ดีแทคส่งหนัง “สัมผัสแรก (The first touch)” สื่อสารแบรนด์ในบทบาทผู้นำโทรคมนาคม ถ่ายทอดความเป็นเทคโนโลยีต้องเชื่อมต่อทุกเสี้ยวความรู้สึก หลังรุกต่อเนื่องเชื่อมต่อสังคมสู่ทุกสิ่งที่สำคัญในทุกเวลา พัฒนาสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตดิจิทัลพร้อมกันทั้ง 5G และ 4G เพื่อให้ทุกความต้องการสามารถเชื่อมต่อสู่โลกดิจิทัลให้ลื่นไหลไม่มีสะดุดและมีความสมบูรณ์แบบ
นายฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เราถ่ายทอดเรื่องราว 5G ด้วยแนวคิดทุกเสี้ยวความรู้สึก จะไม่มีวันห่างกัน แม้จะเจอสถานการณ์ท้าทายแบบโควิด-19 เทคโนโลยีจะเชื่อมต่อทุกเสี้ยวความรู้สึก
เพราะความแตกต่างระหว่าง 5G กับ 4G ไม่ใช่แค่การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เพื่อรองรับแอปพลิเคชันใหม่ หรือตอบสนองแค่ดูหนัง ฟังเพลงแค่นั้น แต่เป็นการที่ “5G เปิดโลกใหม่” ที่ไม่ใช่แค่การเชื่อมต่อเหมือนกับ G อื่นๆ ที่ผ่านมา แต่จะทำให้เราเข้าไปใกล้โลกแห่งอนาคตด้วยการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์กับผู้ใช้งานที่อยู่ห่างไกลแบบเรียลไทม์ ทำให้เกิดบริการใหม่ๆ ที่โลกยังไม่เคยสัมผัสกันอีกมาก”
ล่าสุด ดีแทคผุดไอเดียโฆษณาทำหนัง 5G ให้ลูกค้าได้เข้าใจง่าย บอกเล่าไม่ว่าเทคโนโลยีจะไฮเทคแค่ไหนก็ต้องจับต้องได้และมีความเป็นมนุษย์ โดยใช้ความรักความห่วงใยถึงคนที่รัก และอยู่ร่วมกันในครอบครัวมาเป็นจุดร่วมความรู้สึก ด้วยการนำเสนอผ่านเรื่องราวจำลองเทคโนโลยีล้ำยุคและคู่หนุ่มสาวที่เริ่มต้นครอบครัว
รวมทั้งสัญญาว่าจะอยู่พร้อมหน้าวันที่ลูกเกิด แต่ด้วยหน้าที่และสถานการณ์ทำให้อยู่ห่างไกลคนละประเทศและกลับมาไม่ทันในวันที่ภรรยาคลอด ดังนั้น เทคโนโลยี 5G ผ่านการจำลองของ Sensory Robotic Arm จึงมาเชื่อมต่อทุกเสี้ยวความรู้สึกจากพ่อที่อยู่ห่างไกลและลูกที่เพิ่งเกิดให้เสมือนได้สัมผัสมือของลูกน้อย โดยมีแม่ดูแลอยู่เคียงข้างด้วยความรักและอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า
เบื้องหลังหนังโฆษณาเรื่องนี้มาจากแนวคิดนำเสนอคุณสมบัติของ 5G ที่มีความหน่วงต่ำ หรือสามารถตอบสนองได้ทันที (ultra-low latency) ทำให้มีประสิทธิภาพส่งดาต้าความเร็วสูง และข้อมูลจำนวนมาก สามารถพัฒนาสู่ use case การรับส่งได้ทั้ง ภาพ เสียง ผิวสัมผัส และแม้แต่แรงกด
สิ่งสำคัญของเทคโนโลยีทั้ง 5G และ 4G คือคุณค่า “เชื่อมต่อทุกความรู้สึกให้ถึงกัน” แต่เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4G จะพบว่า 5G ก้าวไปไกลกว่าเทคโนโลยีการสื่อสารที่ผ่านมา และเป็นมากกว่าสมาร์ทโฟน 5G ช่วยให้สามารถพัฒนาสู่ use case อีกโลกที่เชื่อมต่อจากระยะไกล การทำงานของหุ่นยนต์ เครื่องจักร การแพทย์ และอื่นๆ อีกมาก
ดีแทคได้ให้บริการ 5G และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยคลื่น 26 GHz หรือ mmWave ซึ่งเป็นคลื่นความถี่สูงที่มีคุณสมบัติพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานความเร็วสูงสุดเพื่อรับส่งข้อมูล และเพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งานในปริมาณมากพร้อมทั้งมีความแม่นยำในการใช้งานเพื่อรองรับนวัตกรรม 5G ต่างๆ โดยดีแทคได้นำมาทดสอบสมาร์ทโฟน 5G คลื่น 26 GHz และใช้งาน use case อาทิ กล้องตรวจการณ์อัจฉริยะ โซลูชันเมืองอัจฉริยะ (การจัดการน้ำอัจฉริยะและพลังงานอัจฉริยะ) เป็นต้น
ทั้งนี้ โฆษณาดังกล่าวยังตอกย้ำความมั่นใจว่าดีแทคไม่หยุดพัฒนาโครงข่ายและตอบสนองทิศทางลูกค้าที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือเพิ่มขึ้น ในปัจจุบันดีแทคมีการใช้งานดาต้าเฉลี่ย 19.2 GB ต่อคน/เดือน ยอดผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน (Smartphone penetration) 87.1% และสถานีฐาน 4G บนคลื่น 2300 MHz ภายใต้ความร่วมมือกับทีโอที ยังเปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 18,917 สถานีฐาน (ข้อมูล ณ ไตรมาส 3/2563) รวมทั้งติดตั้งเทคโนโลยี Massive MIMO ในพื้นที่ใช้งานหนาแน่นให้รองรับการใช้งานดีกว่าเดิม 3 เท่า
หนังโฆษณา “สัมผัสแรก” สร้างสรรค์โดยบริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด กำกับโดย ภากร จุ่งรุ่งเรือง และร่วมถ่ายทอดความรู้สึกของความห่วงใยในครอบครัวผ่านบทเพลง “หลับตา” จาก “ชรัส เฟื่องอารมณ์” ที่นำมาเรียบเรียงใหม่ (Cover version) และขับร้องโดย เล็ก วงพราว นักร้องอินดี้ร่วมสมัยสำหรับโฆษณาชิ้นนี้โดยเฉพาะอีกด้วย