เนื่องในวันหัวใจโลก (World Hearth Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 29 กันยายน ของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกคนตื่นตัวหันมาดูแลสุขภาพหัวใจของตนเอง นับเป็นเวลาทีเหมาะสมในการเริ่มดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น Harley Pasternak ผู้ดูแลสุขภาพและนักโภชนาการชื่อดังที่ทำงานร่วมกับคนดังฮอลลีวูดหลายท่าน อาทิ Adam Levine, Lady Gaga, Ariana Grande และ Charlie Puth เคยกล่าวไว้ว่า อัตราการเต้นของหัวใจนั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสมรรถภาพของร่างกาย และสภาวะของสุขภาพ
ในขณะเดียวกัน Harvard Health ได้เผยแพร่บทความที่อธิบายเกี่ยวกับจังหวะและการเต้นของหัวใจว่ามีความสัมพันธ์กับการทำงานของหัวใจในการหมุนเวียนออกซิเจนและสูบฉีดเลือดในร่างกาย ซึ่งหัวใจของเราควรจะมีการทำงานที่สม่ำเสมอและสมบูรณ์ แต่ถึงกระนั้นหากมีบางอย่างผิดปกติในร่างกาย การสูบฉีดของเลือดจะส่งสัญญาณไปถึงอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต เราจึงควรให้ความสำคัญกับอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเข้าใจสภาวะร่างกายของตัวเราเอง
การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
การวัดอัตราการเต้นของหัวใจนั้นมีรูปแบบที่สำคัญ 2 รูปแบบ คือ อัตราการเต้นของหัวใจยามพัก และ อัตราการเต้นหัวใจสูงสุด เพื่อให้ผู้ทดสอบสามารถรู้ถึงสภาวะต่าง ๆ ของร่างกายตนเอง ดังนี้
อัตราการเต้นของหัวใจยามพัก
อัตราการเต้นหัวใจยามพักคือภาวะที่หัวใจเต้นด้วยความช้าที่สุดเพื่อให้ออกซิเจนหมุนเวียนได้ตามความต้องการของร่างกาย อัตราการเต้นหัวใจยามพักสามารถวัดได้ในขณะที่คุณนอนนิ่งไม่ได้ทำอะไร โดยปกติอัตราการเต้นของหัวใจยามพักจะอยู่ที่ 60 ถึง 100 ต่อนาที ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าอัตราการเต้นของหัวใจควรจะเป็นอย่างไรแต่ก็มีวิจัยทางการแพทย์ที่บ่งชี้ว่าหากผู้ใดมีอัตราการเต้นหัวใจขณะพักที่เร็วอาจจะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
อัตราการเต้นของหัวใจที่ช้าสามารถบ่งชี้ว่า:
- มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
- ได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เช่น รับยาควบคุมความดันเพื่อรักษาปัญหาหัวใจ การบำบัดความเครียดเพื่อป้องกันไมเกรน หรือ รับยาควบคุมความดันโลหิตเพื่อป้องกันสภาวะความดันโลหิตสูง หัวใจวาย และหัวใจล้มเหลว
- ง่วงนอน (แต่หัวใจอาจจะมีอัตราการเต้นที่เร็วขึ้นในขณะที่กำลังฝัน)
ในขณะเดียวกันอัตราการเต้นหัวใจที่ช้าสามารถบอกปัญหาได้ดังนี้:
- ความเสี่ยงต่อการหัวใจวายและโรคเกี่ยวกับหัวใจ
- การติดเชื้อ เช่น โรคไลม์ หรือ ไข้ไทฟอยด์
- โพแทสเซียมในเลือดสูง
- ภาวะขาดไทรอยด์
อัตราการเต้นหัวใจสูงสุด
อัตราการเต้นหัวใจสูงสุดคือภาวะที่หัวใจเต้นในอัตราเร็วสูงเพื่อให้ออกซิเจนไหลเวียนตามที่ร่างกายต้องการ อัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจจะมีส่วนในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานของร่างกายโดยใช้ออกซิเจน หรือ ปริมาณสูงสุดของออกซิเจนที่ใช้ตอนออกกำลังกาย ดังนั้นผู้ที่มีอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดในอัตราที่เร็วร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดี นอกจากนี้ จากยังการวิจัยค้นคว้าวิจัยที่อธิบายการมีอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดและการเผาผลาญที่ดีจะลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจวาย อัตราการเต้นหัวใจสูงสุดสามารถคำนวณได้ด้วยการนำวิธีการเอา 220 ลบกับอายุของตนเองเพื่อให้รู้ว่าอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดของตนเองควรอยู่ที่เท่าใดตามเกณฑ์อายุ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอายุ 27 ปี ให้นำ 220-27 ซึ่งหมายความว่าอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดของคุณควรอยู่ที่ 193
อาการหัวใจเต้นเร็วสามารถเกิดจากการขยับร่างกายหรือการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น:
- การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างหนักที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก
- อาการกังวล หรือ อาการตื่นเต้น
- การกระตุ้นร่างกายด้วยคาเฟอีน
- การตั้งครรภ์
[1]
อัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วยังแสดงถึงปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ดังนี้:
- การติดเชื้อหรือมีไข้
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจ หรือ อาการเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ ภาวะการเต้นผิดปกติของหัวใจ หรือ อาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- โพแทสเซียมในเลือดต่ำ
- ภาวะโลหิตจาง
- โรคหอบหืดหรือปัญหาทางระบบการหายใจอื่น ๆ
วิธีที่ดีที่สุดในการติดตามอัตราการเต้นหัวใจ
Fitbit Charge 3
Fitbit Versa 2
Fitbit Inspire HR
วิธีการวัดอัตราการเต้นหัวใจแต่เดิมคือการสัมผัสชีพจรและการใช้นาฬิกาในการคำนวณอัตราการเต้นของหัวใจ แต่สำหรับตัวช่วยออกกำลังกายรวมไปถึงสมาร์ทวอชต่าง ๆ ที่ได้รับความนนิยมและเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน เช่น Fitbit Charge 3, Fitbit Versa 2 สมาร์ทวอชรุ่นใหม่ล่าสุด หรือ Fitbit Inspire HR
อาจกล่าวได้ว่าในปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายเพื่อการติดตามอัตราการเต้นหัวใจที่ถูกต้องและแม่นยำด้วยเทคโนโลยี PurePulse ของ Fitbit ที่สามารถให้ข้อมูลการเต้นหัวใจกับผู้ใช้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ใน 7 วัน ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อแสดงผลการติดตามทั้งการเผาผลาญแคลอรี่ การออกกำลังกายที่เหมาะสม แนวโน้มเกี่ยวกับสุขภาพต่าง ๆ และยังสามารถจัดการความเครียดได้โดยการกำหนดลมหายใจตามคำแนะนำ
ยิ่งไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ฟิตบิทสามารถนำอัตราการเต้นหัวใจของผู้ใช้มาปรับใช้ในการควบคุมลักษณะการนอนรวมไปถึงคุณภาพของการนอนและจะแสดงข้อมูลการบันทึกรวมไปถึงการประเมินสภาวะการนอนแต่ละแบบที่เกิดขึ้นในแต่ละคืน ฉะนั้นหากคุณเป็นคนที่ต้องการที่พัฒนาสุขภาพโดยรวมของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น การคอยสังเกตการเต้นของหัวใจนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยทีเดียว และในการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวช่วยออกกำลังกายและสมาร์ทวอชที่มีประสิทธิภาพในติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างแม่นยำ
หัวใจเป็นดั่งกุญแจสำคัญของร่างกายและสุขภาพโดยรวมทั้งหมดของทุก ๆ คน ดังนั้นจึงเป็นจำเป็นอย่างยิ่งที่เราทุกคนจะก้าวขึ้นอีกขั้นในการดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีกว่าเดิม
—————————————————————————
อัตราการเต้นหัวใจมีความสำคัญอย่างไร? (Shmerling, 2017): https://www.health.harvard.edu/heart-health/hows-your-heart-rate-and-why-it-matters
วัดอัตราการเต้นหัวใจอย่างไรเพื่อสังเกตสุขภาพของตนเอง (Capritto, 2019): https://www.cnet.com/how-to/how-to-measure-your-heart-rate/
วัดอัตราการเต้นหัวใจอย่างไรเพื่อสังเกตสุขภาพของตนเอง (Capritto, 2019): https://www.cnet.com/how-to/how-to-measure-your-heart-rate/