คลังเก็บ

Dyson เดินหน้าสู่เทคโนโลยีเครื่องเสียง ส่ง Dyson Zone หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active วางขายปีหน้า

Dyson เผยข้อมูลล่าสุดของ Dyson Zone™ หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active โดยจะวางขายในประเทศจีน เดือนมกราคมปีหน้า และวางขายในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และสิงคโปร์ หลังจากประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Dyson Zone™ กลับมาพร้อมข้อมูลรายละเอียดในการเป็นหูฟังที่มอบประสบการณ์การฟังเพลงแบบอิมเมอร์ซีฟที่มาพร้อมความสามารถในการกรองอากาศ

ด้วยการวิจัยและพัฒนากว่า 6 ปี Dyson Zone™ สามารถให้เสียงเต็มคุณภาพ คมชัด สมจริง ได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนอันทรงพลัง และการทำสำเนาเสียงที่แม่นยำ เต็มสเป็กตรัม มาพร้อมกับความสามารถในการกรองอากาศ สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน และตัวกรอง K-Carbon เคลือบโพแทสเซียมที่ทำหน้าที่ดักจับก๊าซมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมในเมือง เช่นไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์

ออกแบบมาเพื่อปกป้องคุณจากมลพิษในตัวเมืองทุกรูปแบบ

ประชากรของโลกจำนวนมากกว่าครึ่งอาศัยอยู่ในตัวเมือง โดยคาดว่าสัดส่วนของคนที่อาศัยในตัวเมืองจะอยู่ที่ 7 ใน 10 ภายในปี 2050[1] แน่นอนว่าเมื่อประชากรในเมืองขยายตัว โครงข่ายสาธารณูปโภคต่างๆ ก็เติบตัวควบคู่ไปด้วย ทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของการขนส่ง การก่อสร้าง การเดินทาง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสภาพแวดล้อมภายในเมืองทั้งมลภาวะทางอากาศและมลภาวะทางเสียง ตัวอย่างเช่น

  • ชาวนิวยอร์คจำนวน 90% โดยประมาณที่เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะมักพบเจอกับมลภาวะทางเสียงที่มีความดังเกินค่าที่แนะนำ ในขณะที่ประชากรในสหภาพยุโรปจำนวน 1 ใน 5 ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียง
  • 99% ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีค่ามลภาวะสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ
  • ในหลายภูมิภาคปัญาหามลภาวะทางอากาศไม่ได้เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ตัวอย่างเช่นในทวีปยุโรป เอเชียตะวันตก และแอฟฟริกา ตามรายงานของโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ สาเหตุหลักของมลภาวะทางอากาศเกิดจากฝุ่นขนาดเล็กที่เกิดจากกระแสลม
Dyson Zone

*รูปภาพโดย Tom William Chapman

Dyson Zone™ จะมาแก้ไขปัญหาได้อย่างไร?

Dyson Zone™ หูฟังกรองอากาศถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับปัญหามลภาวะในตัวเมืองทั้งเสียงรบกวนและมลพิษในอากาศ ด้วยขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และระบบชาร์จ USB-C Dyson Zone สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมงเมื่อใช้เฉพาะตัวหูฟัง หรือใช้ได้สูงสุดถึง 4 ชั่วโมงเมื่อใช้ทั้งหูฟังและเครื่องกรองอากาศพร้อมกัน โดยสามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 3 ชั่วโมง

Dyson Zone™ หูฟังกรองอากาศชิ้นนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 30 ปี ด้านการไหลของอากาศ การกรอง และมอเตอร์ ของ Dyson และความเข้าใจเชิงลึกเรื่องคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกอาคาร การทำงานของเครื่องกรองอากาศจะอาศัยคอมเพรสเซอร์บริเวณฝาครอบหูทั้งสองข้างในการนำอากาศเข้ามาสู่เครื่องผ่านตัวกรองสองชั้นและปล่อยกระแสอากาศบริสุทธิ์ไปยังจมูกและปากของผู้สวมใส่ผ่านกะบังหน้าแบบไร้สัมผัส ในส่วนของตัวกรองจะประกอบด้วยตัวกรองประจุไฟฟ้าที่สามารถดักจับอนุภาคได้ขนาดเล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน ในขณะที่ตัวกรอง K-Carbon ที่เคลือบโพแทสเซียมทำให้สามารถดักจับก๊าซมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมในเมือง เช่นไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์

Dyson Zone™ ออกแบบมาเพื่อมอบเสียงที่คมชัด สมจริง โดยสูญเสียคุณภาพเสียงน้อยที่สุด ครอบคลุมทุกย่านเสียงทั้งต่ำ กลาง สูง นอกจากนั้นยังสามารถใช้คุยโทรศัพท์ อัดเสียง และรับคำสั่งเสียงได้ด้วย ไมโครโฟนสำหรับการสนทนาจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนที่ใช้ในฟังก์ชัน ANC ในการบีมฟอร์มมิ่ง ซึ่งทำให้สามารถรับเสียงพูดจากผู้สวมใส่ได้โดยป้องกันเสียงรบกวนจากทั้งด้านข้างและด้านหลังของผู้สวมใส่ได้

Dyson บนเส้นทางของวิศวกรรมด้านเสียงที่แตกต่าง

Dyson Zone™ มอบประสบการณ์การฟังเพลงแบบอิมเมอร์ซีฟ โดยถึงแม้ผู้พัฒนาเครื่องเสียงส่วนมากในตลาดมักจะใช้ Golden Listener ในการทดสอบเครื่องเสียง บุคคลที่ได้รับการฝึกให้ฟังและจำแนกเสียงเหล่านี้จะเป็นผู้กำหนดว่าเสียงแบบไหน เป็นเสียงที่ “ดี” แต่วิศวกรของ Dyson ต้องการที่จะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการวิจัยและยืนยันผลลัพธ์ด้วยการขยายกลุ่มคนในการทดสอบไปมากกว่าเหล่า Golden Listener

  • ออกแบบมาเพื่อมอบเสียงที่ผิดเพี้ยนน้อยที่สุดทั้งไดร์เวอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเครื่องกล วัสดุที่ใช้ ล้วนแล้วแต่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อลดการผิดเพี้ยนของเสียง โดยเทคโนโลยีสัญญาณอัจฉริยะที่ทำงานถึง 48,000 ครั้งทำให้ได้เสียงที่สมดุล ผนวกกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ทำหน้าที่ลดการผิดเพี้ยนของเสียงในทุกย่านความถี่
  • ระบบตัดเสียงแบบ Active ทรงประสิทธิภาพ: ใช้ไมโครโฟน 8 จาก 11 ตัวภายในเครื่องเพื่อตรวจสอบเสียงรอบข้างได้มากถึง 384,000 ครั้งต่อวินาทีทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้มากสุดที่ 38 เดซิเบล ตั้งแต่ 20Hz ถึง 20kHz
  • เสียงสมจริง เต็มสเป็กตรัมDyson Zone สามารถทำสำเนาเสียงได้ในย่าน 6Hz ถึง 21kHz เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถมอบเสียงได้ครบทุกโน๊ต ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายในการทำสำเนาเสียงให้ตรงกับเรนจ์เสียงของคนพูด ดังนั้นการที่ Dyson Zone สามารถทำสำเนาเสียงในย่านที่เหนือการรับรู้ของบุคคล ทำให้เราสามารถมอบเสียงที่คมชัด และสมจริง เก็บครบทุกสเป็กตรัมเสียง โดยเรนจ์เสียงที่กว้างเกิดจากระบบวิศวกรรมอิเล็กโทรอคูสติก และส่วนประกอบหลักได้แก่ สปีคเกอร์ไดร์เวอร์ นิโอดิเมี่ยม ขนาด 40 มม. 16 โอห์ม
  • ปรับแต่งมาเพื่อให้ได้ยินครบทุกเสียงขับเคลื่อนด้วยมาตรวัดทางวิทยาศาสตร์และยืนยันด้วยการทดสอบโดยกลุ่มคนที่หลากหลาย วิศวกรของ Dyson สามารถระบุย่านเสียงที่สามารถมอบเสียงที่คมชัดและสมจริงที่สุดได้ และด้วยการตั้งค่า EQ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่ชัดเจน
  • สัมผัสประสบการณ์การฟังแบบสบายไม่มีศีรษะไหนที่เหมือนกันแบบ 100% ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เองทำให้ความสบายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่งผลในการออกแบบทั้งแรงกดของที่ครอบหัว รูปทรงและวัสดุของกะบังหน้าแบบถอดได้ การปรับแต่งอุปกรณ์ และอีกมากมาย โดยโฟมครอบหูถูกออกแบบมาให้แบรนกว่าหูฟังแบบปกติเพื่อลดเสียงจากภายนอก โดยทำองศาเพื่อสอดรับกับบริเวณหูเพื่อความสบายสูงสุด

เสียงคมชัดในทุกสถานการณ์จริง

มีประชากรทั่วโลกจำนวนกว่า 190 ล้านคนที่เดินทางโดยรถไฟใต้ดิน ที่ทำให้ผู้เดินทางถูกสัมผัสโดยมลภาวะทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และ PM10 ซึ่งในบางประเทศอากาศในรถไฟใต้ติดมีฝุ่นละอองมากกว่าบนถนน

ระบบเซนเซอร์ การเชื่อมต่อ และการพัฒนาแอปพลิเคชัน

ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) คือหนึ่งในก๊าซมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ที่เกิดจากทั้งรถยนต์และการก่อสร้าง และยังมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ที่พบได้บ่อยที่สุดในตัวเมือง โดยตัวกรองคาร์บอนเคลือบโพแทสเซียมถูกออกแบบมาเพื่อดักจับแก๊ซเหล่านี้ เพื่อต่อสู้กับปัญหามลภาวะทางอากาศในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นใน Dyson Zone™ ยังมีเซนเซอร์ที่คอยวัดระดับไนโตรเจนไดออกไซด์และระดับมลพิษทางเสียงแบบเรียลไทม์และแสดงผลผ่านแอปฯ MyDyson™ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์แบบเดียวกับที่เครื่องฟอกอากาศของ Dyson ทำได้ด้วยการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้สวมใส่และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ หนึ่งในฟังก์ชันของ Dyson Zone™ คือการที่สามารถปรับระดับความแรงของอากาศได้อัตโนมัติเมื่อเปิดโหมด Auto และสวมกะบังหน้า ระบบตรวจจับศีรษะจะเปิดเครื่องในโหมด Standby เมื่อไม่ได้สวม และเมื่อถอดกะบังหน้าจะเข้าสูโหมดพูดคุยอัตโนมัติ ทำการปิดเครื่องกรองอากาศ และหยุดเพลง ทำให้สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

MyDyson™ สามารถใช้เพื่อควบคุม Dyson Zone™ ปรับความเร็วของกระแสลม และเปิด-ปิดระบบตัดเสียงรบกวน รวมไปถึงปรับการตั้งค่า EQ ได้ตามความต้องการ โดยสามารถเลือกจาก 3 โหมด Dyson EQ (คุณภาพเสียงสูง) Bass Boost (เน้นเบส) และ Neutral (flatter response curve) นอกจากนั้นใน MyDyson™ ยังสามารถปรับเสียงรวมถึงรับคำแนะนำเรื่องสุขภาพของหูได้ด้วย

Dyson Zone™ หูฟังกรองอากาศถูกออกแบบโดยทีมวิศวกรจากทั้งสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน โดยสำนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ การพัฒนาแอปฯและการบูรณาการถือเป็นโครงการที่สำคัญที่จะมีส่วนช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างราบลื่น และมอบฟีเจอร์ในการติดตามมลภาวะทั้งทางเสียงและอากาศอย่างชาญฉลาด

เช่นเดียวกันกับเครื่อง Dyson ทุกเครื่อง Dyson Zone™ หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active ถูกทดสอบอย่างถึงที่สุด ทั้งในห้องควบคุมอุณหภูมิ ทดสอบการตกจากที่สูง ทดสอบการสึกหรอของวัสดุ ทดสอบความทนทานของปุ่ม และอีกมากมาย โดยผู้ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากคือเหล่าวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบที่ Dyson Malaysia Development Centre ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งทำให้สามารถทดลองสวมใส่ได้ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นนอกเหนือจากห้องปฏิบัติการในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีการทดสอบในผู้ใช้จริงในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน และสิงคโปร์

Dyson Zone™ หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active จะเปิดตัวในปี 2023 ในบางภูมิภาคเท่านั้น โดยระยะเวลาการวางจำหน่ายจะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยทาง Dyson จะแจ้งให้ทราบเมื่อใกล้ถึงเวลาจัดวางขาย โดยสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ Dyson.co.th


[1]World Bank accessed Dec 2

Dyson คือบริษัทด้านการวิจัยและเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยงานด้านวิศวกรรม วิจัย พัฒนา ผลิต และทดสอบการปฏิบัติการในสิงคโปร์

สหราชอาณาจักร มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เริ่มต้นจากโรงรถในสหราชอาณาจักร Dyson เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1993 ปัจจุบัน Dyson มีสำนักงานเทคโนโลยี 2 แห่งในสหราชอาณาจักรภายใต้พื้นที่กว่า 800 เอเคอร์ใน มาล์มสบิวรี และ ฮัลลาวิงตัน และสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ Dyson ยังคงเป็นบริษัทของครอบครัวที่มีพนักงานกว่า 14,000 คนทั่วโลก รวมถึงวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์กว่า 6,000 คน วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใน 83 ประเทศทั่วโลก

Dyson ลงทุนกว่า 2,750 ล้านยูโรในการสร้างผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่จะปฏิวัติวงการ Dyson มีทีมวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากทั่วโลกที่มุ่งมั่นในการพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตท, ดิจิทัลมอเตอร์ไฟฟ้าความเร็วสูง, ระบบเซนซิงและวิชั่น, วิทยาการหุ่นยนต์, เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง, และการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่การลงทุนในเครื่องดูดฝุ่นไซโคลนไร้ถุง DC01- เครื่องแรกในปี 1993 Dyson ได้สร้างเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาทั้งสำหรับเส้นผม, การกรองอากาศ, หุ่นยนต์, โคมไฟ, และเครื่องเป่ามือ

ข้อเท็จจริงและสถิติ

  • Dyson ได้สร้างเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด เพื่อให้บ้านของคุณมีสุขภาพและสภาพแวดล้อมที่ดี เช่น Detect Vacuum และ Dyson Pure Cool Formaldehyde ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้การลงทุนในการสร้างถึง 150 ล้านปอนด์ และจะลงทุนเพิ่มอีก 2.75 พันล้านปอนด์ ในอีก 5 ปีข้างหน้า
  • ในปี 2020 Dyson มีการผลิตผลิตภัณฑ์ทุก ๆ 1.26 วินาที
  • Dyson ได้รับหน้าที่ในการศึกษาเกี่ยวคุณภาพอากาศในช่วงกักตัวอย่างกว้างขวางที่สุด ด้วยการใช้ Backpack อัจฉริยะใน 14 ประเทศ และเชื่อมต่อเครื่องกรองอากาศ 1,576,658 เครื่อง ในแต่ละบ้านทั่วโลก
  • เพื่อเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในการทำความสะอาด และความตระหนักกับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับฝุ่น นับตั้งแต่ช่วงเกิดการแพร่ระบาด Dyson ได้เปิดตัว Global Dust Study ครั้งแรกในปี 2020 และมีผู้ให้สัมภาษณ์มากถึง 10,754 คนทั่วโลก
  • นับทศวรรษที่ Dyson ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ Science of style และ เครื่องหนีบผม Dyson Corral เทคโนโลยีล่าสุดจาก Dyson ที่ใช้ระยะเวลาในสร้างถึง 7 ปี ใช้เงินลงทุนมากถึง 25 ล้านปอนด์ ในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงยังใช้เวลามากถึง 600 ชั่วโมงในการทดลองใช้งานกับผู้ใช้งานจริงมากถึง 800 คน ใน 5 ประเทศ ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องมือนี้
  • เพื่อที่จะได้เข้าใจเกี่ยวกับผมอย่างแท้จริง Dyson ได้ลงทุนมากกว่า 500 ล้านปอนด์ เพื่อสร้างนวัตกรรมความงามชิ้นใหม่ และขยายและเร่งพัฒนางานวิจัยและเทคโนโลยีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามของเรา ซึ่ง Dyson ได้วางแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวน 20 ชิ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า
  • นอกเหนือจากการลงทุนนี้แล้ว Dyson ได้เผยแพร่ผลงานการวิจัย The 2022 Global Hair Study ที่เป็นงานวิจัยเกี่ยวกับผมที่ครอบคลุมที่สุด ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับชนิดของผม พฤติกรรมและความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของผมและสุขภาพผมและสุขภาพผมม พฤติกรรมและความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของผมและสุขภาพผมทั่วโลก
  • ในปี 2020 รางวัล James Dyson Award บรรลุจุดสำคัญในการสนับสนุนทางการเงินแก่นักประดิษฐ์รุ่นเยาว์กว่า 200 คน และผู้ชนะระดับนานาชาติ 65% ได้นำเทคโนโลยีของตนไปจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ท่ามกลางเหล่า Start-up ที่ล้มเหลวมากถึง 90%

ผลิตภัณฑ์หลัก

  • Dyson V15 Detect™: เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2021 ที่มีคุณสมบัติในการปล่อยแสงเลเซอร์ที่สามารถทำให้เห็นฝุ่นที่ซ่อนอยู่ได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่เซ็นเซอร์เพียโซ จะช่วยวัดและบันทึกฝุ่นและเศษผงต่าง ๆ ที่ถูกดูดเข้าไป
  • The Dyson Corrale™ straightener: เครื่องหนีบผมชิ้นเดียวเท่านั้นที่ใช้เทคโนโลยีแผ่นทองแดงแบบโค้งงอ ที่ทำให้ผมไม่กระจายตัวออก และยังสามารถควบคุมการจัดแต่งทรงผมได้โดยใช้ความร้อนที่ไม่สูงเกินไป และไม่ทำร้ายเส้นผม อีกทั้งยังรวบรวมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ที่สามารถวัดและปรับแต่งอุณหภูมิบนแผ่นให้ความร้อนได้ถึง 100 ครั้งต่อวินาที
  • The Dyson Purifier Cool Formaldehyde™: เครื่องกรองอากาศที่มาพร้อมความแม่นยำในการตรวจหาฟอร์มาลดีไฮด์ในสถานะของแข็ง และสามารถทำลายฟอร์มาลดีไฮด์ได้ด้วยการเร่งปฏิกริยา ซึ่งเทคโนโลยีเครื่องกรองอากาศอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดของ Dyson ยังเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดในการจัดการกับอนุภาคและก๊าซที่ลอยอยู่ในอากาศ ด้วยเครือข่ายเครื่องกรองอากาศที่เชื่อมต่ออยู่ทั่วโลก ทำให้ Dyson เห็นภาพรวมของอากาศภายในอาคารทั่วโลกได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งช่วยให้วิศวกรของ Dyson เข้าใจทั้งปัญหาคุณภาพอากาศในบ้านและที่ทำงานมากขึ้น