เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา Infinix ได้เปิดตัว Infinix Hot 50 5G ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว Infinix Hot 50 4G ที่ราคาถูกลง โดยมีดีไซน์เหมือนกัน แต่แตกต่างกันในคุณสมบัติหลักบางประการ
สเปก Infinix Hot 50 4G
ตัวเครื่องมีขนาด 167.9 x 75.6 x 7.7 มม. และน้ำหนัก 187 กรัม หน้าจอแสดงผลทรง Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 อัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.9% โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่าง 800nits และรองรับ Always-on display
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Helio G100 (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC2 จับคู่กับ RAM 6GB/8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB/256GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14.5
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช Dual-LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, 27mm (wide), 1/2.76″ และระบบ AF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ AI ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงf/2.0, (wide), 1/4.0″
รวมทั้งมีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น, ติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.4, NFC, พอร์ต USB Type-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM
และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 18W และชาร์จแบบย้อนกลับ โดยแบตเตอรี่ได้รับการจัดอันดับให้คงความจุเดิมไว้ได้อย่างน้อย 80% หลังจากใช้งาน 1,600 รอบ (ซึ่งเท่ากับ 4 ปีของการชาร์จทุกวัน)
อย่างไรก็ตาม Infinix อ้างว่าสามารถเล่นเกม FreeFire ได้เกือบ 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว เกมดังกล่าวยังรองรับโหมด 90fps บน Hot 50 4G พร้อมอัตราการสุ่มตัวอย่างการสัมผัส 120Hz
ทั้งนี้ Infinix Hot 50 4G มีให้เลือก 3 สีคือ Sleek Black, Sage Green และ Titanium Gray โดยวางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ ร้านค้าแห่งหนึ่งในยูเครนตั้งราคาไว้ที่ 6,800 UAHs หรือประมาณ 5,340 บาท
ที่มา : Gsmarena