GSMA สมาคมผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมที่มีสมาชิกมากกว่า 800 รายทั่วโลก ประกาศรับรองให้ AIS เป็นผู้ให้บริการรายแรกและรายเดียวในไทยที่ให้บริการ 5G Fixed Wireless Access เชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ด้วยประสิทธิภาพของ 5G ในการรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กร
เป็นการต่อยอดเทคโนโลยีของ AIS 5G ให้สอดคล้องและยืดหยุ่นกับลักษณะการใช้งานแต่ละรูปแบบ แต่ละพื้นที่ของธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ด้วย 4 ศักยภาพที่โดดเด่น ประกอบด้วย 1. อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Higher Speed) 2. การตอบสนองอย่างรวดเร็ว (Better Latency) 3. การติดตั้งพร้อมใช้งานทันที (Fast to Set Up) และ 4. สะดวกในการใช้งานได้ทุกที่ที่มีสัญญาณ 5G (Easy to Relocate)
ทั้งนี้ สามารถเข้าดูประกาศจาก GSMA ได้ที่ : https://www.gsma.com/futurenetworks/ip_services/understanding-5g/5g-innovation/
นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอสกล่าวว่า “เอไอเอสมีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ประโยชน์เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่สำคัญของประเทศ ที่ผ่านมา เราได้ขยายเครือข่ายครบ 77 จังหวัด และครอบคลุมเต็มพื้นที่ 100% นิคมอุตสาหกรรมใน EEC แล้ว พร้อมร่วมทำงานกับพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วนในการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดออกแบบโซลูชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งนี้ 5G FWA ถือเป็นบริการแรกของ AIS 5G ที่ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรและผู้ประกอบการ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับส่งข้อมูลองค์กรบนเครือข่ายแบบไร้สาย ด้วยคุณสมบัติของ 5G ในการรองรับการใช้งานได้หลากหลาย นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเครือข่าย 5G ในมิติต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพการใช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศไทย ประกอบด้วย
· 5G Dual Mode NSA / SA เต็มรูปแบบกับเครือข่าย 5G ที่รองรับการใช้งานได้ทุกโหมดไม่ว่าจะเป็น 5G NSA (Non-Stand Alone) หรือ 5G SA (Stand Alone) เพื่อการใช้การใช้งาน 5G ทุกรูปแบบและพร้อมรับการใช้งาน 5G ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน 5G ที่ใช้กับลูกค้ามือถือทั่วไป และ 5G ในรูปแบบอื่นที่เป็น Massive IoT และ Massion Critical เช่นในภาคอุตสหกรรมต่างๆ เป็นต้น
· 5G Network Slicing เทคโนโลยีของเครือข่าย AIS 5G ที่มีศักยภาพในการปรับแต่งคุณสมบัติเครือข่ายและทรัพยากร เพื่อให้สอดคล้องและยืดหยุ่นกับลักษณะการใช้งานแต่ละรูปแบบในแต่ละพื้นที่ของธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทำให้สามารถรับประกันคุณภาพของการเชื่อมต่อและความเร็วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
· 5G Multi – access Edge Computing (MEC) สร้างระบบคลาวด์ให้เข้าใกล้ผู้ใช้งานมากที่สุด ช่วยให้สามารถใช้งานเครือข่ายด้วยการเข้าถึงแบบไร้สาย เพื่อให้บริการประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ได้ในปริมาณมากและมีความปลอดภัยสูงสุด
· 5G Massive MIMO 64T64R เป็นเทคโนโลยีใน 5G ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ของการรับส่งข้อมูล(Capacity)ได้ดีขึ้นจากมากกว่า 4G ช่วยลดสัญญาณรบกวน และสามารถปรับแต่งสัญญาณให้เหมาะสมในการสื่อสารกับอุปกรณ์ที่มีจำนวนมากและแตกต่างกัน (Beamforming)
“เทคโนโลยี 5G จะเป็นต้นแบบของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่สำคัญ เราพร้อมสนับสนุน Digital Infrastructure เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม การลงทุนและพัฒนาด้านเครือข่ายอย่างต่อเนื่องในวันนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาในระยะสั้นๆ เท่านั้น แต่เราต้องการให้เทคโนโลยี 5G เป็น Digital Infrastructure ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทยในทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายวสิษฐ์ กล่าวสรุป