AIS ผู้นำในการให้บริการดิจิทัล ตอกย้ำแนวคิด “ที่ 1 ดูแลด้วยใจ ให้ชีวิตดิจิทัล” ที่เข้าใจความต้องการและใส่ใจดูแลลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ด้วยการผสานเทคโนโลยี และ Human Touch เข้าด้วยกัน ไม่เพียงตอบโจทย์เทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวหน้าและเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้นเท่านั้น
แต่ยังให้ความสำคัญในเรื่องความรวดเร็ว สะดวกสบาย ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และการมอบบริการผ่านตัวบุคคลที่สามารถสื่อความรู้สึกได้ ซึ่งยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่เสมออีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าครบทุก Generation ประกอบด้วย
1. บริการ Full–E สะดวกสบายครบทุกด้าน ทั้งเช็ค จ่าย รับ บิลและใบเสร็จ ผ่านแอป myAIS
2. ปลดล็อกความกังวลใจเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวลูกค้าในการเปิดเบอร์ใหม่ กับระบบ Face Recognition ที่ตู้ Kioskใน AIS Shop ทั่วประเทศ และทุกช่องทางจำหน่าย
3. Google Assistant สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกสร้างสรรค์งานบริการให้ล้ำหน้าที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลูกค้าใช้ชีวิตง่ายขึ้นบนเครือข่าย AIS
4. ดูแล เข้าใจ ใส่ใจ ลูกค้ากลุ่มสูงวัยไฮเทค ด้วย Angel Team จาก AIS Contact Center
โดยนางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวถึงรายละเอียดของทั้ง 4 บริการ ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มได้ครบทุกด้าน ด้วยการผสานเทคโนโลยีเข้ากับ Human Touch ดังนี้
1) บริการ “Full–E” ยกระดับความสะดวกสบายที่ครบทั้ง เช็ค จ่าย รับ บิลและใบเสร็จที่จบในแอป myAIS เพียงแอปเดียว ซึ่งจะสามารถแก้ไขทุกความกังวลใจของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบิลค่าใช้บริการสูญหาย การชำระค่าบริการไม่ทันตามกำหนด ไม่สะดวกไปที่จุดชำระเงิน รวมถึงไม่สามารถเรียกดูรายการย้อนหลัง โดยบริการ “Full–E” ช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ประหยัดทั้งเวลาและลดการใช้กระดาษ ด้วย 1.eBill สมัครได้ง่ายๆ ผ่าน แอป myAIS โดยสามารถเช็คบิลค่าใช้บริการผ่านมือถือ พร้อม SMS แจ้งเตือน 2. ePay จ่ายบิลออนไลน์ได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Mobile Banking App, Rabbit LINE Pay และผูกตัดอัตโนมัติกับบัตรเครดิตทุกธนาคาร และ 3.eReceipt เรียกดูใบเสร็จย้อนหลังได้สูงสุด 3 เดือน (eReceipt ใช้บริการได้ไตรมาส 4 ปีนี้)
2) ดูแลความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างดีที่สุดด้วยด้วยระบบแสดงตนแบบพิสูจน์อัตลักษณ์ (Face Recognition)ที่มีประสิทธิภาพและความถูกต้องแม่นยำสูงสุด ปลดล็อกความกังวลใจเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว สำหรับการเปิดเบอร์ใหม่ ครบทุกช่องทางการจำหน่ายทั้งที่ AIS Shop, AIS Telewiz และ AIS Buddy กว่า 20,000 แห่ง ทั่วประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น AIS เป็นรายแรกในประเทศไทย ที่พัฒนาระบบ Face Recognition บนตู้ Service Kiosk 80 ตู้ เพื่อให้บริการจดทะเบียนเลขหมายใหม่ที่ AIS Shop 66 สาขาอีกด้วย
3) ยกระดับงานบริการด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
- จับมือกับพาร์ทเนอร์ พัฒนา Action on Google บน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะบนมือถือที่ให้ลูกค้าสะดวกสบายเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น โดยสามารถเข้าถึงแอป myAIS และ AIS PLAY ได้ทันที ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องพิมพ์ค้นหา ซึ่ง AIS เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ร่วมมือกับ Google ในฐานะ Official Partner เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็วทันใจ พร้อมเปิดให้บริการได้ปลายเดือน ก.ค. นี้
- พัฒนา Alex Robot นวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถโต้ตอบและสนทนากับลูกค้า พร้อมให้ข้อมูลสินค้าและบริการได้ โดย AIS จะนำหุ่นยนต์ Alex ทั้ง 6 ตัว มาสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้ลูกค้าได้สัมผัสเร็วๆ นี้
4) ดูแล เข้าถึงใจกลุ่มสูงวัยไฮเทค เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ติดต่อรับบริการผ่าน AIS Contact Center ซึ่งเป็นลูกค้าสูงวัยที่มีความสนใจเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่จำนวนมาก AIS จึงจัดตั้ง “Angel Team” ขึ้น เพื่อให้มีหน้าที่ดูแลลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งพนักงานในทีม เป็นผู้พร้อมด้วยประสบการณ์การบริการ ผ่านการอบรมหลักสูตร “ฟังด้วยความเข้าใจ และใช้ใจบริการ” มีคุณสมบัติ คือ มีความใจเย็น และสื่อสารด้วยภาษาเข้าใจง่าย เพื่อให้ลูกค้ามีความสบายใจตลอดเวลาที่รับบริการ
นอกจากนี้ ยังจัด Workshop ที่ AIS Shop ทั่วประเทศตลอดทั้งปีมากกว่า 600 Workshops เพื่อเสริมความรู้ให้ลูกค้าก้าวทันเทคโนโลยียุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้งานสมาร์ทโฟน การใช้โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันต่างๆ ตามความสนใจหรือไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ AIS ในการพัฒนาบริการมาโดยตลอด เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่ง AIS ยังไม่หยุดที่จะพัฒนางานบริการด้วยความเข้าใจและใส่ใจ ผสานการนำเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลมาเสริมศักยภาพในการให้บริการเพื่อลูกค้าคนพิเศษของเราตลอดไป” นางบุษยา กล่าวสรุป