Vivo V19 เป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมความครบเครื่องครบครัน ตามสไตล์ของซีรีส์ V ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมาแล้วตั้งแต่เปิดตัว V15 / 15 Pro เป็นต้นมา ด้วยจุดเด่นทางด้านดีไซน์ พร้อมประสานสอดรับกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รวมถึงคุณภาพกล้องหน้าหลังที่โดดเด่นไม่เป็นสองรองใคร
ส่งผลให้ Vivo V19 ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้น ๆ สำหรับคนที่มองหาสมาร์ตโฟน Mid-Range ราคาสมเหตุสมผล ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานด้านความบันเทิง การเล่นเกม และการถ่ายภาพได้สวยงามคมชัดในทุกสถานการณ์
และวันนี้ MobileOcta จะพาเพื่อน ๆ มาสัมผัสกับสุดยอด 9 ฟีเจอร์ไฮไลท์เด่นที่ต้องบอกเลยว่า เพื่อน ๆ จะตกหลุมรักจนอยากจับจองเป็นเจ้าของ Vivo V19 กันอย่างแน่นอนครับ
1. ขับเคลื่อนด้วย Hardware อันทรงพลัง ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 712, GPU Adreno 616, RAM 8GB (LPDDR4X) ROM 128GB (UFS 2.1)
Vivo V19 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 712 บนสถาปัตยกรรม 10 นาโนเมตร ประมวลผล Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.3 GHz ผสานด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 616 ในภาพรวมชิปเซ็ต Snapdragon 712 บน Vivo V19 มีจุดเด่นในด้านการประหยัดพลัง แต่ยังคงประสิทธิภาพในด้านความเร็วแรง และความชาญฉลาดจาก AI เหมือนเช่นเคย
โดยเฉพาะเมื่อจับคู่การทำงานร่วมกับ RAM 8GB แบบ LPDDR4X และหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ROM 128GB ชนิด UFS 2.1 ส่งผลให้การอ่านเขียนหรือรับส่งข้อมูล รวมถึงการประมวลผลต่าง ๆ สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ พร้อมตอบโจทย์การใช้งานหนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรนเดอร์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K การเล่มเกมที่มีกราฟิกพร้อมตั้งค่าความละเอียดสูง ๆ ได้แบบสบาย ๆ เรียกว่าเร็ว แรง ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ Snapdragon 675 AIE บน V17 อีกด้วย
2. ระบบระบายความร้อน Copper Tube Liquid Cooling
แม้จะใช้งานอย่างหนักหน่วงแค่ไหน ตัวเครื่องก็จะไม่เกิดความร้อนสะสม เพราะ Vivo V19 มาพร้อมเทคโนโลยี Copper Tube Liquid Cooling หรือระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ที่ใช้ประโยชน์จากการถ่ายเทความร้อนระหว่างของเหลว และไอน้ำเพื่อให้เกิดการกระจายความร้อนอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทำให้อุณหภูมิ CPU ลดลง 3~7 ℃ เพิ่มอายุการใช้งานของ CPU ให้ยาวนานมากขึ้น ส่งผลให้ความเร็วในการใช้งานมีเสถียรภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย
ทดสอบระบบระบายความร้อน Copper Tube Liquid Cooling บน Vivo V19 ด้วยการเล่นเกมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 30 นาที เมื่อวัดอุณหภูมิจะอยู่ที่ 36.2 องศาเซลเซียส
ทดสอบกับสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งในเงื่อนไขเดียวกัน พบว่ามีอุณหภูมิสูงถึง 41.7 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
3. Ultra O Screen Display
Vivo V19 อัพเกรดจอแสดงผลด้วยวัสดุ E3 OLED รุ่นใหม่คุณภาพสูงบนพาเนล Super AMOLED โดยมีหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว ที่ใหญ่เต็มตา สามารถแสดงขอบเขตสีตามมาตรฐาน DCI-P3 ได้สูงถึง 100% จึงให้สีสันที่สวยงามสมจริง และยังมาพร้อมกับอัตราส่วนขนาดใหม่ 20:9 ที่พร้อมตอบโจทย์ด้านการรับชมคอนเทนต์และการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Vivo V19 ยังเป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV ประเทศเยอรมัน ในด้านความปลอดภัยจากจากแสงสีฟ้า ซึ่งเมื่อเทียบกับจอ E2 ทั่วไปสามารถกรองแสงสีฟ้าได้ถึง 42%
รวมถึงยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันการกระพริบ ที่ทำให้เกิดภาพสั่นไหวขณะหน้าจอมีความสว่างต่ำ (Low Brightness Anti-Flicker) ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานมีความสมูทราบลื่น พร้อมช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้งานในทุกสภาพแสงอีกด้วย
4. In-Display Fingerprint Scanning
Vivo เป็นค่ายแรกที่นำเสนอนวัตกรรม In-Display Fingerprint Scanning หรือการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายในจอแสดงผล ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการอัพเกรดและพัฒนาตัวเซ็นเซอร์ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยเจนเนอเรชั่นล่าสุดมีการอัพเกรดตัวเซ็นเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ จึงส่งผลให้การทำงานมีความรวดเร็วแม่นยำที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่ายอื่น ๆ ต้องบอกเลยว่าการปลดล็อคนั้นมีความเร็วที่เหนือกว่าแบบสัมผัสได้จริง
สำหรับฟีเจอร์ In-Display Fingerprint Scanning บน Vivo V19 รองรับการบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้ว และนอกจากนี้ยังมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 6 รูปแบบ รวมถึงสามารถเปลี่ยนไอคอนที่แสดงบนหน้าจอได้อีก 4 รูป ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขณะใช้งานดูมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. Multi-Turbo 3.0
Multi-Turbo 3.0 บน Vivo V19 จะพาผู้ใช้งานไปสัมผัสประสบการณ์ความรวดเร็วด้วย ART++ Turbo เพื่อเพิ่มความเร็วในการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่น โดยฟีเจอร์ Game Turbo จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสัมผัสให้เร็วขึ้น และการตอบสนองได้ไวขึ้น พร้อมด้วย Center Turbo ที่ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกได้ถึง 78.05%
Ultra-Game Mode
Ultra-Game Mode ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด สามารถเล่น E-sports ได้อย่างมืออาชีพโดยใช้ Competition Mode เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น และ นอกจากนี้ยังมี AI Turbo ที่มีความฉลาดในการสั่งงาน ซึ่งช่วยให้สามารถเรียกใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยให้เร็วยิ่งขึ้น รวมถึงฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่าง บันทึกหน้าจอ Screen Recording และจับภาพหน้าจออย่างรวดเร็ว Fast Screen Capture ก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ยังอัพเกรดฟีเจอร์เด่น ๆ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Killer Countdown ที่สามารถเตือนถึงเวลาที่เหลือก่อนที่เกมจะเริ่ม เพื่อช่วยให้เราเตรียมตัวหรือสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นในขณะรอเกมจะรันขึ้นนั่นเอง
และโหมดล่าสุด Game Vibration ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์สั่นสะเทือน ส่งผลให้การเล่นเกมต่อสู้ได้ดุเดือด มีความสมจริง เช่นการสั่นตอบสนองในเวลาที่ยิงปืน หรือการชน การกระแทกเป็นต้น
Voice Changer ฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงในเกม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกเอฟเฟกต์เสียงตัวละครที่หลากหลายระหว่างเล่นเกมกับเพื่อนร่วมทีม โดยเปลี่ยนเป็นเสียงย่านต่ำ หรือเสียงที่ให้ความตลกขบขัน ทำให้การสนทนาระหว่างการเล่นเกมนั้นสนุกสนาน และมีสีสันมากยิ่งขึ้น
6. กล้องหน้าหลังจัดเต็มด้วย Hardware และ Software ระดับ Professional
กล้องหน้าคู่ Dual Front Camera พร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล และเลนส์มุมกว้างพิเศษ super wide-angle camera ความละเอียดสูง 8 ล้านพิกเซล เหนือชั้นด้วยกล้องหน้าที่รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างได้สูงถึง 105 องศา พร้อมระบบอัลกอริทึม AI ในตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนการบิดเบือนของภาพถ่ายมุมกว้างที่เกิดขึ้นระหว่างฉากหน้าและฉากหลัง เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามสมจริงอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์แบบอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็น Ultra Stable Selfie Video ระบบป้องกันภาพวิดิโอสั่นไหวเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการถ่ายวิดิโอเซลฟี่สู่ระดับมืออาชีพ Super Night Selfie, และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามสมจริงในทุกสภาพแสงและทุกสถานการณ์
กล้องหลังจัดเต็มสุดคมชัดด้วย AI Quad Camera 48 ล้านพิกเซล มาพร้อมชิ้นเลน์ ASPH คุณภาพสูง
กล้องหลัง 4 เลนส์อันทรงพลังของ V19 มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล กล้องมุมกว้างพิเศษละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล กล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายภาพสวยนอกระยะโฟกัส bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
และนอกจาก Ultra Stable Selfie Video มีระบบป้องกันภาพวิดิโอสั่นไหวอย่างมืออาชีพแล้ว V19 ยังอัดแน่นด้วยฟังก์ชันที่จะทำให้ภาพถ่ายนิ่งและภาพวิดิโอออกมาสวยไร้ที่ติด้วยระบบอัจฉริยะ AI อย่าง AI Video Filter, AI Video Editor และ AI Image Matting ง่ายต่อการการตกแต่งและตัดต่อให้สวยสมบูรณ์แบบในระดับมืออาชีพ
7. วีดีโอใบหน้าสวยและ AI ตัดเสียงรบกวนสำหรับวีดีโอคอล
ไม่จำกัดเฉพาะการถ่ายเซลฟี่เพียงอย่างเดียว แต่ V19 ยังงานสามารถใช้งานโหมดบิวตี้ หรือใบหน้าสวยผ่านการโทรแบบวีดีโอคอลได้อีกด้วย แถมยังมีความโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ ตัดเสียงรบกวนสำหรับวีดีโอคอลที่ขับเคลื่อนโดย AI หรือปัญญาประดิษฐ์อันชาญฉลาด ส่งผลให้การสนทนาแบบเห็นหน้ามีความคมชัดไปพร้อม ๆ กับความสวยงามของใบหน้าในขณะใช้งานอีกด้วย
8. Funtouch OS 10 & Android 10
Vivo V19 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ในภาพรวมให้ความสมูทลื่นไหลที่ดีมาก ๆ อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ มากมาย เช่น Jovi Smart Scene และ Screen Time ที่จะช่วยติดตามเวลาการใช้งานของแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในหนึ่งวันอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็นข้อมูล และจัดการเวลาที่ใช้ในแต่ละแอปพลิเคชั่น
ส่วนทางด้านความบันเทิง Music Player บน Vivo V19 มาพร้อมจุดเด่นด้าน Software ด้วยฟีเจอร์ DeepField เอฟเฟ็กต์เสียงที่พัฒนาโดย Vivo ทำให้การถ่ายทอดเสียงที่ได้มีความนุ่มลึก คมชัดใสเคลียร์ รองรับการจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศา อีกทั้งยังปรับแต่งเสียงผ่าน EQ ได้ยืดหยุ่นและตรงใจผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลง Vivo V19 นั้นไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
9. เทคโนโลยีชาร์จไว 33W vivo FlashCharge 2.0
นอกจากความสามารถในการเซลฟี่ระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและการออกแบบที่เพรียวบางลงตัวแล้ว V19 ยังมีแบตเตอรี่ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมด้วยความจุสูงสุด 4500mAh นำมาซึ่งความทนทานและยาวนานที่สูงขึ้น
ในขณะที่เทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ 33W vivo FlashCharge 2.0 ช่วยให้ชาร์จได้ 0 ถึง 54 เปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียง 30 นาที เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับชีวิตประจำวันที่เร่งรีบให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นต่อเนื่องยาวนานตลอดวัน พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 9 ชั้น ซึ่งถือว่าชาร์จได้ไวและมีความปลอดภัยที่น่าประทับใจมาก ๆ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้นี่>>> รีวิว Vivo V19 กล้องเซลฟี่คู่ 32MP หน้าจอ Ultra O Screen สุดคมชัด ผสานดีไซน์พรีเมี่ยม จัดเต็มด้วยกล้องหลัง AI 4 เลนส์ พร้อมแบตสุดอึดและชาร์จไว 33W !!!
Vivo V19 วางจำหน่ายแล้วในราคา 12,999 บาท โดยมีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Gleam Black ( สีดำ) , Sleek Silver (สีเงิน)
สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ตัวแทนจัดจำหน่าย สมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วประเทศ และสามารถซื้อออนไลน์ได้ที่
Lazada https://bit.ly/2zB4l8g
Shopee https://bit.ly/2Skgh4Y