“AirPods คือหูฟังที่ขายดีที่สุดในโลก เพราะนอกจากจะตั้งค่าง่ายด้วยการแตะครั้งเดียวแล้ว ยังให้เสียงที่เยี่ยมยอด และมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ Apple ที่ใครๆ ต่างชื่นชอบ และวันนี้เราได้ยกระดับความมหัศจรรย์ไปอีกขั้นด้วย AirPods Pro” Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “AirPods Pro โดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงที่เหนือชั้น พร้อมด้วย EQ แบบปรับได้เอง จุกหูฟังซิลิโคนที่ช่วยให้ใส่สบาย และมาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอกอันล้ำสมัย เราคิดว่าลูกค้าจะต้องถูกใจหูฟังตระกูล AirPods รุ่นใหม่นี้แน่นอน”
ความสบายและกระชับของ AirPods Pro นั้นให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะฟังเพลงด้วยการเปิดการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ หรือพูดคุยกับคนที่อยู่ตรงหน้าขณะอยู่ในโหมดฟังเสียงภายนอก
AirPods Pro เข้ามาเสริมทัพผลิตภัณฑ์ในตระกูล AirPods ซึ่งมอบประสบการณ์การฟังแบบไร้สายในระดับที่ยากจะหาใครเทียบ โดยแต่ละรุ่นใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่จะพลิกโฉมวิธีการฟังเพลง คุยโทรศัพท์ สนุกกับรายการทีวีหรือภาพยนตร์ เล่นเกม และโต้ตอบกับ Siri ส่วนประสบการณ์การตั้งค่าแบบมหัศจรรย์ที่ลูกค้าชื่นชอบใน AirPods รุ่นปัจจุบันนั้นก็มาอยู่ใน AirPods Pro ด้วยเช่นกัน เพียงแค่เปิดเคสชาร์จใกล้กับอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS แล้วแตะง่ายๆ ครั้งเดียว AirPods Pro ก็จะจับคู่กับอุปกรณ์ทั้งหมดที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชี iCloud ของผู้ใช้อยู่ทันที ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, Apple TV หรือ iPod touch
ดีไซน์ใหม่หมด
เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ
เสียงที่เต็มอิ่มสมจริง
AirPods Pro อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมด้านเสียงที่จะมอบเสียงอันเต็มอิ่มสมจริงและประสบการณ์การตัดเสียงรบกวนที่เหนือชั้น
โหมดฟังเสียงภายนอก
การสลับระหว่างการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอกนั้นง่ายนิดเดียว และสามารถทำได้โดยตรงบน AirPods Pro โดยใช้เซ็นเซอร์แรงกดใหม่สุดล้ำบนก้าน นอกจากนี้เซ็นเซอร์แรงกดยังทำให้การเล่น หยุดพัก หรือข้ามแทร็ค รวมถึงการตอบหรือรับสายโทรศัพท์กลายเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย และผู้ใช้ยังสามารถกดแถบเลื่อนปรับระดับเสียงในศูนย์ควบคุมบน iPhone และ iPad เพื่อควบคุมการตั้งค่า หรือแตะไอคอน AirPlay บน Apple Watch ขณะที่เพลงกำลังเล่นอยู่ก็ได้
แตะแถบเลื่อนปรับระดับเสียงในศูนย์ควบคุมเพื่อสลับระหว่างการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอกได้อย่างรวดเร็ว
ประสิทธิภาพและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
ขนาดและประสิทธิภาพของ AirPods Pro เป็นจริงได้เพราะดีไซน์แบบ System in Package (SiP) สุดล้ำของ Apple และมาพร้อมชิพ H1 ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่เสียงจนถึง Siri
คุณสมบัติอื่นๆ
- การทดสอบการใส่หูฟัง ช่วยให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดจาก AirPods Pro โดยการทดสอบความแนบสนิทกับหูและระบุขนาดของจุกหูฟังที่เหมาะที่สุด โดยหลังจากที่ใส่ AirPods Pro ในหูแต่ละข้างแล้ว อัลกอริทึมอันล้ำสมัยจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนใน AirPods แต่ละข้างเพื่อวัดระดับเสียงในหู แล้วเปรียบเทียบกับเสียงที่ออกมาจากไดรเวอร์ลำโพง จากนั้นในไม่กี่วินาที อัลกอริทึมก็จะบอกได้ว่าจุกหูฟังนั้นเป็นขนาดที่เหมาะสมและกระชับพอดีหรือไม่ หรือควรปรับขนาดเพื่อให้แนบสนิทยิ่งขึ้น
- Siri ที่เรียกใช้งานได้ด้วยเสียง ใช้ชิพ H1 เพื่อให้สามารถเรียกใช้งาน “หวัดดี Siri” แบบแฮนด์ฟรีได้ ไม่ว่าจะเล่นเพลง เพิ่มระดับเสียง โทรออก หรือเรียกดูเส้นทาง
- คุณสมบัติ “การแชร์เสียง” ทำให้การฟังเพลงเดียวกันหรือดูภาพยนตร์เรื่องเดียวกันกับเพื่อนกลายเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่นำ AirPods คู่ที่สองมาอยู่ใกล้ๆ iPhone หรือ iPad3
- คุณสมบัติ “การอ่านข้อความ” เพิ่มความสะดวกสบายโดยการอ่านข้อความให้ฟังโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับ และ Siri ยังรู้ด้วยว่าเมื่อไหร่ที่ไม่ควรรบกวน เช่น ขณะคุยโทรศัพท์หรือแชร์สื่อด้วยคุณสมบัติ “การแชร์เสียง”4
- AirPods Pro จะวางจำหน่ายในราคา 9,490 บาท และเปิดให้สั่งซื้อที่ apple.com และในแอพ Apple Store ในสหรัฐฯ และอีกกว่า 25 ประเทศและภูมิภาค AirPods Pro จะเริ่มจัดส่งในวันพุธที่ 30 ตุลาคม และจะวางจำหน่ายในร้านในช่วงปลายสัปดาห์นี้ (แตกต่างกันในแต่ละประเทศและภูมิภาค)
- AirPods Pro ต้องใช้กับอุปกรณ์ Apple ที่ใช้ iOS 13.2 หรือใหม่กว่า, iPadOS 13.2 หรือใหม่กว่า, watchOS 6.1 หรือใหม่กว่า, tvOS 13.2 หรือใหม่กว่า หรือ macOS Catalina 10.15.1 หรือใหม่กว่า
- AirPods พร้อมเคสชาร์จมีจำหน่ายในราคา 5,990 บาท และ AirPods พร้อมเคสชาร์จแบบไร้สายมีจำหน่ายในราคา 7,490 บาท นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อเคสชาร์จแบบไร้สายแยกต่างหากได้ด้วยในราคา 2,890 บาท
- ลูกค้าสามารถสลักข้อความส่วนตัวเพิ่มได้ฟรีบน AirPods Pro, AirPods พร้อมเคสชาร์จ และ AirPods พร้อมเคสชาร์จแบบไร้สายที่ apple.com และแอพ Apple Store
2 ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่แตกต่างกันไปตามการใช้งานและการกำหนดค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/batteries
3 คุณสมบัติ “การแชร์เสียง” ใช้งานได้กับ iPhone 8 หรือใหม่กว่า และ iPod touch (รุ่นที่ 7) ที่ใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2 หรือใหม่กว่า), iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว, iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว, iPad (รุ่นที่ 5 หรือใหม่กว่า), iPad Air (รุ่นที่ 3) และ iPad mini (รุ่นที่ 5) ที่ใช้ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด
4 ใช้งานได้กับ AirPods Pro และ AirPods รุ่นที่ 2, Siri สามารถใช้งานได้บน iPhone 4s หรือใหม่กว่า, iPad Pro, iPad (รุ่นที่ 3 หรือใหม่กว่า), iPad Air หรือใหม่กว่า, iPad mini หรือใหม่กว่า และ iPod touch (รุ่นที่ 5 หรือใหม่กว่า) Siri อาจไม่มีให้บริการในทุกภาษาหรือในทุกพื้นที่ และอาจมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามพื้นที่ จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และอาจมีค่าบริการข้อมูลเซลลูลาร์