HONOR 300 Series นอกจากรุ่นมาตรฐาน และรุ่น Pro แล้ว HONOR ยังได้เปิดตัว HONOR 300 Ultra รุ่นท็อปสุดในซีรีส์นี้ มาพร้อมดีไซน์ที่หรูหรา กล้องที่มีความสามารถ และประสิทธิภาพระดับสูงสุด มาดูคุณสมบัติต่าง ๆ ของรุ่นนี้กัน
สเปก HONOR 300 Ultra
HONOR 300 Ultra โดดเด่นกว่ารุ่นมาตรฐานและรุ่น Pro ด้วยดีไซน์อันล้ำสมัย โดยมีฝาหลังหนังเรียบ 7 ชั้นที่ประทับลายนูนเป็นลวดลายอันประณีต ทำให้ดูพรีเมียมมากขึ้น
ตัวเครื่องมีขนาด 163.8 x 75.3 x 8.2 มม. และน้ำหนัก 198 กรัม หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display ขอบโค้ง 4 ด้าน “ไฮเปอร์โบลิก” แบบ AMOLED ความละเอียด 1.5K 1224 x 2700 พิกเซล 1.07 พันล้านสี ขนาด 6.78 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9
โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR, อัตราการหรี่แสง PWM 3840Hz, ความสว่างสูงสุด 4,000nits, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Giant Rhino และมาพร้อมเทคโนโลยีปกป้องดวงตาที่หลากหลาย รวมถึงการป้องกันแสงธรรมชาติ ความช่วยเหลือการนอนหลับด้วย AI และเทคโนโลยีบรรเทาอาการเมาเรือ
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8650-AB Snapdragon 8 Gen 3 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 750, RAM 12GB/16GB, หน่วยความจำภายใน 512GB/1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Magic UI 9
HONOR 300 Ultra ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 8 Gen 3 ที่ได้รับการปรับแต่ง โดยชิปเซ็ท Snapdragon 8 Gen 3 มาตรฐานมีการตั้งค่าด้วยคอร์ Cortex-X4 ประสิทธิภาพสูงหนึ่งคอร์ที่ความเร็ว 3.3GHz, คอร์ Cortex-A720 สามคอร์ที่ทำงานที่ความเร็ว 3.2GHz, คอร์ Cortex-A720 สองคอร์ที่ความเร็ว 3.0GHz และคอร์ Cortex-A520 สองคอร์ที่เน้นประสิทธิภาพที่ 2.3GHz
แต่เวอร์ชันใน 300 Ultra มีการกำหนดค่าที่แตกต่างกันเล็กน้อย ภายในชิปประกอบด้วยคอร์ Cortex-X4 หนึ่งคอร์ที่ทำงานที่ความเร็ว 3.0GHz เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด คอร์ Cortex-A720 ห้าคอร์ที่ทำงานที่ความเร็ว 2.95GHz เพื่อจัดการงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง และคอร์ Cortex-A520 สองคอร์ที่ทำงานที่ความเร็ว 2.0GHz สำหรับการทำงานที่ใช้พลังงานน้อยกว่า ชิปเซ็ทนี้ดูเหมือนว่าจะลดความเร็วลงเล็กน้อยจากรุ่นมาตรฐาน Snapdragon 8 Gen 3
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX906, รูรับแสง f/2.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/3.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.51″, 0.7µm, ระบบ PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมแบบออปติคอล 3.8 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, ถ่ายมุมกว้าง 112 องศา และระบบ AF
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่คู่ โดยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.1 และกล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
โดย HONOR เคลมว่า 300 Ultra เป็น “กล้องเทเลโฟโต้สำหรับถ่ายภาพบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด” โดยมีการซูมแบบออปติคอล 3.8 เท่าและซูมแบบดิจิทัล 100 เท่าที่น่าประทับใจ พร้อมด้วยฟังก์ชัน “ภาพบุคคลระดับ SLR ที่สวยงาม” อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์และเครื่องมือควบคุมแสง AI ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้ภาพบุคคลที่สวยงามในทุกสภาพแสง
เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ 300 Ultra ทำงานบน MagicOS 9.0 และมาพร้อมกับคุณสมบัติ AI เช่น การซ้อนโฟกัส การเบลอพื้นหลัง และการขยายภาพ นอกจากนี้ยังรองรับ Live Photos ความละเอียดสูง 2K ที่ให้ผู้ใช้จับภาพช่วงเวลาสั้น ๆ ได้
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบอัลตร้าโซนิค, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP65, ระบบระบายความร้อน VC แบบไบโอนิกสเตนเลสสตีลขนาด 36842 มม. เพื่อควบคุมความร้อน, ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมเอฟเฟกต์เสียง Histen 7.1,
ความสามารถในการส่ง SMS ผ่านดาวเทียม Beidou และความสามารถในการเชื่อมต่อกับแผนที่ Gaode โดยตรงผ่านดาวเทียมโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย,
รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual-band, Bluetooth 5.3, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C
และแบตเตอรี่ความจุ 5,300mAh รองรับการชาร์จไว 100W ชาร์จ 0-59% ภายใน 15 นาที, ชาร์จไวแบบไร้สาย 80W ชาร์จ 0-39% ภายใน 15 นาที และชาร์จแบบย้อนกลับ 5W
ทั้งนี้ HONOR 300 Ultra มีให้เลือก 2 สีคือInk Rock Black และ Camellia White โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าที่ประเทศจีนแล้ว ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12GB + 512GB ราคา 4,199 หยวนหรือประมาณ 19,930 บาท
- RAM 16GB + 1TB ราคา 4,699 หยวนหรือประมาณ 22,30 บาท
ที่มา : Gizmochina