การ์ทเนอร์ เผยยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกไตรมาส 3 ปี 2563 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 366 ล้านยูนิต ลดลง 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562 โดยยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ (รวมสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟน) ทั่วโลกรวมสุทธิอยู่ที่ 401 ล้านยูนิต ลดลง 8.7% เมื่อเทียบปีต่อปี
หลังยอดขายสมาร์ทโฟนร่วงลงสองไตรมาสติดต่อกันถึง 20% ล่าสุดยอดขายรายไตรมาสเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวตามลำดับ อย่างไรก็ตามยอดขายสมาร์ทโฟนยังคงอ่อนแรงต่อเนื่องหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 แม้ว่าแบรนด์ต่าง ๆ จะทยอยเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G หลายรุ่น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการกักตัวอยู่บ้านของรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ในบางประเทศ
แอนชูล กุปต้า นักวิเคราะห์อาวุโส ฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายเงินอย่างรอบคอบ แม้บางประเทศจะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์แล้ว โดยยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกเติบโตอยู่ในระดับปานกลางตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เรื่อยมาจนถึงไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ชะงักไปช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้”
ปัจจัยความผันผวนทางเศรษฐกิจและความกลัวต่อการแพร่ระบาดระลอกสองยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายกับสินค้าที่ยังไม่จำเป็นยาวไปจนถึงสิ้นปีนี้ บวกกับความล่าช้าในการพัฒนาเครือข่าย 5G ที่กลายเป็นการจำกัดโอกาสของผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟน
ในกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนห้าอันดับแรกปรากฎว่า Samsung ครองอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 22% (ตามตารางที่ 1) ส่วน Xiaomi แซงนำ Apple ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 เป็นครั้งแรก ด้วยยอดขาย 44.4 ล้านยูนิต เทียบกับ Apple ที่มียอดขายราว 40.5 ล้านเครื่องในไตรมาสสามปีนี้
ตารางที่ 1. ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกของแต่ละแบรนด์ช่วงไตรมาส 3 ปี 2563 (หน่วย: พันยูนิต)
*การปัดเศษเปอร์เซ็นต์ขึ้นอาจไม่แม่นยำ 100%
ที่มา: การ์ทเนอร์ (พฤศจิกายน 2563)
“เราเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของตลาดสมาร์ทโฟนในบางแห่งรวมถึงบางส่วนของตลาดใหญ่ ๆ ในภูมิภาคเอเชีย/แปซิฟิกและละตินอเมริกา สถานการณ์ที่กลับมาเกือบปกติในประเทศจีนที่ทำให้สายการผลิตสมาร์ทโฟนกลับมาเติมเต็มช่องว่างของอุปทานในไตรมาสสาม ซึ่งส่งผลบวกต่อยอดขายในบางพื้นที่ และนับเป็นครั้งแรกของปีนี้ที่ยอดขายสมาร์ทโฟนของสามในห้าตลาดชั้นนำ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซียและบราซิล มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 9.3%, 8.5% และ 3.3% ตามลำดับ” นายกุปต้ากล่าวเพิ่มเติม
Samsung และ Xiaomi เติบโตเป็นบวกครั้งแรกในปีนี้
Samsung และ Xiaomi เป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนเพียงสองรายจากห้าอันดับแรกที่มีการเติบโตเป็นบวกในไตรมาสสามของปีนี้ โดย Samsung ได้รับอานิสงส์มาจากการทำตลาดอย่างจริงจังในกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบ Android และสามารถทำยอดขายถึง 80.8 ล้านยูนิต ขณะที่ Xiaomi โตขึ้นถึง 34.9% และครองส่วนแบ่งการตลาด 12.1% ที่แซงหน้า Apple ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ส่วนนึงเป็นผลมาจากการที่ Huawei กำลังเสียศูนย์ในตลาดประเทศจีน
แอนเน็ต ซิมแมร์มันน์ รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “Apple ทำยอดขายได้ 40.5 ล้านยูนิตในไตรมาสสามของปีนี้ โดยลดลงเพียง 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน การลดลงนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ Apple จัดส่ง iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ล่าช้า จากเดิมปีก่อนที่สามารถเริ่มจัดส่งได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน ส่วนปีนี้ทั้งงานเปิดตัวและการจัดส่งกลับเริ่มล่าช้ากว่าปกติถึง 4 สัปดาห์”
สำหรับลูกค้าการ์ทเนอร์ สามารถคลิกอ่านรายงานได้ที่ “Market Share: PCs, Ultramobiles and Mobile Phones, All Countries, 3Q20 Update.” และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่องค์กรต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยีเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจหลัง COVID ซึ่งรวบรวมไว้ในส่วนการรีเซ็ตกลยุทธ์ทางธุรกิจของคุณในเว็บไซต์ gartner.com พร้อมงานวิจัยข้อมูลเชิงลึกและเว็บบินาร์ฟรี เพื่อช่วยนำเสนอหนทางให้แก่เหล่าผู้นำองค์กรได้สร้างความยืดหยุ่นบนเส้นทางสู่การฟื้นตัวของธุรกิจ
เกี่ยวกับการ์ทเนอร์
บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE: IT) คือบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก และมีรายชื่ออยู่ในดัชนี S&P 500 บริษัทฯ ให้ข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำ และเครื่องมือต่าง ๆ แก่ผู้บริหารองค์กรธุรกิจ เพื่อรองรับการดำเนินภารกิจสำคัญที่มีอยู่ในปัจจุบันและสร้างองค์กรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต
การ์ทเนอร์นำเสนองานวิจัยที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ และใช้แหล่งข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อชี้นำลูกค้าสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องเหมาะสมในเรื่องที่สำคัญที่สุด การ์ทเนอร์ทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นกลางและเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่าง ๆ กว่า 14,000 แห่งในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกส่วนงานสำคัญ ๆ ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและองค์กรทุกขนาด
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของการ์ทเนอร์ในการช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจอย่างถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจได้ที่ gartner.com