HUAWEI ประกาศเปิดตัว HUAWEI Band 6 สมาร์ตแบนด์รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแสดงผล FullView Display แบบ AMOLED, เปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาได้หลายแบบผ่านแอป Watch Face Store และแบตเตอรี่ที่สามารใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 14 วัน
HUAWEI Band 6 มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้วยขนาด 43 x 25.4 x 10.99 และน้ำหนัก 18 กรัม หน้าจอแสดงผล FullView Display แบบ AMOLED ความละเอียด 194 x 368 พิกเซล ขนาด 1.47 นิ้ว ส่วนสายรัดทำจากซิลิโคนที่เป็นมิตรกับผิวหนัง ซึ่งมีน้ำหนักเบาและป้องกันสิ่งสกปรกได้อย่างสดชื่น โดยมีทั้งหมด 3 สีให้เลือก ได้แก่ Graphite Black, Forest Green และ Sakura Pink
HUAWEI Band 6 รองรับโหมดการออกกำลังกายมากถึง 96 โหมด ซึ่งรวมถึงโหมดการออกกำลังกายแบบมืออาชีพ 11 โหมดเช่น การวิ่งในร่มและกลางแจ้ง การขี่จักรยาน การกระโดดเชือก และโหมดที่กำหนดเอง 85 โหมด รวมถึงฟิตเนส เกมบอล และประเภทการเต้นรำ
โดยใช้อัลกอริธึมการออกกำลังกายระดับมืออาชีพ TruSport ™ ที่ HUAWEI พัฒนาขึ้นเพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการออกกำลังกายของผู้ใช้ตามพารามิเตอร์หลายมิติเช่น ข้อมูลความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจและข้อมูลการออกกำลังกาย โดยให้การประเมินทางวิทยาศาสตร์และคำแนะนำเกี่ยวกับความสามารถในการออกกำลังกายของพวกเขา
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด All-day SpO2 Monitoring, ตรวจจับและบันทึกการนอนหลับ TruSleep™ 2.0, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจนในเลือด และตัวเรือนยังออกแบบให้รองรับการกันน้ำได้ในระดับ 5ATM (ใส่ล้างมือได้ กันฝนได้ ใส่ว่ายน้ำได้ แต่ไม่เหมาะกับการการใส่ดำน้ำ)
ในส่วนฟีเจอร์อื่นๆ รองรับการแจ้งเตือนข้อความ SMS, สายเรียกเข้า, กิจกรรมในปฎิทิน และแอปโซเชียลมีเดียอื่นๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอป และวิดเจ็ตที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้ควบคุมการเล่นเพลงได้ดีขึ้น ถ่ายภาพ และค้นหาโทรศัพท์ตลอดจนคุณสมบัติอื่นๆ เช่น เช็คสภาพอากาศ นาฬิกาปลุก ตัวจับเวลา และไฟฉาย
สำหรับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ HUAWEI Band 6 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 14 วันสำหรับการใช้งานทั่วไป และ 10 วันสำหรับการใช้งานหนัก หากแบตเตอรี่หมดชาร์จเพียง 5 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน
ทั้งนี้ HUAWEI Band 6 มีราคาอยุ่ที่ 88 ดอลล่าร์สิงคโปร์หรือประมาณ 2,070 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ส่วนบ้านเราแว่วๆ มาว่าจะเข้ามาเหมือนกัน รอติดตามข่าวกันนะครับ
ที่มา : HUAWEI Singapore