ASUS ประกาศเปิดตัว Zenfone 5 Series อย่างเป็นทางการที่งาน MWC 2018 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยประกอบด้วยรุ่น Zenfone 5, Zenfone 5Z และ Zenfon 5 Lite ที่มาพร้อมดีไซน์โฉมใหม่ และฟีเจอร์สุดล้ำอย่างเทคโนโลยี AI
สเปก Zenfone 5 และ 5Z
Zenfone 5 และ 5Z มีรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกที่เหมือนกัน ต่างกันตรงสเปกภายในเท่านั้น โดยตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพิ่มความสวยหรูดูพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดี ด้วยขนาด 153×75.65×7.85 มม. และน้ำหนัก 155 กรัม
หน้าจอแสดงผลเป็นจอแบบ Super IPS ความละเอียดFHD+ 2246 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 โดยสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90% และออกแบบให้ด้านบนมีรอยบากสำหรับเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งทาง ASUS เคลมว่ารอยบากนี้เล็กกว่าของ iPhone X
โดย Zenfone 5 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.8GHz, ชิปเซ็ท Snapdragon 636 หน่วยประมวลกราฟิก Adreno 509, RAM 4GB/6GB, หน่วยความจำภายใน 64GB/128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB
ส่วน Zenfone 5Z ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core, ชิปเซ็ท Snapdargon 845, หน่วยประมวลกราฟิก Adreno 630 RAM 4GB/6GB/8GB, หน่วยความจำภายใน 64GB/128GB/256GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB
ทั้ง 2 รุ่นติดตั้งกล้องหลังคู่ในแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual Tone LED โดยกล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX363, รูรับแสง f/1.8, ระบบกันสั่น OIS 4 แกน , ระบบ Dual Pixel PDAF, ขนาดพิกเซล 1.4um กล้องรองความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อเลนส์มุมกว้าง 120 องศา และรูรับแสง f/2.0
โดยความพิเศษของกล้องหลังนั้นอยู่ที่คุณสมบัติการถ่ายภาพ AI ซึ่งใช้ AI Scene Recognition มาช่วยในการถ่ายภาพถึง 16 ซีน และ AI Photo Learning ที่เรียนรู้การถ่ายภาพของเราไปเรื่อยๆ และปรับโหมดและสีให้ตรงกับสไตล์เราได้ ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV8856 พร้อมเลนส์มุุมกว้าง 84 องศา และรูรับแสง f/2.0
นอกจากนี้ยังติดตั้งสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, ช่องลำโพงคู่สเตอริโอที่มาพร้อม NXP 9874 Smart AMP ที่ช่วยเพิ่มกำลังขับให้เสียงดังขึ้น รองรับ Hi-Res Audio และ DTS Headphone X ระบบเสียงเซอร์ราว์ 7.1 แชนแนล และช่องไมโครโฟนคู่
รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, พอร์ต USB Type-C, ช่องชุดหูฟัง 3.5 มม.,
แบตเตอรี่ 3,300 mAh พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว ASUS BoostMaster และ AI Charging และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.0 Oreo ครอบทับด้วย Zen UI 5.0
ทั้งนี้ ตัวเครื่อง Zenfone 5 และ 5Z มีให้เลือก 2 สีคือ สีน้ำเงิน Midnight Blue และสีเงิน Meteor Silver โดยราคาของ Zenfone 5 ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้
ส่วน Zenfone 5Z เริ่มต้นที่ 479 ยูโรหรือประมาณ 18,432 บาท และ Zenfone 5 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายน ส่วน Zenfone 5Z จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนนี้
สเปก Zenfone 5 Lite
มาถึงรุ่นเล็กในตระกูล Zenfone 5 Series กันบ้าง ตัวเครื่อง Zenfone 5 Lite ใช้วัสดุที่ทำจากโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D ทั้งด้านหน้าและด้านหลังสวยไม่แพ้ Zenfone 5 และ 5Z และมีสัดส่วนระกว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 80.3% ด้วยขนาด 160.62×76.16×7.8 มม. และน้ำหนัก 168.3 กรัม
หน้าจอแสดงผลเป็นจอแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2160 x 1080 พิกเซล ขนาด 6 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz
โดยใข้ชิปเซ็ท Snapdragon 430/Snapdragon 630, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505/Adreno 508, RAM 3GB/4GB, หน่วยความจำภายใน 32GฺB/64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB
ติดตั้งกล้องหลังคู่ พร้อมไฟแฟลช LED ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, ระบบ PDAF, ระบบ EIS 3 แกน, เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (กล้องรอง) และบันทึกวิดีโอระดับ 4K (เฉพาะรุ่น SD 630)
ส่วนกล้องหน้าคู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Soft Light, เซ็นเซอร์ Sony IMX376, ระบบ EIS 3 แกน และเลนส์มุมกว้าง 120 องศา
นอกจากนี้ยังติดตั้งสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz) (SD630) / WiFi 802.11 b/g/n (SD430), Bluetooth 4.1, NFC,
แบตเตอรี่ 3,300 mAh และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 7.0 Nougat ครอบทับด้วย Zen UI 4.0 รองรับการอัพเป็น Android 8.0 Oreo ครอบทับด้วย Zen UI 5.0
ทั้งนี้ ตัวเครื่อง Zenfone 5 Lite มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ Midnight Black, สีแดง Rouge Red และสีขาว Moonlight White โดยจะเริ่งวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้
ที่มา : ASUS