คลังเก็บ

เผยสเปกเต็ม HUAWEI Nova 13 และ Nova 13 Pro ก่อนเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

เดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งการต่อสู้สำหรับสมาร์ตโฟนเรือธงปี 2024 หลายรุ่น ทั้ง vivo X200 Series, Xiaomi 15 Series, OPPO Find X8 Series และ Honor Magic 7 Series

อย่างไรก็ตามไตรมาส 4 นี้ไม่เพียงเฉพาะสมาร์ตโฟนเรือธงเท่านั้น ยังมีสมาร์ตโฟนระดับกลางที่น่าสนใจอย่าง HUAWEI Nova 13 Series ที่จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ด้วย ล่าสุดมีข้อมูลสเปกเต็มหลุดออกมาแล้ว

HUAWEI Nova 13

ผู้ใช้บัญชี Weibo ที่ใช้ชื่อ “看山的叔叔” ได้เปิดเผยข้อมูลสเปกหลักของ HUAWEI Nova 13 และ Nova 13 Pro แม้ว่าเขาจะอ้างว่าข้อมูลสเปกหลักของ Honor Magic 7 Magic แต่จากข่าวลือก่อนหน้านี้ก็สันนิษฐานว่าเป็นของ HUAWEI Nova 13 และ Nova 13 Pro การสนทนาในส่วนความคิดเห็นก็สนับสนุนสิ่งนี้เช่นกัน

สำหรับสเปกหลักของ HUAWEI Nova 13 คาดว่าจะมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Starry Black, Green, Feather White, Feather Purple สมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะมีด้านหลังเป็นกระจก และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบออปติคัล

ติดตั้งกล้องหลังคู่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 60 ล้านพิกเซล รวมทั้งมีหน่วยความจำให้เลือก 2 แบบคือ RAM 12GB+256GB และ RAM 12GB+512GB และรองรับการชาร์จเร็ว 100W

ส่วนสเปกหลักของ HUAWEI Nova 13 Pro คาดว่าจะรองรับการชาร์จเร็ว 100W เช่นกัน รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบออปติคัล และด้านหลังเป็นกระจก

อย่างไรก็ตาม นอกจากหน่วยความจำที่มีให้เลือกทั้งรุ่น RAM 12GB+256GB และ RAM 12GB+512GB แล้ว รุ่น Pro ยังมีรุ่น RAM 12GB+1TB ให้เลือกอีกด้วย

ด้านการถ่ายภาพ Nova 13 Pro ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวประกอบด้วยเลนส์ 50 ล้านพิกเซล (RYYB) + ​​​​12 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเลนส์เพิ่มเติมหนึ่งตัวจากรุ่นมาตรฐาน ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่คู่ความละเอียด 60 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล

ในส่วนประสิทธิภาพ คาดว่าจะใช้ชิปเซ็ท Kirin 9010 SoC ซึ่งเป็นชิปเซ็ทตัวเดียวกับที่ใช้ใน Pura 70 Series ของ HUAWEI โดยรายงานระบุว่าชิปเซ็ตนี้มีสถาปัตยกรรม 12 คอร์ (2+6+4) โดยมีคอร์ TaiShan V121 สำหรับประสิทธิภาพและงานระดับกลาง และคอร์ Cortex-A510 สำหรับประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ คาดว่า HUAWEI Nova 13 Series จะเปิดตัวได้เร็วที่สุดในวันที่ 22 ตุลาคม ซึ่งเร็วกว่า Nova 12 Series ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ที่มา : Gizmochina