ฟูจิตสึ ประกาศวิสัยทัศน์องค์กรด้านเทคโนโลยีและบริการอย่างชัดเจน ยกระดับสู่บริษัทที่มุ่งเน้นงานบริการครบวงจร พร้อมผนึกเครือข่ายพันธมิตรบริษัทไอทีชั้นแนวหน้า กำหนดเป้าหมายปี 2563 เดินหน้าสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลเต็มรูปแบบ มุ่งขยายบริการ 2 ส่วนหลัก DX Data-Driven และ DX- Modernize
นายโทชิโร มิอุระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง ทิศทางธุรกิจ กลยุทธ์การบริการด้านเทคโนโลยีในปี 2563 ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของหลากหลายอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนถ่ายและเดินหน้าสู่องค์กรดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างต่อเนื่องและชัดเจน เพื่อสนองตอบความต้องการของตลาดฟูจิตสีจึงกำหนดพันธกิจ 4 แนวทางหลักในการขับเคลื่อนองค์กรประกอบด้วย ประกอบด้วย 1) เปลี่ยนแปลงสู่บริษัทที่มุ่งเน้นการบริการครบวงจร (Service Oriented Company) ภายในปี 2565 2) ผสานพันธมิตรเครือข่ายเพื่อสร้างมูลค่าธุรกิจให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายที่ดีที่สุด 3) ขยายบริการดิจิทัลควบคู่การแนะนำให้คำปรึกษา มุ่งเน้นกลุ่มบริการ DX-Data Driven และ DX- Modernize และ 4) เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น
“ผลประกอบการปี 2562 สิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฟูจิตสึ ประเทศไทย มียอดขายทั้งสิ้น 3.8 พันล้านบาทและในสถานการณ์ที่ยากและท้าทายท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 เราต้องใช้มาตรการที่รอบคอบเพื่อให้บรรลุพันธกิจที่ตั้งไว้พร้อมเดินตามเจตนารมณ์ของฟูจิตสึ ที่ประกาศชัดเจนว่า ฟูจิตสึต้องเป็นพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง สนองตอบความต้องการของลูกค้าเพื่อนำเสนอและส่งต่อความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรสู่ธุรกิจดิจิทัล ตลอดจนมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตธุรกิจที่เชื่อถือได้ร่วมกัน นั่นคือคำตอบที่ทำให้การขยายบริการดิจิทัลเป็นเป้าหมายหลักของฟูจิตสึประเทศไทย ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีและบริการที่หลากหลายของฟูจิตสึกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง จะทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว” นายมิอุระ กล่าว
ทั้งนี้การขยายบริการธุรกิจดิจิทัลควบคู่การแนะนำให้คำปรึกษา โดยเฉพาะกลุ่มบริการ DX-Data Driven และ DX-Modernize ภายในปีนี้ นายพรชัย พงศ์เอนกกุล หัวหน้ากลุ่มธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลกลุ่มบริการ DX-Data Driven ไว้ว่า ฟูจิตสึจะใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานสำหรับการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) โดยช่วยปลดล็อคให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ อาศัยการจัดการและปกป้องสินทรัพย์ข้อมูลบนโครงสร้างพื้นฐานไอทีขนาดใหญ่ ครอบคลุมตั้งแต่ส่วนขอบไปจนถึงส่วนแกนหลักของเครือข่ายรวมถึงระบบคลาวด์
ด้วยการนำเสนอ 4 โซลูชันดิจิทัล 1) Smart Factory การขับเคลื่อน กระบวนการของโรงงานผลิตเข้าสู่ ดิจิทัลโพรเซส เพื่อสร้างความคล่องตัวให้การผลิตมากยิ่งขึ้น 2) Data Analytics การวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่รองรับธุรกิจจำเป็นที่จะต้องมีการสำรวจ ประมวลผล ปกป้อง และสร้างรายได้จากข้อมูล 3) RPA -Robotic Process Automation การใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วย สร้างความถูกต้องแม่นยำ ลดต้นทุนการทำงาน เพิ่มอัตราผลผลิตได้ดี และ 4) Smart Workplace ที่เข้ามาตอบสนองความต้องการในยุคเว้นระยะห่างทางสังคม (Distancing) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระยะไกลผ่านโซลูชันดิจิทัล การรีโมทเครือข่ายเพื่อทำงานร่วมกันของทีมงาน
นายพรชัยกล่าวต่อถึงกลุ่มบริการ DX-Modernizeว่า“ฟูจิตสึมีพาร์ทเนอร์เครือข่ายที่เข้มแข็งอย่างมาก ที่มาทำงานร่วมกันเพื่อสร้างมูลค่าธุรกิจเพิ่มให้ลูกค้าและบริการส่วนนี้มีอัตราการขยายตัวสูงมากในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย SAP Solution, Modern Managed Services, Security Services และHybrid Cloud Services ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาแอพพลิเคชันขึ้นในประเทศไทยเพื่อสนองตอบให้ลูกค้าได้ดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวในภาวการณ์โรคระบาด ในชื่อ COVID Respond Campaign อาทิ 1) Health Screening Solution การสแกนใบหน้า ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจสอบการใส่หน้ากาก 2)Tracker Application การเช็คไทม์ไลน์ของกลุ่มคนเป้าหมายเพื่อควบคุมความปลอดภัยได้ครบทุกจุด 3) Van Sales Business for new normal Application สนับสนุนงานขายการจัดระบบรับ-ส่งสินค้า การสร้างออเดอร์ผ่านระบบออนไลน์ วางแผนเส้นทางการจัดส่งเช็คสินค้าคงคลัง 4) Cloud Kitchen for New Normal แอพพลิเคชั่นที่สนับสนุนสังคมไร้เงินสด ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจอาหาร สอดรับออเดอร์การจัดส่งในหลายรูปแบบแอพพลิเคชั่นนี้ จะมาเชื่อมต่อผู้ผลิตหรือเจ้าของร้านในการสื่อสารกับลูกค้าให้ง่ายขึ้น”
ฟูจิตสึมีเป้าหมายจะช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้วยการผลักดันโครงการ Digital Transformation (DX) นำเสนอกระบวนการที่เป็นขั้นเป็นตอนสำหรับการให้คำปรึกษาและการติดตั้งระบบ โดยอาศัยข้อมูลเริ่มต้นจากการกำหนดค่ามาตรฐานสำหรับการปรับปรุงข้อมูลภายในองค์กร จากนั้นก็กำหนดสถาปัตยกรรมเป้าหมาย และสร้างสภาพแวดล้อมด้านข้อมูลเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กร มุ่งสร้างสรรค์และขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน