HUAWEI ประกาศเปิดตัว HUAWEI nova 13 Series อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ประกอบด้วย nova 13 และ nova 13 Pro โดยมาพร้อมดีไซน์โฉมใหม่, ฟีเจอร์ถ่ายภาพ AI ขั้นสูง และความสามารถในการสื่อสารที่ได้รับการปรับปรุง
สเปก HUAWEI nova 13
![HUAWEI nova 13](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/979090FEB46CEB3A97850A3C7E7C84EE-707x1024.webp)
ตัวเครื่องมีขนาด 161.4 x 75.3 x 7 มม. และน้ำหนัก 195 กรัม มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ OLED 1 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 2412 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 300Hz, อัตราการหรี่แสง PWM 1440Hz, รองรับ HDR และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Aluminosilicate Glass
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-1-665x1024.webp)
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Kirin 8000 SoC จับคู่กับ RAM 12GB แบบ LPDDR4X, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Hongmeng OS 4.2
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-6-539x1024.webp)
ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9,(wide) และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, ระบบ AF และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 60 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 17mm, 100˚ (ultrawide)
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-3.webp)
รวมทั้งมาพร้อมฟีเจอร์สานรวม Da Vinci Portrait Engine 2.0 ของ HUAWEI ซึ่งช่วยให้ปรับแต่งโทนสีผิว พื้นผิว และเอฟเฟกต์โบเก้ของพื้นหลังได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงมีฟีเจอร์ AI เช่น AI Best Expression, AI Upscaling, AI Object Removal และ AI Smart Cutout ซึ่งช่วยยกระดับการแก้ไขรูปภาพขึ้นไปอีกขั้น
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-4.webp)
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual band (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ตอินฟราเรท, พอร์ต USB-C และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W ชาร์จ 3-50% ภายใน 10 นาที และชาร์จแบบย้อนกลับ 5W
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-7_11zon-1024x483.jpeg)
นอกจากนี้ยังรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม Beidou รวมถึงความสามารถในการส่งข้อความและรูปภาพผ่านดาวเทียม ซึ่งช่วยให้การสื่อสารดีขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณอ่อนหรือสัญญาณรบกวน
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-2-594x1024.webp)
ทั้งนี้ HUAWEI Nova 13 มีให้เลือก 4 สีคือ Lodeng Green, Feather Purple, Feather White, and Star Black โดยเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าที่ประเทศจีนแล้ว และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 25 ตุลาคม 2024 ส่วนราคามีดังนี้
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 2,699 หยวนหรือประมาณ 12,730 บาท
- รุ่นความจุ 512GB ราคา 2,999 หยวนหรือประมาณ 14,140 บาท
- รุ่นความจุ 1TB ราคา 3,499 หยวนหรือประมาณ 16,500 บาท
สเปก HUAWEI nova 13 Pro
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-Pro-4.webp)
ตัวเครื่องมีขนาด 163.4 x 74.9 x 7.8 มม. และน้ำหนัก 209 กรัม มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LTPO OLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 2776 x 1224 พิกเซล ขนาด 6.76 นิ้ว โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 300Hz, อัตราการหรี่แสง PWM 2160Hz, รองรับ HDR และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Aluminosilicate Glass
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-Pro-1-676x1024.webp)
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Kirin 8000 SoC จับคู่กับ RAM 12GB แบบ LPDDR5, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Hongmeng OS 4.2
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-Pro-5-535x1024.webp)
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงปรับได้ f/1.4-4.0, 23mm (wide), ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 69mm, PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, ระบบ AF และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่คความละเอียด 60 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 52mm (telephoto), AF, ซูมออปติคอล 2 เท่าและ QPD เพื่อการโฟกัสที่แม่นยำ
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-Pro-6_11zon-1024x405.jpeg)
รวมทั้งมาพร้อมฟีเจอร์สานรวม Da Vinci Portrait Engine 2.0 ของ HUAWEI ซึ่งช่วยให้ปรับแต่งโทนสีผิว พื้นผิว และเอฟเฟกต์โบเก้ของพื้นหลังได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงมีฟีเจอร์ AI เช่น AI Best Expression, AI Upscaling, AI Object Removal และ AI Smart Cutout ซึ่งช่วยยกระดับการแก้ไขรูปภาพขึ้นไปอีกขั้น
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-8_11zon-1024x563.jpeg)
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual band (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ตอินฟราเรท, พอร์ต USB-C และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W ชาร์จ 3-50% ภายใน 9 นาที และชาร์จแบบย้อนกลับ 5W
นอกจากนี้ยังรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม Beidou รวมถึงความสามารถในการส่งข้อความและรูปภาพผ่านดาวเทียม ซึ่งช่วยให้การสื่อสารดีขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณอ่อนหรือสัญญาณรบกวน
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/10/nova-13-Pro-3-594x1024.webp)
ทั้งนี้ HUAWEI Nova 13 มีให้เลือก 4 สีคือ Lodeng Green, Feather Purple, Feather White, and Star Black โดยเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าที่ประเทศจีนแล้ว และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 25 ตุลาคม 2024 ส่วนราคามีดังนี้
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 3,699 หยวนหรือประมาณ 17,440 บาท
- รุ่นความจุ 512GB ราคา 3,999 หยวนหรือประมาณ 18,860 บาท
- รุ่นความจุ 1TB ราคา 4499 หยวนหรือประมาณ 21,210 บาท
ที่มา : Gsmarena