BUZZEBEES ผู้นำอันดับหนึ่งด้าน Digital Engagement และ Loyalty Platform ก้าวสู่มิติใหม่ของการสร้างสรรค์นวัตกรรม มุ่งมั่นปรับตัวและเติบโตในยุคดิจิทัล สู่เป้าหมาย “CONNECTING THE WORLD”
โดยในปี 2024 นี้ ใช้กลยุทธ์หลัก 3 ประการ คือ 1. นำเทคโนโลยีมาปรับใช้พัฒนาแพลตฟอร์ม และใช้นวัตกรรม AI สร้าง Engagement แบบ Personalized สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ตรงกลุ่มเป้าหมาย 2. ขยายการให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างครอบคลุม ช่วยให้แบรนด์และร้านค้ามีรายได้เติบโต
และ 3. สร้าง Engagement และ Conversation พร้อมเปิดตัว Mediabuzz แพลตฟอร์ม Affiliate Marketing ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับลูกค้าใหม่ สร้าง GMV 2.2 พันล้านบาท เพื่อช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
คุณณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES) กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในงานแถลงข่าว BUZZEBEES Mission Unlocked: Exploring Innovation, Business Breakthrough, and Financial Triumphs ว่าในปี 2024 ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวมากขึ้น และหลายองค์กรยังให้ความสำคัญกับ Digital Engagement และ Loyalty Program เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
และต้องมุ่งเน้นการยกระดับไปอีกขั้นด้วยการสร้าง Engagement แบบ Personalized หรือการสร้างการมีส่วนร่วมแบบเฉพาะบุคคลเพื่อให้เกิดความแตกต่างและเฉพาะเจาะจงกับแต่ละกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์สำหรับลูกค้าที่ดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อรักษาฐานลูกค้าในสภาวะการแข่งขันที่เข้มข้น และสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่มีความท้าทายและต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว BUZEEBEES ต้องปรับวิธีคิดในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ รูปแบบแนวทางใหม่ๆ จากการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งเชื่อว่าจะเข้ามาพลิกโฉมวิธีการเชื่อมต่อและโต้ตอบกันในโลกออนไลน์ในอนาคต รวมถึงการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดและการเติบโตของการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล ซึ่งยอมรับว่าเป็นอีกบททดสอบที่หนักหน่วง
หนึ่งในบริการของ BUZZEBEES ที่เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ และเปิดตัวในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา คือ ‘ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร’ (E-Commerce Enabler Service) เป็นอีกกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์และร้านค้าสามารถพลิกฟื้นกลับมามีรายได้ที่เติบโตอีกครั้ง
โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา BUZZEBEES สามารถสร้างยอดขายให้ลูกค้าในตลาดอีคอมเมิร์ซได้แบบก้าวกระโดดถึง 3 เท่า หากเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่ายอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท จากรายได้ทั้งหมดของ BUZZEBEES ถือว่าสามารถทำทะลุเป้าหมายได้ถึง 120%
โดยในปี 2023 BUZZEBEES ได้ขึ้นแท่นเป็น E-Commerce Enabler อันดับ 1 ของ Shopee ประเทศไทย พร้อมได้รับการรับรองให้เป็น “Shopee Premium Enabler” และ “Lazada Certified 3 Stars” ต่อเนื่องจนปัจจุบันคือไตรมาส 1 ปี 2024 ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ระดับสูงสุดที่การันตีความเป็นเลิศในการให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซครบวงจร
สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานของ BUZZEBEES ที่สามารถสร้างการเติบโตให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ความสำเร็จในการสร้างยอดขาย (GMV) ให้กับลูกค้า การบริหารจัดการแคมเปญการตลาด (Marketing Campaign) รวมถึงการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ (Operational Excellence) แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริการจัดการธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร พร้อมช่วยเพิ่มยอดขายให้ลูกค้าสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ปัจจุบัน BUZZEBEES ให้บริการในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ได้แก่ Shopee, Lazada, Brand.com, Line Official และ TikTok ซึ่งเป็นดาวรุ่งในปี 2023 – 2024 โดย BUZZEBEES เพิ่งเริ่มขยายฐานการให้บริการจัดการร้านค้าในแพลตฟอร์ม TikTok เมื่อเมษายน 2023 ที่ผ่านมา
และได้รับรางวัล Shop Management Service Excellence จาก TikTok ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 อีกด้วย ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่สร้างยอดขาย (GMV) ให้กับลูกค้าได้มากกว่า 1,000% ภายในระยะเวลา 5 เดือน
ขณะที่ ‘Mediabuzz’ เป็นธุรกิจใหม่ด้าน Affiliate Marketing และเป็นเรือธงแห่งปี 2024 ของ BUZZEBEES ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการสร้างยอดขาย (Sales Conversion)
ผ่านการใช้ Influencer Marketing ที่ผสมผสานการที่ BUZZEBEES เป็น Tech Company ด้วยการใช้ Data และ AI เข้ามาสร้างโมเดลการทำโฆษณาที่สร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดทั่วไป
โดยในปี 2023 Mediabuzz สามารถทำยอดขายสินค้ารวม (GMV) ได้สูงถึง 2.2 พันล้านบาท ผ่านผู้ติดตามสื่อในเครือของ Mediabuzz รวมกว่า 20 ล้านคนและสามารถสร้างผลการตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ได้สูงสุดถึง 100 เท่า
โดย Mediabuzz ให้บริการลูกค้าในหลายประเภทอุตสาหกรรม อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์, สินค้าแฟชั่น, ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน, การท่องเที่ยว เป็นต้น โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2024 ธุรกิจ Mediabuzz จะสร้างยอดขาย (GMV) รวมได้สูงถึงกว่า 4 พันล้านบาท
ตลอดปีที่ผ่านมา BUZZEBEES ยังเดินหน้ารุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ BEES’ BENEFIT เพื่อขยายตลาด B2E (Business to Employee) ในประเทศไทย เน้นการให้ของรางวัลที่ถูกใจพนักงานและสร้างความผูกพันในองค์กร มุ่งหวังให้ HR นำไปเป็นเครื่องมือที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร
นอกจากนี้ BUZZEBEES สามารถปิดดีลยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศได้หลายรายเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ‘CONNECTING THE WORLD’ ที่ต้องการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Eco-system) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเชื่อมธุรกิจทุกขนาดให้สามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน BUZZEBEES ได้ให้บริการครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา โดยพัฒนาแพลตฟอร์มพันธมิตรกว่า 1,200 แพลตฟอร์ม และมีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มกว่า 170 ล้านบัญชี
สำหรับผลการดำเนินงานของ BUZZEBEES มียอดเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 11 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2020 – 2023 มีรายได้อยู่ที่ 921 ล้านบาท, 1,142 ล้านบาท, 1,751 ล้านบาท และ 1,980 ล้านบาทตามลำดับ