ดีแทคชี้เงื่อนไขประมูลคลื่น 1800 MHz อาจส่งผลให้รัฐได้รายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย คลื่นไม่มีผู้ประมูล และตลาดด้อยประสิทธิภาพลง สืบเนื่องจากที่ประชุมบอร์ด กสทช ได้มีมติให้จัดการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ โดยพิจารณาให้ยึดกฎเกณฑ์การจัดประมูลตามเดิมที่จะแบ่งคลื่นความถี่ออกเป็นใบอนุญาตละ 15 MHz และยังคงข้อกำหนดN-1 (การกำหนดจำนวนใบอนุญาตที่นำมาประมูลต้องน้อยกว่าจำนวนผู้เข้าร่วมประมูล)
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนคลื่นความถี่ที่จะนำไปรองรับการเติบโตของการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากการที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเข้ามาเปลี่ยนผ่านประสบการณ์ใหม่ต่างๆ ทั้งนี้ ในการที่จะผลักดันนโยบายประเทศไทย 4.0 รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการจัดการบริหารคลื่นความถี่เข้าสู่วาระแห่งชาติ”
“ดีแทคมีความกังวลต่อมติบอร์ด กสทช. ที่กลับไปใช้แนวทางประมูลเดิมสำหรับการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ซึ่งไม่ส่งผลดีอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม ไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินนโยบายสร้างประเทศไทย 4.0 ในส่วนการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz นั้น ดีแทคกำลังรอประกาศเชิญชวนและเผยแพร่สรุปข้อสนเทศ (Information Memorandum) ฉบับสมบูรณ์ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ” นายลาร์ส กล่าว
สำหรับความคิดเห็นของดีแทคมีประเด็นที่สำคัญเพื่อนำเสนอ โดย 1. ขอให้พิจารณาราคาเริ่มต้นการประมูลของการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ให้เหมาะสมเพิ่มขึ้นกับผู้บริโภคในประเทศไทย 2. ขนาดของคลื่นความถี่ที่จะให้อนุญาต โดยการกำหนดใบอนุญาตคลื่นความถี่ ชุดละ 2x5 MHz (แทนขนาด 2x15 MHz) ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถเลือกประมูลจำนวนคลื่นความถี่ที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้งานแต่ละราย สอดคล้องกับแผนธุรกิจและการลงทุนและยังเป็นการส่งเสริมการแข่งขันในตลาด และ 3.การพิจารณาทบทวนข้อกำหนดN-1 (การกำหนดจำนวนใบอนุญาตที่นำมาประมูลต้องน้อยกว่าจำนวนผู้เข้าร่วมประมูล) ในการประมูลคลื่น 1800 MHz ซึ่งควรยกเลิกกฎนี้เนื่องจากส่งผลเสียต่อการแข่งขันและผู้ใช้งานในภายหลังประมูล เนื่องจากกฎนี้จะทำให้เกิดสภาวะเสมือนการขาดแคลนคลื่นความถี่จากที่มีอยู่เดิม และผู้เข้าประมูลบางรายอาจถูกจำกัดสิทธิ์การเข้าประมูล โดยทั้งหมดนี้จะทำให้เกิดการลดการแข่งขันในตลาด และลดโอกาสและทางเลือกของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ดีแทคจะเร่งยื่นหนังสือนำเสนอแผนธุรกิจและแผนความคุ้มครองผู้ใช้บริการตามมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2558) เพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการให้สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้สัญญาให้บริการเดิม ในขณะเดียวกัน ดีแทคกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการโอนย้ายลูกค้าที่ยังคงค้างในระบบด้วยข้อเสนอทางการตลาด เพื่อให้ลูกค้าที่มีอยู่จำนวนหนึ่งได้มีประสบการณ์ในการใช้งานดิจิทัล และเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้าที่ใช้งาน 2G จะได้เข้าสู่ดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบน 4G และ 3G
“ดีแทคอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและจัดทำแผนความคุ้มครองผู้ใช้บริการภายใต้ประกาศดังกล่าวและจะนำเสนอต่อ กสทช. ในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกระบวนการเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับผู้ให้บริการมือถือรายอื่นๆ ที่หมดสัมปทานลง และเข้าสู่มาตรการเยียวยาคุ้มครองลูกค้า” นายลาร์ส กล่าว