เอไอเอส เดินหน้าสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อภาคอุตสาหกรรมไทยต่อเนื่อง ล่าสุดผนึก ปตท. ขยายเครือข่าย 5G ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์เพื่อเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี Unmanned สร้างอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve)
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ในฐานะ Digital Life Service Provider เรามีความมุ่งมั่นที่จะนำ Digital Infrastructure ทั้ง 5G , Fibre และ Digital Platform ร่วมยกระดับการบริหารจัดการของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรม ที่เป็นกำลังหลักในการสร้างประเทศให้แข็งแกร่ง ดังเช่นการร่วมมือกับ ปตท. ในฐานะ Strategic Partner ที่ร่วมทำงานกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่ ปตท. ไว้วางใจใช้บริการจากเอไอเอส และการร่วมทดลองทดสอบนำ IoT มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการท่อส่งก๊าซ ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง”
“ล่าสุดกับโครงการ 5G x UAV Sandbox ในครั้งนี้ นอกจากเอไอเอสจะขยายเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุม เพื่อรองรับ Use case ในภาคอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว เรายังนำเทคโนโลยีประเภท Unmanned Aerial Vehicle – UAV มาทดลองทดสอบด้วยเช่นกัน อาทิ อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนวิศวกรรม และกล้องตรวจการ 360 องศา ที่จะช่วยในการบริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัยในโรงงาน รวมไปถึงการทดลองทดสอบหุ่นยนต์ลาดตระเวณ 5G Self Control ที่ตอบโจทย์การทำงานในพื้นที่เสี่ยง อีกด้วย”
ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า “โครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์เพื่อเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ตั้งอยู่ที่ ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง บนพื้นที่ 3,454 ไร่ เป็นโครงการที่ ปตท. มุ่งหวังที่จะสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วน ช่วยขับเคลื่อนการวิจัย และพัฒนานวัตกรรม ให้เกิดขึ้นและประสบความสำเร็จในระดับที่สามารถนำไปสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ตามแนวคิด Powering Thailand’s Transformation เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง พร้อมพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ดังนั้น ปตท. จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT), สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และค่ายมือถือทั้ง 3 ราย โดยใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่สำคัญของเทคโนโลยี 5G ในการพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมต่าง ๆต่อไป”
โดย ปตท. เปิดพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ให้ผู้สนใจทุกภาคส่วนได้ทดสอบนวัตกรรมต่าง ๆ และใช้ระบบ Ecosystem ในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ
โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับสิทธิพิเศษจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว ได้แก่ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี, ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ, ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย, สมาร์ทวีซ่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญและครอบครัว, พื้นที่ผ่อนปรนกฎระเบียบในการทำนวัตกรรม (Regulatory Sandbox) และศูนย์บริการด้านการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล info@wangchanvalley.com
เกี่ยวกับหุ่นยนต์ตรวจการ AIS 5G Self Control
เหมาะสำหรับการใช้ลาดตระเวน ตรวจตรา บริเวณภายนอกโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ในพื้นที่อุตสาหกรรมที่อาจมีอันตราย หรือ เสี่ยงกับคนทำงาน เช่น มีฝุ่นควัน, สารพิษ หรือ ใช้ในยามวิกาล โดยมีคุณสมบัติ อาทิ
– ควบคุมการเคลื่อนไหว ได้ด้วยตัวเองผ่านเครือข่าย AIS 5G
– สามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งพื้นราบ และพื้นยกระดับที่ความสูง 30 องศา
– ติดตั้งฟังก์ชั่นพิเศษ ตอบสนองการตรวจการและเฝ้าระวัง อาทิ ตรวจวัดอุณหภูมิบุคคล, การตรวจจับใบหน้าบุคคล (Face Recognition) และแจ้งเตือนกรณีพบว่าเป็นบุคคลแปลกปลอม, ตรวจวัดค่า PM 2.5, สามารถพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในบริเวณโรงงาน