เอไอเอส เดินหน้าตอกย้ำผู้นำเครือข่ายอันดับ 1 ตัวจริง โหมกลยุทธ์รุกตลาดภูมิภาคทั่วไทย เริ่มด้วยการยกทัพเทคโนโลยีดิจิทัลไปเสริมแกร่งภาคอีสาน พร้อมแคมเปญครองใจชาวอีสานด้วย “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแฮงสุดทั่วภาคอีสาน”
ย้ำศักยภาพเครือข่าย 4G, 4.5G และ NEXT G ที่เร็วสุด แรงสุด และครอบคลุมมากที่สุดทั่วภาคอีสาน จากบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนอีสาน ส่ง “ต่าย อรทัย” สาวดอกหญ้าราชินีลูกทุ่งขวัญใจมหาชนที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของไทย เป็นตัวแทนสื่อสารแคมเปญ มัดหัวใจพี่น้องชาวอีสานบ้านเฮา
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 29 ปี เรามุ่งมั่นพัฒนาบริการคุณภาพในทุกด้าน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชัน ภายใต้วิสัยทัศน์ของการเป็น Digital Life Service Provider ที่พร้อมนำศักยภาพของเครือข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับขีดความสามารถของประเทศและทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันและปลูกจิตสำนึกให้คนไทยรู้จักใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกวิธีผ่านโครงการ “อุ่นใจ Cyber” ที่มุ่งสร้างทักษะและการตระหนักรู้เกี่ยวกับ Digital ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะการใช้ดิจิทัลอย่างรู้เท่าทัน และป้องกัน (Protector) ความเสี่ยงจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต”
“โดยในส่วนของการพัฒนาเครือข่ายนั้น เราให้ความสำคัญกับการออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของพื้นที่ทุกตารางนิ้วในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรรมท้องถิ่น
ที่ผ่านมาจึงได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลกมาให้บริการ ทั้งเครือข่าย AIS NEXT G ที่เร็ว แรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เครือข่าย AIS 4.5G และ AIS 4G ADVANCED ที่รองรับเทคโนโลยีขั้นสูง MIMO 4×4 with CA, 256 QAM DL/64 QAM UL, LAA (Licensed Assisted Access) และ FDD Massive MIMO 32T 32R ที่สามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมากขึ้นและเร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึง 2 เท่า รวมทั้ง AIS SUPER WiFi ที่มีมากกว่า 120,000 จุดทั่วประเทศ”
นายปรัธนา กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ ยังเดินหน้าร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ ทดลองทดสอบเทคโนโลยีต่างๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มต้นด้วยการวิจัยเทคโนโลยี NB–IoT ในการทำ Smart Parking ที่จอดรถอัจฉริยะ และ Smart Trash ถังขยะอัจฉริยะ IoT
พร้อมล่าสุด ยังเตรียมทดลองทดสอบเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้ร่วมกัน รวมถึงร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พัฒนาแนวคิดเมืองอัจฉริยะ Smart City จาก NB–IoT อีกด้วย”
ส่วนในแง่ของบริการเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้านั้น นายอุดมศักดิ์ โสมคำ หัวหน้าส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เอไอเอส กล่าวว่า “ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือของคนเมืองมีแนวโน้มใช้งานมือถือมากกว่า 1 เครื่อง
ขณะที่ผู้ใช้งานในพื้นที่ต่างจังหวัดก็มีแนวโน้มใช้งานวอยซ์ลดลง และให้ความสำคัญกับการใช้งานดาต้ามากขึ้น ทิศทางการแข่งขันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จึงยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องจากการนำกลยุทธ์ด้านราคามาใช้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งเอไอเอสจะยังคงให้น้ำหนักกับการขยายโครงข่ายสัญญาณและการพัฒนาบริการดิจิทัลที่มีคุณภาพ”
โดยในภาคอีสาน ถือเป็นพื้นที่ซึ่งเอไอเอสครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถึง 55% มีจำนวนลูกค้ากว่า 10 ล้านเลขหมาย คิดเป็นสัดส่วน 24% ของฐานลูกค้าทั่วประเทศ แบ่งเป็นระบบเติมเงิน 8.8 ล้านเลขหมาย และระบบรายเดือน 1.2 ล้านเลขหมาย
ซึ่งที่ผ่านมา เอไอเอสได้ขยายโครงข่าย 4G และ 4.5G ครอบคลุมทั้ง 2,678 ตำบล 20 จังหวัดทั่วภาคอีสาน ด้วยจำนวนสถานีฐาน 9,965 แห่ง จึงสามารถรองรับการขยายตัวด้านการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การันตีด้วยรางวัลเครือข่ายมือถือที่เร็วที่สุดในไทย 4 ปีซ้อนจากOokla® Speedtest®
โดยในภาคอีสาน เอไอเอสถือเป็นเครือข่ายที่เร็วที่สุด ทั้งยังขยายเครือข่าย AIS Fibre ครอบคลุมแล้ว 16 จังหวัดภาคอีสาน หรือ 25,711 จุดบริการ เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 1.1 แสนราย เติบโตกว่า 12%เมื่อเทียบกับปี 2561
รวมไปถึงการเปิด AIS Contact Center Development & Training Arena ศูนย์กลางให้บริการลูกค้าและการพัฒนาบุคลากรด้านงานบริการที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะช่วยกระจายองค์ความรู้จากส่วนกลางและเกิดการจ้างงานในพื้นที่ภาคอีสานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ดังนั้น เราจึงศึกษาและพัฒนาบริการดิจิทัลที่เข้าใจพฤติกรรมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทุก Segment ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา คนทำงาน คออีสปอร์ต หรือกลุ่มคนเจเนอเรชันใหม่ที่ชื่นชอบการใช้เทคโนโลยี เพื่อออกแบบสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชาวอีสานมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่นสินค้ากลุ่ม Handset, แพ็กเกจมือถือ รวมถึงขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ชาวอีสานเข้าถึงได้อย่างสะดวกและรวดเร็วกว่า 7,000 จุด พร้อมจัดรถ Mobile Service Car ซึ่งเปรียบเสมือน AIS Shop เคลื่อนที่ ลงไปให้บริการในระดับหมู่บ้านทั่วภาคอีสาน ทั้งในงานประเพณีท้องถิ่นและงานกิจกรรมระดับตำบล นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เอไอเอสยังคงครองความเป็นที่ 1 ในภาคอีสานมาจนถึงปัจจุบัน
เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจของเอไอเอสในการมอบบริการคุณภาพที่คัดสรรมาเพื่อพี่น้องชาวอีสาน เอไอเอสจึงเปิดตัวแคมเปญล่าสุด “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแฮงสุดทั่วภาคอีสาน” โดยเลือก “ต่าย อรทัย” นักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งจากชาวไทย การันตีด้วยยอดผู้ติดตามผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจกว่า 5.4 ล้านแอคเคาท์ เป็นตัวแทนในการสื่อสารความมุ่งมั่นของเอไอเอสไปถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในภาคอีสาน
โดยประเดิมจัดกิจกรรมทัวร์คอนเสิร์ต “ม่วนกันหน่อย จอยกันแน” ซึ่งจัดขึ้นในจังหวัดเศรษฐกิจสำคัญของภาคอีสาน ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี ที่จะนำความพิเศษพร้อมความบันเทิงจัดเต็มไปสู่พี่น้องชาวอีสานจากวันนี้เป็นต้นไป”
ชาวอีสานเตรียมพบกับความพิเศษจากแคมเปญ “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแฮงสุดทั่วภาคอีสาน” ทั้งแพ็กเกจมือถือ สิทธิพิเศษ คอนเทนท์ความบันเทิง ที่คัดสรรมาเพื่อหมู่เฮาชาวอีสานโดยเฉพาะ
· สมาร์ทโฟนสุดคุ้มพร้อมแพ็กเกจถูกใจทั้งโทรและเล่นเน็ต ได้แก่ สมาร์ทโฟน AIS Super Smart Gen 1 ราคาเพียง 1,590บาท ให้เล่นเน็ตสูงสุด 120 GB มูลค่า 1,400 บาท เมื่อใช้ซิมใหม่ที่มาพร้อมเครื่อง, ฟีเจอร์โฟน AIS Super Talk I ราคาเพียง890 บาท โทร AIS ไม่อั้น ฟรี!
· แพ็กเกจ “โปรสะใจ” คักหลายเพื่อชาวอีสาน เพียงเปิดซิมใหม่ AIS 12Call! The ONE SIM พร้อมเติมเงิน 30 บาททันที และกด *777*199# แล้วโทรออก รับสิทธิ์โทรฟรีไม่อั้นทุกเครือข่าย ครั้งละ 30 นาที นาน 3 เดือน
· จัดเต็มกับสิทธิพิเศษแบบ 360 องศาจากร้านอาหาร เครื่องดื่ม และแหล่งช้อปปิ้ง ดังทั่วภาคอีสาน ที่ เอไอเอส คัดสรรมาเพื่อไลฟ์สไตล์ชาวอีสาน พร้อมกิจกรรมมื้อนี้ฟิน วันนี้ฟรี ทั่วภาคอีสาน ซึ่งมียอดลูกค้าใช้สิทธิ์กว่า 200,000 เลขหมายต่อปี
· มอบคอนเทนท์ความบันเทิงบน AIS PLAY ที่ตอบโจทย์ความชื่นชอบของชาวอีสานผ่านหนังและคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกทุ่งขวัญใจชาวอีสาน นำโดย ต่าย อรทัย
นายปรัธนา กล่าวในตอนท้ายว่า “วันนี้ภาคอีสานมีศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น และเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างชัดเจน อย่างในจังหวัดอุดรธานีก็มีการเติบโตที่ชัดเจนจากภาคการค้าและการบริการ รวมถึงมีการลงทุนจากภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เอไอเอสจึงพร้อมนำศักยภาพเครือข่ายและบริการเข้ามาเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาส อาชีพ และยกระดับเศรษฐกิจของภาคให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน”