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2460 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz อัตราการสุ่มตัวอย่างการสัมผัสที่ดีกว่าสูงถึง 270 Hz และความสว่างสูงสุด 500nits พร้อมฟีเจอร์ Magic Ring
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek MT6769H Helio G88 (12nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G52 MC2 จับคู่กับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB/256GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13.5
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช Quad LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, (wide), 0.64µm และระบบ AF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ AI ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.1, NFC, พอร์ต USB Type-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 33W ชาร์จ 20-75% ภายใน 35 นาที
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40-2-1024x1024.jpg)
ทั้งนี้ Infinix Hot 40 มีให้เลือก 4 สีคือ Palm Blue, Horizon Gold, Starlit Black และ Starfall Green ส่วนราคายังไม่มีการประกาศออกมาในตอนนี้
สเปก Infinix Hot 40i
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40i-1-1024x1024.jpg)
ตัวเครื่องมีขนาด 163.6 x 75.6 x 8.3 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม หน้าจอแสดงผลทรง Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1612 พิกเซล ขนาด 6.56 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และความสว่างสูงสุด 480nits พร้อมฟีเจอร์ Magic Ring
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc T606 (12 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MP1 จับคู่กับ RAM 4GB/8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB/256GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช Quad LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, (wide), 0.64µm และระบบ AF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ AI ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.1, NFC, พอร์ต USB Type-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 18W
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2023/12/Infinix-Hot-40i-2-1024x640.jpg)
ทั้งนี้ Infinix Hot 40i มีให้เลือก 4 สีคือ Starlit Black, Palm Blue, Horizon Gold และ Starfall Green ส่วนราคายังไม่มีการประกาศออกมาในตอนนี้
ที่มา : Gsmarena