บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการประจำปี “Seeds For the Future 2020” ในกรุงเทพฯ เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาที่มีความสามารถ ได้เพิ่มพูนทักษะด้านดิจิทัลผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมภาคปฏิบัติกับผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที โดยปีนี้ได้คัดเลือกนิสิตนักศึกษาจำนวน 15 คนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มาเข้าร่วมคอร์สการฝึกอบรมด้านไอซีที เป็นระยะเวลา 5 วัน ครอบคลุมเทคโนโลยี 5G, AI, อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์, คลาวด์ และ Huawei Mobile Services (HMS)
โครงการ “Seeds For the Future” ซึ่งริเริ่มขึ้นที่กรุงเทพมหานครในปี 2551 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบ่มเพาะเยาวชน เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กรุ่นใหม่ที่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัลอยู่แล้วนั้น จะมีทักษะและทัศนคติที่จำเป็นสำหรับการแข่งขันในตลาดงานในอนาคตได้ โดยทุก ๆ ปีตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา นิสิตนักศึกษามากความสามารถจำนวน 10 คน จะมีโอกาสไปศึกษาดูงานด้านไอซีทีที่ประเทศจีนเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ร่วมกับนักศึกษาจากอีก 125 ประเทศทั่วโลก พร้อมเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้และเทคโนโลยีล้ำสมัยของหัวเว่ยในเมืองเซินเจิ้นและปักกิ่ง
จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่นั้น กิจกรรมในปีนี้จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยในประเทศไทย โดยกิจกรรมตลอดทั้งสัปดาห์ยังคงเข้มข้นด้วยเนื้อหาที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ คอร์สอบรมความรู้ด้านไอซีทีที่ถ่ายทอดสดมาจากสำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยในเซินเจิ้น เวิร์กช็อปเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมจีน การเรียนในคลาสแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่จัดขึ้นที่สำนักงานของหัวเว่ย การเข้าชมศูนย์ Thailand 5G Ecosystem Innovation Center (5G EIC) และศูนย์นวัตกรรมและการเรียนรู้ CSIC
ผู้เชี่ยวชาญด้าน 5G, คลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ และ HMS ยังได้ร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมและประสบการณ์ส่วนตัวในการช่วยสนับสนุนประเทศไทยในการทรานสฟอร์มด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง รวมไปถึงทีมงานจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้มามอบความรู้เกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีไอซีทีในการพัฒนาโซลูชันและบริการต่าง ๆ สำหรับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทย
โครงการเพื่อการบ่มเพาะทักษะดิจิทัลของหัวเว่ยนั้นมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศตรงกับนโยบายกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการช่วยเหลือสังคมไทย ในปีนี้ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ให้เกียรติเป็นแขกในพิธีมอบประกาศนียบัตรพร้อมกล่าวว่า “กระทรวงดิจิทัลฯ เห็นว่าการพัฒนาทักษะด้านไอซีทีเป็นสิ่งจำเป็นต่อเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน โครงการฝึกอบรมภาคปฏิบัติจะช่วยเพิ่มพูนทักษะด้านไอซีทีและช่วยเปิดโลกทัศน์ให้แก่นักศึกษา พันธกิจระยะยาวของหัวเว่ยในการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่และปลดล็อกโอกาสเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้นสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงฯ ดิฉันขอขอบคุณบริษัทหัวเว่ยที่ได้ริเริ่มโครงการ Seeds for The Future และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล อันจะขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ต่อไป”
“หัวเว่ยมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทย ภายใต้พันธกิจ ‘Grow in Thailand, Contribute to Thailand’ เราจึงมุ่งมั่นสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นฮับด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราพร้อมเดินหน้าสานต่อโครงการ Seeds for the Future ซึ่งจะช่วยให้เยาวชนที่มีความสามารถได้รับความรู้และ
ทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ช่วยปูทางสู่เส้นทางอาชีพที่มั่นคงต่อไป” นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย ประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างพิธีปิดงาน
ในฐานะผู้ขับเคลื่อนการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัล หัวเว่ยได้ทุ่มทุนจำนวนมหาศาลไปกับการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีและทุ่มเทสนับสนุนการพัฒนาอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์สำหรับอุตสาหกรรมไอซีทีในประเทศ ตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษ บริษัทริเริ่มโครงการต่าง ๆ มากมายอย่างเช่น Seeds for the Future, การแข่งขันด้านไอซีที เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเยาวชน เร่งลดช่องว่างระหว่างความรู้ที่เรียนในห้องเรียนและทักษะที่นำไปใช้ได้จริงในอุตสาหกรรม หัวเว่ยเดินหน้าจับมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนแท้จริง