● ครั้งแรกของโลก ที่ เอไอเอส ผู้นำนวัตกรรม IoT อันดับ 1 และเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่มีโครงข่าย eMTC และ NB–IoTครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ นำโซลูชัน NB–IoT Motor Tracker เข้ามาเสริมขีดความสามารถให้กับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ โดย บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทประกันภัยรายแรกที่ไว้วางใจและเลือกใช้บริการ
● เสริมศักยภาพ บริการประกันรถเปิดปิด ของประกันภัยไทยวิวัฒน์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมในธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถยนต์ยุคดิจิทัลที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย ช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองครบถ้วน และจ่ายค่าเบี้ยประกันตามการใช้งานจริง (Pay As You Drive) ทำให้ลดค่าใช้จ่ายค่าเบี้ยประกันไปได้ถึง 40% พร้อมให้บริการแล้ววันนี้
● ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลของเอไอเอสที่มีนวัตกรรม IoT ซึ่งพร้อมตอบทุกโจทย์ความต้องการของทุกอุตสาหกรรม รวมถึงพัฒนาให้ใช้งานได้จริงบนเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุดทั่วไทย และนับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการนำเทคโนโลยี NB–IoT มาสนับสนุนให้เกิด Usage Based Insurance (UBI) ในกลุ่มธุรกิจประกันภัย
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสในฐานะ Digital Life Service Provider เราให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการเกิดขึ้นของ Business Model ใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ พร้อมยกระดับความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในทุกด้าน โดยปัจจุบันนวัตกรรม IoT ถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา Smart City ให้เกิดขึ้นจริง และเอไอเอสก็ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย นำ IoT โซลูชัน ไปเสริมศักยภาพการดำเนินงานขององค์กรมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) มอบความไว้วางใจเลือกใช้โซลูชันNB–IoT Motor Tracker for UBI ในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ของไทยวิวัฒน์ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะสามารถส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่าย NB–IoT เมื่อมีการสตาร์ทและดับเครื่องของรถที่ทำประกันรถเปิดปิด ประกันนั้นก็จะเปิดและปิดให้โดยอัตโนมัติ ทำให้บริษัทประกันภัยได้รับข้อมูลที่มีความแม่นยำ ถูกต้อง และให้การดูแลลูกค้าขององค์กรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยี NB–IoT มาเสริมศักยภาพการบริการให้กับธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย และลูกค้าให้ความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน”
นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ กล่าวว่า “ประกันภัยไทยวิวัฒน์ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านการประกันภัย เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันภัยเพื่อผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ ในโอกาสนี้ เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากเอไอเอส ในการนำ NB–IoT Motor Tracker for UBI มายกระดับผลิตภัณฑ์ประกันรถเปิดปิดของเรา เพิ่มขีดความสามารถการใช้งานเปิดปิดจากผู้ใช้งานแบบเดิม ทำให้ประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และสามารถให้บริการลูกค้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบายไร้ความกังวล ใช้ชีวิตได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการอย่างมีอิสระ เพราะประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้ให้ความคุ้มครองและการบริการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ด้านการประกันภัยรถยนต์ที่ดี ทั้งยังเป็นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยยุคดิจิทัลอีกด้วย”
สำหรับโซลูชัน NB–IoT Motor Tracker for UBI จะทำงานโดยใช้เทคโนโลยีติดตามการทำงานของยานพาหนะบนเครือข่าย NB–IoT เมื่อมีการสตาร์ทรถยนต์ อุปกรณ์ IoT จะส่งค่า Engine Start ผ่านแพลตฟอร์ม AIS IoT และมาประมวลผลยัง Thaivivat Server พร้อมแจ้งเตือนไปยังแอปพลิเคชัน Thaivivat Motor เพื่อเริ่มต้นเปิดประกันภัยโดยอัตโนมัติ และเมื่อดับเครื่องยนต์ อุปกรณ์ IoT ก็จะส่งค่าEngine Stop กลับมาอีกครั้ง เพื่อปิดประกันให้อัตโนมัติเช่นกัน ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของประกันภัยไทยวิวัฒน์ไม่ต้องเสียเวลาเปิด-ปิดด้วยตัวเองอีกต่อไป หรือในกรณีรถอยู่ในพื้นที่ห่างไกล อุปกรณ์จะเก็บข้อมูลไว้ และเมื่อเชื่อมต่อสัญญาณ NB–IoT อีกครั้ง ก็จะส่งข้อมูลให้กับระบบทันที จึงได้ความแม่นยำและความถูกต้องของข้อมูลสูง ช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองและจ่ายค่าเบี้ยประกันตามการใช้งานจริง ขับค่อยจ่าย ไม่ขับไม่ต้องจ่าย ประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไปได้ถึง 40%
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อประกันรถเปิดปิดดังกล่าวจะได้รับอุปกรณ์ NB–IoT Motor Tracker for UBI พร้อมอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งานตลอดระยะเวลาเอาประกัน ได้ทันที! ติดตั้งง่ายเพียงเสียบอุปกรณ์เข้ากับ USB Port ในรถยนต์ก็พร้อมใช้งานทันที ถือเป็นการนำนวัตกรรมดิจิทัลที่ยกระดับผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เอไอเอสพร้อมมอบบริการดิจิทัลที่พัฒนาเพื่อกลุ่มลูกค้าองค์กรในทุกอุตสาหกรรม ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์ Device,แพลตฟอร์ม IoT การออกแบบซอร์ฟแวร์และแอปพลิเคชัน, ระบบ Cloud Computing ระดับเวิล์ดคลาส สำหรับการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูล, eSIM ที่พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์ IoT บนเครือข่าย AIS NB–IoT ที่ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ และพร้อมให้คำปรึกษากับทุกองค์กรที่สนใจนำ IoT ไปใช้ในการทำงาน รวมไปถึงการขยายผลการเข้าถึงเทคโนโลยี IoT ไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วไป โดยทดลองวางจำหน่าย NB–IoT Motor Tracker ซึ่งเป็นโซลูชันติดตามยานพาหนะด้วยเครือข่าย NB–IoT ผ่าน AIS Shop และ AIS Online Store เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ตามความต้องการ
สนใจ NB–IoT Motor Tracker สำหรับลูกค้าองค์กรสามารถติดต่อได้ที่ Corporate Call Center โทร. 1149 หรือเว็บไซต์http://business.ais.co.th/iot สำหรับลูกค้าทั่วไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/nbiotmotortracker