ก่อนหน้านี้ ASUS ได้ออกมายืนยันว่า จะมีการเปิดตัว Asus ZenFone Max (M2) และ Max Pro (M2) อย่างเป็นทางการที่ประเทศอินเดียและอินโดนีเซียในวันที่ 11 ธันวาคมนี้
แต่ล่าสุดมีการเปิดตัวผ่านเว็บร้านค้าออนไลน์ของ ASUS ประเทศรัสเซีย พร้อมเผยราคาและเปิดให้พรีออเดอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับสเปกของ ZenFone Max (M2) และ Max Pro (M2) ตรงกับภาพเรนเดอร์ที่เคยหลุดออกมา โดย ZenFone Max (M2) มาพร้อมตัวเครื่องโลหะ จอไร้ขอบ และมีรอยบาก ส่วน ZenFone Max Pro (M2) ตัวเครื่องด้านหลังครอบด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 6 พร้อมจอไร้ขอบ และมีรอยบากที่เล็กกว่า
ZenFone Max (M2) ตัวเครื่องมีขนาด 158.41x76x28x7.7 มม. และน้ำหนัก 160 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 1520 x 720 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้วในอัตราส่วน 19:9
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.8GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 632, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo
ติดตั้งกล้องหลังคู่ ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, และ Bluetooth 4.2, พอร์ต microUSB และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh
ZenFone Max Pro (M2) ตัวเครื่องมีขนาด 157.9×75.5×8.5 มม. และน้ำหนัก 170 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2280 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้วในอัตราส่วน 19:9
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 660, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 512, RAM 4GB, หน่วยความจำภายใน 64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo
ติดตั้งกล้องหลังคู่ ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, และ Bluetooth 5.0, NFC, พอร์ต microUSB และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W
ทั้งนี้ Asus ZenFone Max (M2) เปิดราคาที่ 12,990 รูเบิลรัสเซียหรือประมาณ 6,400 บาท ส่วน ZenFone Max Pro (M2) ราคา 17,990 รูเบิลรัสเซียหรือประมาณ 8,900 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป ส่วนบ้านเราแว่วๆ มาว่าจะเปิดตัวสัปดาห์หน้านี้ รอลุ้นราคาว่าจะใกล้เคียงหรือถูกกว่า
ที่มา : Gizmochina