คลังเก็บ

หัวเว่ย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศยอดจัดซื้อจัดจ้างปี 2561 มีมูลค่ารวม 608 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

 

หัวเว่ย ผู้จัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีและสมาร์ทดีไวซ์ชั้นนำระดับโลก ประกาศยอดการจัดซื้อจัดจ้างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของบริษัทในปีที่ผ่านมาด้วยมูลค่าทั้งสิ้น 608 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

เฉพาะในประเทศไทย มียอดสูงถึง 196.3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยอินเดีย (146 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และฮ่องกง (105.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

โดยระหว่างปี พ.ศ. 2559 – 2561 การจัดซื้อจัดจ้างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดของหัวเว่ยมีมูลค่าสูงถึง 2,090 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

ในปี 2562 งบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เป็น 652 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลตัวเลขทั้งหมดนี้ได้รับการเปิดเผยในระหว่างงานประชุม 2019 SEA Core Partner Convention ของหัวเว่ย ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ภายใต้ธีม การเปิดกว้าง ความโปร่งใส ความร่วมมือเพื่อความสำเร็จร่วมกัน – Openness, Transparency, Collaboration for Sharing the Success” โดยมีตัวแทนกว่า 400 คน จากจำนวนซัพพลายเออร์ทั้งหมดของบริษัทกว่า 1,900 รายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ภาคการผลิตโลจิสติกส์บริการด้านวิศวกรรมเครือข่ายเอ็นเตอร์ไพรส์การตลาด เข้าร่วมงาน

Huawei

ในงานมีการกล่าวบรรยายและนำเสนอข้อมูลต่างๆ รวมถึงคำกล่าวต้อนรับโดย มร. เจมส์ อู๋ ประธานบริหาร ของหัวเว่ยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแนะนำธุรกิจของหัวเว่ย ความสำเร็จของลูกค้า และข้อมูลด้านการจัดซื้อจัดจ้างของหัวเว่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พันธมิตรหลัก ๆ ของหัวเว่ยหลายราย อาทิ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (TKC) และบริษัท คัมมินส์ ดีเคเอสเอช จากประเทศไทย ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับผู้มาร่วมงาน นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายบริษัทที่ได้รับรางวัลสำหรับความร่วมมือที่โดดเด่นกับหัวเว่ยในประเภทต่างๆ ดังนี้ การบริหารการจัดซื้อการจัดซื้อบริการด้านวิศวกรรม และการจัดซื้อวัสดุ

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การทำงานร่วมกันระหว่างหัวเว่ยและบริษัทพันธมิตรกว่า 1,900 ราย ได้สร้างงานจำนวนมากกว่า 45,000 ตำแหน่งงานในบริษัทซัพพลายเออร์ของหัวเว่ย มีวิศวกรโทรคมนาคมในภูมิภาคนี้กว่า 125,000 คนได้รับการฝึกอบรม โดยวิศวกรกว่า 98,000 คนได้รับประกาศนียบัตรระดับมืออาชีพ หัวเว่ยได้มีการดำเนินการตรวจสอบระบบคุณภาพของพันธมิตรหลัก ๆ กว่า 300 ครั้ง ช่วยให้บริษัทพันธมิตรกว่า 130 แห่งผ่านมาตรฐาน ISO หรือการรับรองอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดเกิดใหม่ และเป็นจักรกลอันทรงพลังที่จะเชื่อมต่อนวัตกรรมและธุรกิจเข้าด้วยกัน หัวเว่ยและบริษัทพันธมิตรในภูมิภาคทำหน้าที่ส่งเสริมและเติมเต็มกันและกันได้อย่างดีเยี่ยม การสร้างและแบ่งปันคุณค่าตลอดทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมคืออนาคตของเรา เราควรจะผสานประสิทธิภาพด้านทรัพยากรอันเป็นเลิศของเรา และร่วมกันสร้างกลุ่มทรัพยากรคุณภาพสูงเพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของเราให้ดีขึ้น” มร. เจมส์ อู๋ อธิบาย พวกเราทุกคนล้วนมีวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ การนำดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้านและทุกองค์กร เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ และเพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง หัวเว่ยยินดีที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรของบริษัททุกราย เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ส่งเสริมให้มีการเปิดกว้าง ความหลากหลาย และการทำงานร่วมกัน” เขากล่าวเสริม

นายปิยะ จิราภาพงศา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทริน์คีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (TKC) ผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมโทรคมนาคม และเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของหัวเว่ยในประเทศไทย กล่าวอธิบายว่า เราเริ่มทำงานกับหัวเว่ยในปี พ.ศ. 2549 ความร่วมมือของเรามาจากหลักการหลักๆ ที่เหมือนกัน นั่นคือ การทุ่มเทอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อความสำเร็จของโครงการ ความร่วมมือและการทำงานร่วมกันเป็นทีม การให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับหนึ่งและเราก็หมายความตามนั้นจริงๆ สำหรับหัวเว่ยและ TKC เราทุ่มเทเต็มที่ให้กับลูกค้าเสมอ ความเป็นเลิศและความจงรักภักดีของลูกค้าคือรางวัลในตัวมันเอง

มร. เจสัน เฟิง ผู้จัดการฝ่ายขายและบริการลูกค้าระดับโลก ของคัมมินส์ ผู้ผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก พูดว่า จากวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ที่ต้องการยกระดับชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นด้วยการทลายขีดจำกัดของพลังแห่งความร่วมมือที่แข็งแกร่งอันเป็นหนึ่งเดียวกัน หัวเว่ยและคัมมินส์จึงได้บรรลุข้อตกลงด้านความร่วมมือระดับโลกร่วมกันในปี 2551 การที่แบรนด์หัวเว่ยเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวเว่ยสามารถแข่งขันในตลาดระดับบนได้ ในปี 2562 คัมมินส์ ดีเคเอสเอช ประเทศไทย (CDT) จะสนับสนุนโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ BCH 4 ของUIH ให้กับหัวเว่ย เรายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผลงานอันยอดเยี่ยมร่วมกับหัวเว่ย

ปี 2562 จะเป็นปีของเทคโนโลยี 5ในฐานะที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีระดับชาติที่สำคัญที่สุด 5จะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในภูมิภาคนี้จะมีผู้ใช้ 5สูงถึง 80 ล้านราย ปริมาณข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า มีการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมากกว่า 20 เมือง และอุปกรณ์ดิจิทัลไร้สายที่มีความอัจฉริยะจะเพิ่มผลิตภาพทางสังคมได้มากขึ้น 4-8% โดยเฉลี่ย

ในฐานะที่เป็นผู้นำระดับโลกในด้าน 5การร่วมมือกับหัวเว่ยเปรียบได้กับการขึ้นรถบัสคันแรกเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป หัวเว่ยได้ดำเนินธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นเวลา 20 ปี และต้องขอบคุณการสนับสนุนอันน่าทึ่งของบริษัทพันธมิตรของเราทุกราย เราจึงไม่มีสถิติในด้านลบเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์เลย เราสามารถประกาศให้โลกรู้ได้เลยว่า หัวเว่ยเป็นพันธมิตรเพื่อการเติบโตในอนาคตที่มีคุณค่าและไว้ใจได้” มร. เจมส์ อู๋ กล่าวสรุป