Samsung ประกาศเปิดตัว Galaxy Z Fold 6 Special Edition อย่างเป็นทางการในเกาหลีใต้แล้ว โดยสมาร์ตโฟนจอพับได้รุ่นใหม่จาก Samsung นี้มีดีไซน์ที่บางและเบาที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Galaxy Z Fold Series ช่วยเพิ่มความสะดวกในการพกพาและการใช้งาน
รายงานระบุว่าจีนจะเปลี่ยนชื่อสมาร์ตโฟนดังกล่าวเป็น Samsung Galaxy W25 ในเร็ว ๆ นี้ด้วย
Galaxy Z Fold 6 Special Edition มีกำหนดวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ โดยราคาจะอยู่ที่ 2,789,600 วอนเกาหลีใต้หรือประมาณ 67,550 บาท โดยสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มีรุ่นเดียวคือ RAM 16 GB และหน่วยความจำภายใน 512 GB และมีสีเดียวคือ Black Shadow
Galaxy Z Fold 6 Special Edition จะวางจำหน่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ของ Samsung และร้านค้าออนไลน์อื่น ๆ เช่น KT, U+ และ T Direct Shop ในเกาหลีใต้ รวมถึงวางขายแบบออฟไลน์ผ่านผู้ให้บริการโทรคมนาคมของเกาหลีใต้ เช่น SK Telecom, KT Corporation และ LG U+
ดีไซน์และสเปก Samsung Galaxy Z Fold 6 Special Edition
Galaxy Z Fold 6 Special Edition มีความหนา 10.6 มม. และมีน้ำหนัก 236 กรัม ซึ่งบางกว่า Galaxy Z Fold 6 1.5 มม. และเบากว่า 3 กรัม เมื่อกางออก หน้าจอหลักพับได้มีขนาด 8 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:18 รองรับหน้าจอที่กว้างที่สุดใน Galaxy Z Fold Series
หน้าจอแสดงผลรองด้านหน้ามีขนาด 6.5 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 21:9 ให้ความสะดวกในการใช้งานและการยึดเกาะเช่นเดียวกับอุปกรณ์สไตล์สแลปดั้งเดิม ตัวเครื่องมีกรอบอะลูมิเนียมแบบเกราะ ส่วนแผงด้านหน้าและด้านหลังครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus 2
ในส่วนของสเปกนั้นแตกต่างจาก Galaxy Z Fold 6 เล็กน้อย เป็นครั้งแรกใน Galaxy Z Series ที่รุ่นพิเศษนี้มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซลที่รองรับระบบกันสั่น OIS
เสริมด้วยกล้องเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และกล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลที่รองรับการซูมแบบออปติคอล 3 เท่า
ภายในมีกล้องเซลฟี่ฝังใต้จอความละเอียด 4 ล้านพิกเซล และติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลบนหน้าจอฝาหลัง ยกเว้นกล้องภายในแล้ว กล้องทั้งหมดของ Z Fold 6 รุ่นพิเศษรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K 60fps กล้องหลักยังรองรับการบันทึกวิดีโอ 8K 30fps อีกด้วย
Galaxy Z Fold 6 Special Edition ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 8 Gen 3 สำหรับ Galaxy มาพร้อมกับ Galaxy AI และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย One UI 6.1.1
โดยจะได้รับการอัปเดต Android 15 ครอบทับด้วย One UI 7.0 ในช่วงต้นปี 2025 นอกเหนือจาก Android 15 แล้ว ยังได้รับการยืนยันว่าจะได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการอีก 6 ครั้งและอัปเดตด้านความปลอดภัย 7 ปี
สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,400mAh พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 25W และแบบไร้สาย 15W มีคุณสมบัติการเชื่อมต่อ เช่น รองรับซิมคู่พร้อม e-SIM, 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, NFC, UWB, USB-C และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง
ที่มา : Gizmochina