เอไอเอส ประกาศผลประกอบการรอบปี 2560 กำไรสุทธิ 30,077 ล้านบาท รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 6.7 กิกะไบต์ต่อเดือน และธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 521,200 ราย
สำหรับไตรมาส 4/2560 รายได้รวมอ่อนตัวลง 0.3% จากช่วงเดียวกันในปี 2559 และมีกำไรสุทธิ 7,701 ล้านบาท โดยจะจ่ายเงินปันผล รอบครึ่งปีหลัง3.57 บาทต่อหุ้น ในเดือนเมษายน 2561
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ปี 2560 ที่ผ่านมา เอไอเอสยังคงพัฒนาเครือข่ายและการบริการ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ตบ้าน และดิจิทัลคอนเทนต์
โดยภาพรวมผลประกอบการของทั้งปี รายได้รวมเติบโต 3.7% จากปีก่อน เป็นผลจากแนวโน้มการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นจาก 3.6 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2559 เป็น 6.7 กิกะไบต์ต่อเดือนในปี 2560 มีผลมาจากการรับชมวีดีโอผ่านมือถือที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และมีผู้ใช้งานมือถือ 4G คิดเป็นสัดส่วน46% ของฐานลูกค้าทั้งหมด 40.1 ล้านเลขหมาย
สำหรับธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ได้ขยายบริการครอบคลุมในหัวเมืองสำคัญต่างๆ รวม 50 จังหวัด และมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 521,200 ราย ส่วนดิจิทัลคอนเทนต์ เอไอเอสได้ออกแพ็คเก็จพรีเมียมคอนเทนต์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อาทิ กีฬา ภาพยนตร์ และครอบครัว โดยสามารถรับชมได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านแอป AIS PLAY บนมือถือ และ AIS PLAYBOX ทางทีวี
ทั้งนี้ เอไอเอสมีรายได้ก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) เพิ่มขึ้น 16% เป็น 70,498 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้และการควบคุมต้นทุน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิปรับตัวลง 1.9% อยู่ที่ 30,077 ล้านบาท จากการลงทุนโครงข่าย 4G ต่อเนื่อง และค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่
สำหรับในปี 2561 เอไอเอสยังคงเดินหน้ามุ่งสร้างความเป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน รวมถึงผนวกเอาธุรกิจของซีเอส ล็อกอินโฟร์เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งพร้อมรองรับการเติบโตในตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร
โดยภาพรวมปี 2561 เอไอเอสคาดการณ์การเติบโตของรายได้จากการให้บริการที่ 7-8 % (การเติบโต 2% จาก 7-8% มาจากรายได้ของบริษัทซีเอส ล็อกอินโฟร์) และตั้งเป้าอัตรากำไร EBITDA ที่ 45-47% พร้อมวางงบลงทุนมูลค่า 35,000–38,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาคุณภาพและเสริมประสิทธิภาพโครงข่ายเพื่อรองรับการใช้งาน 4G ที่เพิ่มขึ้น
รวมทั้งขยายบริการอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านงานบริการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยการพลิกโฉม เอไอเอส ช็อป ให้กลายเป็น AIS THE DIGITAL GALLERY ที่รวบรวมเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการและสัมผัสประสบการณ์แบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ
เอไอเอส ยังคงมุ่งมั่นสร้างความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและวางรากฐานระบบการสื่อสารของประเทศ ภายใต้แนวคิด Digital For Thais เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า และคนไทย สอดรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการนำดิจิทัลมาส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในยุคดิจิทัล” นายสมชัย กล่าวสรุป