realme แบรนด์เทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ AIoT สุดล้ำในประเทศไทย กับ realme Buds Air 3 หูฟังไร้สายระดับแฟลกชิปที่มอบคุณภาพเสียงทรงพลัง มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน 42 dB และเป็นหูฟังที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland และ realme BOOK PRIME ที่มาพร้อมซีพียูเจนใหม่อย่าง 11th Gen Intel Core i5 พร้อมจอ Full vision 2K
โดย realme มุ่งเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุยทธ์ 1+5+T พร้อมทั้งขยายระบบนิเวศการใช้งาน realme AIoT ecosystem ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคคนไทยยุคใหม่ที่กำลังก้าวสู่ Smart Life
realme Buds Air 3 มาด้วยกัน 2สี คือ สีน้ำเงินและสีขาว
โดดเด่นด้วยไฮไลต์มากมาย ที่มอบประสิทธิภาพการใช้งาน
realme Buds Air 3: TWS ระดับแฟลกชิปที่มอบคุณภาพเสียงสุดขั้น
โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน 42dB รับรองโดยTÜV Rheinland
realme Buds Air 3 รุ่นล่าสุด สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงถึง 42dB ซึ่งอยู่ในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมนี้ และยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland TÜV Rheinland High Performance Noise Cancellation นอกจากนี้ realme Buds Air 3 ยังมีระบบไล่ลมอัจฉริยะ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีเฉพาะในหูฟัง TWS รุ่นเรือธงระดับพรีเมียมเท่านั้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น
ใช้งานได้ยาวนาน 30 ชม. ชาร์จไวเพียง 10 นาที ใช้งานได้ 100 นาที
แบตเตอรี่ใหญ่จุใจ 546mAh ใช้งานได้ยาวนาน 30 ชม.
realme Buds Air 3 มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 546mAh ให้คุณใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น และรองรับการชาร์จเร็วเพียง 10 นาที ก็สามารถฟังเพลงได้นาน 100 นาที
ฟังได้คมชัดของระดับเสียงเบส กับ Dynamic Bass Boost Driver 10 มม.
Dynamic Bass Boost Driver 10 มม. เพื่อเสียงเบสที่ทุ้มลึกและสมบูรณ์แบบ
คุณภาพเสียงที่โดดเด่น เป็นคุณสมบัติพิเศษของ Buds Air Series โดย realme Buds Air 3 มาพร้อมกับไดรเวอร์ขับเสียงเบสขนาดใหญ่ 10 มม. ผลิตจากวัสดุพอลิเมอร์คริสตัลเหลวชนิดใหม่ที่สามารถให้เสียงเบสที่ทุ้มลึกและหนักแน่นได้อย่างเต็มที่ และ realme ยังได้เชิญทีมวิศวกรด้านเสียงและนักดนตรีมาทำงานร่วมกัน เพื่อปรับแต่งเสียงอย่างมืออาชีพด้วย
ใครอยากสัมผัส TWS รุ่นใหม่ล่าสุดจาก realme เป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ในราคาเพียง 1,999 บาท บนช่องทางออนไลน์
• Shopee:
• Lazada:
และวางจำหน่ายผ่าน realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ วันที่ 30 มี.ค. 65 เป็นต้นไป
realme BOOK PRIME รุ่นอัพเกรดโปรเซสเซอร์ พร้อมสีใหม่ล่าสุด
โดดเด่นด้วย 11th-Gen Intel Core หน้าจอระดับ Full Vision 2K
realme BOOK PRIME โดดเด่นด้วยสีใหม่ล่าสุด Real Green
ปีที่ผ่านมา realme ได้เปิดตัว realme Book รุ่นแรกไป พร้อมกับได้รับความนิยมทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะด้วยตัวเครื่องที่บาง เบา ผลิตจากโลหะ และหน้าจอ 2K ที่คมชัดขั้นสุด และล่าสุดกับ realme BOOK PRIME ที่มาพร้อมการอัพเกรดใหม่เป็น Intel Core i5 Gen 11 ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งในแบบ single-core เพิ่มขึ้น 9.6% และ multi-core เพิ่มขึ้น 21.8% อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาและดีไซน์บางเพียง 14.9 มม.
เต็มตากับจอ Full Vision 2K พร้อมหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่
realme BOOK PRIME ให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดวัน และยังมาพร้อมกับไฮไลท์มากมาย
realme BOOK PRIME ยังติดตั้งเทคโนโลยี Advanced Vapor Chamber Liquid Cooling System ร่วมกับการใช้พัดลมดีไซน์บางพิเศษที่มีความเร็วรอบสูงและระบายอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็วจำนวน 2 ตัว จึงเพิ่มประสิทธิภาพระบายความร้อนได้ถึง 32.7% นอกจากนี้ realme Book Prime ยังมีระบบการเพิ่มกำลังวัตต์ของหน่วยประมวลผล ส่งผลให้อัตราการกระจายพลังงานสูงขึ้นถึง 50% จึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของซีพียูได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ คุณยังได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้ตลอดทั้งวัน เพราะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 12 ชม. และยังรองรับการชาร์จไว 65W สามารถชาร์จได้ถึง 50% ในเวลาเพียง
30 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญ ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ตโฟนและแล็ปท็อป ให้เป็นหนึ่งเดียวกันผ่าน PC Connect ช่วยให้คุณสนุกไปกับการใช้งานในหลากหลาย สำหรับด้านคุณภาพเสียงยังมีลำโพง HARMAN 2 ตัว ซึ่งรองรับ เอฟเฟกต์เสียงสเตอริโอ DTS HD ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ได้อย่างเต็มอรรถรส ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม
รุ่นและราคา
realme BOOK PRIME ราคา 27,990 บาท
มี 3 สี คือ Real Blue และ Real Grey และสีไฮไลท์ใหม่ล่าสุด คือ Real Green
วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บนช่องทางออนไลน์ที่กำหนด ดังนี้
· Shopee:
· Lazada:
พร้อมทั้งรับฟรี* realme VOOC USB Type C , realme Wireless Mouse และ กระเป๋า Jet Black Bag รวมมูลค่า 5,000.- จำนวนจำกัด
และจะวางขายพร้อมกันที่ realme Brand Shop ในวันที่ 30 มีนาคมนี้เป็นต้นไป