HMD ประกาศเปิดตัว HMD Skyline อย่างเป็นทางการ โดยเป็นสมาร์ตโฟนของแบรนด์ตัวเองที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีการออกแบบที่ชวนให้นึกถึง Nokia N9 และบริษัทเรียกว่าความสามารถในการซ่อมแซม Gen 2 ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนหน้าจอที่แตกหรือแบตเตอรี่ที่เสียได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที
สเปก HMD Skyline
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/07/HMD-Skyline-2_11zon-1024x683.webp)
HMD Skyline ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบ Fabula ของ Nokia ซึ่งโดดเด่นด้วยด้านข้างที่โค้งมนและปลายสี่เหลี่ยม ฝาหลังของ Skyline สามารถเปิดออกได้อย่างง่ายดายด้วยการคลายเกลียวสกรูตัวเดียว ช่วยให้สามารถซ่อมแซมหน้าจอที่แตกร้าว พอร์ตชาร์จที่โค้งงอ หรือแบตเตอรี่ที่หมดได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ชุด iFixit มาตรฐาน iFixit จะจัดหาอะไหล่ให้ด้วย
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/07/HMD-Skyline-3_11zon-1024x768.webp)
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ OLED ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว โดยมีอัตราการรีเฟรช 144Hz รองรับ HDR10 ความสว่างสูงสุด 1,000nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.40GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7435-AB Snapdragon 7s Gen 2 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710, RAM 8GB/12GB, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 รองรับการอัปเดต 2 เวอร์ชัน
ติดตั้งหล้องหลัง 3 ตัวพร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล (wide), ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ PDAF และซูมออปติคอล 2 เท่า
- กล้องเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และระบบ AF
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
และ HMD ยังนำเทคโนโลยี AI มาใช้ด้วย AI Capture Fusion ซึ่งเพิ่มรายละเอียดสูงสุดในภาพถ่ายที่ถ่ายด้วย
นอกจากนี้ยังมีโหมดดีท็อกซ์ซึ่งช่วยให้คุณจำกัดการแจ้งเตือนและการเข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิร์กในกรณีที่สิ่งต่าง ๆ เริ่มล้นหลาม
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง, รองรับการกันน้ำ IP54, ลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual band (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Bluetooth 5.2, ช่องหูฟัง 3.5 มม., NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,600mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W, ชาร์จไร้สาย 15W และชาร์จแบบย้อนกลับ 5W
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/07/HMD-Skyline-Design.webp)
ทั้งนี้ HMD Skyline มีให้เลือก 2 สีคือ Neon Pink และTwisted Black โดยมีราคาอยู่ที่ 499 ยูโร/499 ดอลล่าร์สหรัฐ/399 ปอนด์หรือประมาณ 19,610/17,945/18,630 บาท
แต่ไม่มีอะแดปเตอร์มาให้ในกล่อง โดยทาง HMD ขายอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W ในราคา 30 ปอนด์หรือประมาณ 1,400 บาท หรืออะแดปเตอร์แบบดูอัลพอร์ต 30W ในราคา 20 ปอนด์หรือประมาณ 930 บาทบนเว็บไซต์
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2024/07/HMD-Skyline-19_11zon-1024x682.webp)
เนื่องจากสามารถซ่อมแซมได้ง่าย ผู้ใช้จึงสามารถซื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิตได้โดยตรง โดยหน้าจอแสดงผลมีราคาอยู่ที่ 95 ดอลลาร์หรือประมาณ 3,420 บาท, ฝาครอบแบตเตอรี่ราคา 30 ดอลลาร์หรือประมาณ 1,080 บาท, แบตเตอรี่มีราคา 25 ดอลลาร์หรือประมาณ 900 บาท และพอร์ตชาร์จอยู่ที่ 20 ดอลลาร์หรือประมาณ 720 บาท
การซื้อครั้งแรกควรใช้ชุดซ่อมที่ iFixit เสนอให้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 5 ดอลลาร์หรือประมาณ บาท
ที่มา : Gsmarena