คลังเก็บ

6 เหตุผลที่ทุกคนควรเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนจอพับได้

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 และ Galaxy Z Fold4 เป็นสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นล่าสุดจากซัมซุง ที่มอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ทั้งใหม่ไม่ซ้ำใครและสะดวกกว่าเดิม ทั้งกับการทำงาน ความบันเทิง และเรื่องอื่นๆ ของคุณ นอกเหนือจากงานด้านวิศวกรรมที่ล้ำหน้าแล้ว

สมาร์ทโฟนจอพับได้ทั้ง 2 รุ่น ยังผสานคุณสมบัติเฉพาะเข้ากับแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างไมโครซอฟท์ออฟฟิศและอินสตาแกรมเพื่อให้การใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น มาดูกันว่าทำไมถึงควรใช้สมาร์ทโฟนจอพับได้ของซัมซุง 

1.      การใช้งานหลายแอปแบบไร้ข้อจำกัดและง่ายกว่า

หน้าจอพับออกแบบให้สามารถทำงานแบบแยกส่วนกันได้ จึงช่วยให้ใช้งานหลายแอปได้อย่างทันใจ ทุกที่ โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน Flex Mode [1]  ซึ่ง Flex Modeจะช่วยให้แอปต่างๆ ปรับขนาดให้พอดีกับหน้าจอเมื่อกางหน้าจอออก จึงสามารถใช้งานหน้าจอครึ่งหนึ่งเพื่อชมวิดีโอ และอีกครึ่งหนึ่งเพื่อเลื่อนหาสิ่งต่างๆ ในแอปอื่นได้อีกด้วย สมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold4 ยังมี New Taskbar [2] และรองรับการสั่งการโดยใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอ[3] ช่วยให้หน้าจอมีรูปแบบเหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์    โดยสามารถเลือกใช้แอปที่ชื่นชอบหรือแอปที่เปิดไปเมื่อเร็วๆ นี้ได้ง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถเลื่อนนิ้วเพื่อปรับขนาดแอปให้พอดีกับหน้าจอด้านหนึ่งได้ เพื่อสลับการทำงานระหว่างแบบป๊อปอัพและแบบแยกหน้าจอ ซึ่งจะทำให้การใช้งานง่ายขึ้น

2.    เปิดประสบการณ์การใช้งานแอปพลิเคชันโปรดของคุณได้ดียิ่งขึ้น

การใช้งานสมาร์ทโฟนจอพับได้จะดีมาก หากระบบปฏิบัติการและแอปต่างๆ ได้รับการปรับแต่งให้สอดคล้องกับรูปลักษณ์อันโดดเด่นของสมาร์ทโฟน  โดยสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล Galaxy Z เป็นสมาร์ทโฟน 2 รุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12L ที่พัฒนาสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่รวมถึงสมาร์ทโฟนจอพับได้  โดยซัมซุงทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้พัฒนาแอปเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

ปัจจุบัน แอปต่างๆ ของ Google รวมทั้ง Chrome และ Gmail รองรับการลากและวาง เพื่อให้การคัดลอก วางลิงก์ ภาพถ่าย และอื่นๆ ระหว่างแอป สามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรือใน Google Meet ก็สามารถแบ่งปันเรื่องราวสนุกๆ  กับเพื่อนๆ ได้ง่ายขึ้นผ่านฟังก์ชันที่เอื้อต่อการใช้งานร่วมผู้ใช้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการดูคลิปวิดีโอใน YouTube พร้อมกัน หรือการเล่นเกมด้วยกันผ่านวิดีโอคอล[4] โปรแกรมในกลุ่ม Microsoft’s Office เช่น Outlook ก็สามารถใช้สมารท์โฟนจอพับได้ให้เป็นประโยชน์ ทั้งการแสดงข้อมูลได้มากขึ้น และรองรับการทำงานร่วมกับเนื้อหาด้วยวิธีที่รวดเร็วขึ้น

3.    ปรับปรุงการนำทางให้ดีขึ้นด้วยปากกา S Pen ที่อัพเกรดใหม่

เมื่อกาง Galaxy Z Fold4 ออก จะเห็นหน้าจอหลักแบบ AMOLED ขนาด 7.6 นิ้ว[5] นอกจากนี้ยังมีปากกา S Pen[6] ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมอันสมบูรณ์แบบเพื่อเสริมความแม่นยำและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งการวาดรูป จดบันทึก หรือเลื่อนหน้าจอ ปากกา S Pen รุ่นปัจจุบันมีความอัจฉริยะมากขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติ Smart Select function ที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อแนะนำสิ่งที่ผู้ใช้จะทำต่อไป โดยผู้ใช้สามารถเก็บปากกา S Pen กับสมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold4 ได้โดยใช้เคส Standing Cover [7] ที่จะช่วยให้สมาร์ทโฟนดูเพรียวบางและน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และสำหรับเคส Standing Cover นี้ยังมาพร้อมกับสีสันที่แมทช์กับตัวเครื่องเพื่อให้เข้ากับลุคของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว

4.    เบา บาง พกพาได้ง่ายกว่าที่เคย

ข้อดีของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับที่ผู้ใช้สัมผัสได้อย่างชัดเจนคือหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ในรูปลักษณ์ตัวเครื่องที่เล็กและสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy Z ก็ยังพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของรูปลักษณ์สมาร์ทโฟนโดยไม่ส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ แม้ว่าสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 [8] และ Galaxy Z Fold4 [9] จะมีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าในตระกูลเดียวกัน 

แต่สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นยังคงรักษาขนาดหน้าจอหลักแบบ AMOLED ที่มีขนาด 6.7 และ 7.6 นิ้วตามลำดับไว้ได้ ในส่วนของบานพับและขอบเครื่องที่บางลงส่งผลให้สมาร์ทโฟน Z Fold4 มีน้ำหนักลดลง[10] และถือใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้สบายมากยิ่งขึ้น การปรับปรุงขนาดของ Galaxy Z Fold4 ยังส่งผลให้ซัมซุงใช้อัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่ทั้งสำหรับหน้าจอ Cover Screen [11] และหน้าจอ Main Screen [12]  ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและประสบการณ์การรับชมสิ่งต่างๆ อย่าง     เต็มตามากยิ่งขึ้น

5. สร้างสรรค์มุมใหม่ได้หลากหลาย ด้วย Flex Camera 

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุด หากชื่นชอบสมาร์ทโฟนที่ขนาดกะทัดรัด แต่สามารถช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ในทุกสถานการณ์ ด้วยกล้องที่อัพเกรดใหม่ โดยใช้เซนเซอร์ที่รับแสงได้ดีขึ้นร้อยละ 65[13] อีกทั้งยังใช้หน่วยประมวลผลกลาง Snapdragon® 8+ Gen 1 กล้องแบบ Flex Camera[14] ที่สามารถปรับได้ทุกองศาได้ตามใจ ซึ่งรวมถึงกล้องหน้าและกล้องหลังแบบคู่ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้จากมุมมองที่หลากหลายมากกว่าเดิม

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Quick Shot ที่พัฒนาขึ้น โดยรองรับการพรีวิวภาพบนหน้าจอ Cover Screen เพื่อให้สามารถเลือกมุมภาพได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยกล้องแบบ Flex Camera นั้นทำงานร่วมกับทั้ง Instagram WhatsApp และ Facebook จึงสามารถแบ่งปันภาพถ่ายสุดสร้างสรรค์ได้อย่างสะดวกสุดๆ

นอกจากนี้หน้าจอ Cover Screen ที่มีขนาด 1.9 นิ้ว ยังมาพร้อมปุ่มลัดมากมายให้เลือกใช้งาน ทั้งไฟฉาย โหมดเครื่องบิน เล่นเพลง โทรออก การตอบข้อความด้วยอิโมจิ หรือคุณสมบัติการเปลี่ยนเสียงพูดเป็นข้อความได้โดยไม่ต้องกางโทรศัพท์ออกอีกด้วย

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 วางจำหน่ายในหลากหลายสี ทั้งม่วง Bora Purple Graphite รวมถึงสี Pink Gold และสี Blue ที่เพิ่มมาใหม่ และยังสามารถเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มีสีสันเฉพาะตัวได้ด้วยบริการ Galaxy Bespoke Edition [15] ที่มีเฉพาะสมาร์ทโฟนตระกูล Z Flip เท่านั้น บริการนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกผสมสีกระจกและเฟรมได้มากถึง 75 แบบ ให้เลือกสีสันของสมาร์ทโฟนได้ดั่งใจ[16]

6. ออกแบบให้ทนทานยิ่งขึ้น

หากกังวลว่าสมาร์ทโฟนจอพับได้จะไม่ทนทานต่อสภาวะต่างๆ ที่อาจเกิดได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องกังวลไป เพราะสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 และ the Galaxy Z Fold4 ใช้เฟรมและบานพับที่ผลิตโดย Armor Aluminum อีกทั้ง
ยังใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass Victus+® บริเวณหน้าจอ Cover Screen และกระจกด้านหลัง  หน้าจอต่างๆ ของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นได้รับการออกแบบและพัฒนาให้ทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งยังทนต่อแรงสั่นสะเทือนจากภายนอก และสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นยังรองรับมาตรฐานการป้องกันน้ำ IPX8[17] จึงใช้งานได้ในทุกสภาวะอากาศ

นอกจากนี้สมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 มีแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นที่ 3,700 mAh[18] ส่วน Galaxy Z Fold4 มีความจุ 4,400 mAh [19] จึงใช้งานได้ตลอดทั้งวัน หากคุณต้องการชาร์จ สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นยังรองรับการชาร์จแบบเร็ว       โดยชาร์จได้ 50% ในเวลา 30 นาที[20] ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด

จะ Flip หรือ Fold เลือกได้เลยวันนี้!

ถึงจุดนี้ ทุกคนคงทราบแล้วว่ารูปลักษณ์ของสมาร์ทโฟนจอพับได้และนวัตกรรมอันล้ำหน้าของสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 และ Galaxy Z Fold4 สามารถเติมเต็มวิถีชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งในปัจจุบันได้อย่างไร สมาร์ทโฟนหน้าจอพับเหล่านี้สร้างขึ้นอย่างชาญฉลาดเพื่อตอบสนองและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพสูง ทนทาน ใช้งานง่าย และมีรูปแบบการปรับแต่งมากมาย ไม่ว่าคุณจะใช้สมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิง ใช้เพื่อสร้างเนื้อหาอย่างจริงจัง หรือทั้งทำงานและเล่น ขอให้มั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Z นั้นสรรสร้างมาเพื่อคุณ


[1] เฟลกซ์โหมดทำงานเมื่อหน้าจอกางตั้งแต่ 75° ถึง 115°

[2] New Taskbarแบบใหม่ทำงานในหน้าจอหลักเท่านั้น

[3] ต้องเปิดการทำงานในแท็บ Labs ที่อยู่ในการตั้งค่าก่อน

[4] คุณสมบัติและแอปที่รองรับอาจแตกต่างกันตามท้องตลาดและอุปกรณ์ ผู้ใช้อาจต้องอัพเดท YouTube และ Google Meet เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อน คุณสมบัติที่เอื้อต่อการใช้งานพร้อมกันกับผู้ใช้อื่นเหล่านี้อาจต้องสมัครใช้บริการเสริมบางบริการด้วย

[5] วัดแนวทแยง, หน้าจอหลักของสมาร์ทโฟน Z Fold4 มีขนาด 7.6” เมื่อกางออกจนสุดและ 7.4” เมื่อหักขอบมนออก อย่างไรก็ดี ขนาดของหน้าจอที่ผู้ใช้เห็นและใช้งานได้อาจต่ำกว่าตัวเลขข้างต้นเนื่องจากขอบหน้าจอแบบโค้งมน

[6] ปากา S Pen จัดจำหน่ายแยก ปากกา S Pen ทำงานกับหน้าจอหลักของสม์ทโฟน Galaxy Z Fold4 เท่านั้นและต้องใช้ปากกา S Pen Fold Edition และ S Pen Pro เท่านั้น ปากกา S Pen รุ่นอื่นและ Stylus Pens ที่ไม่ได้ออกแบบให้ใช้งานได้กับสมาร์ท Z Fold4 (รวมถึง Stylus ที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายอื่น) อาจทำให้หน้าจอเสียหายได้

[7] ปากกา S Pen Fold Edition จำหน่ายพร้อมกับเคส Standing Cover ที่มีช่องเสียบปากกา ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อแยกจากสมาร์ทโฟน

[8] สมาร์ทโฟน Z Flip3 มีขนาดเมื่อพับปิดที่ 72.2 x 86.4 x 17.1 มม. (วัดที่บานพับ) – 15.9 มม. (วัดที่จุดที่ขอบหน้าจอบรรจบกันเมื่อพับ) / มีขนาดเมื่อกางเปิดสุดที่ 72.2 x 166.0 x 6.9 มม.  
สมาร์ทโฟน Z Flip4 มีขนาดเมื่อพับปิดที่ 71.9 x 84.9 x 17.1 มม. (วัดที่บานพับ) – 15.9 มม. (วัดที่จุดที่ขอบหน้าจอบรรจบกันเมื่อพับ) / มีขนาดเมื่อกางเปิดสุดที่ 71.9 x 165.2 x 6.9 มม.  ทั้งนี้ ความหนาของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นเมื่อกางออกสุดไม่รวมเฟรมหน้าจอหลัก

[9] สมาร์ทโฟน Z Fold3 มีขนาดเมื่อพับปิดที่ 67.1 x 158.2  x 16.0 มม. (วัดที่บานพับ) – 14.4 มม. (วัดที่จุดที่ขอบหน้าจอบรรจบกันเมื่อพับ) / มีขนาดเมื่อกางเปิดสุดที่ 128.1 x 158.2 x 6.4 มม.  
สมาร์ทโฟน Z Fold4 มีขนาดเมื่อพับปิดที่ 67.1 x 155.1 x 15.มม. (วัดที่บานพับ) ~ 14.2 มม. (วัดที่จุดที่ขอบหน้าจอบรรจบกันเมื่อพับ) / มีขนาดเมื่อกางเปิดสุดที่ 130.1 x 155.1 x 6.3 มม. 

[10] สมาร์ทโฟน Z Fold3 หนัก 271 กรัม ส่วน Z Fold4 หนัก 263 กรัม

[11] ขนาดหน้าจอ Cover Screen ของสมาร์ทโฟน Z Fold3 อยู่ที่ 2268×832 (24.5:9) ส่วน Z Fold4 อยู่ที่ 2316 x 904 (23.1:9)

[12] ขนาดหน้าจอหลักของสมาร์ทโฟน Z Fold3 อยู่ที่ 2208×1768 (22.5:18) ส่วน Z Fold4 อยู่ที่ 2176 x 1812 (21.6:18)

[13] เมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟน Z Flip3 5G

[14] คำว่า FlexCam หมายถึงประสบการณ์การใช้กล้องใน Flex mode ที่ทำงานเมื่อหน้าจอกางตั้งแต่ 75° ถึง 115°

[15] บริการนี้อาจไม่มีในทุกประเทศ

[16] มีสีเฟรมให้ผู้ใช้เลือก 3 สี คือดำ เงิน และทอง และมีสีด้านหน้าและหลังสมาร์ทโฟน 5 สีให้ผู้ใช้เลือก คือเหลือง ขาว กรมท่า กากี และแดง

[17] มาตรฐาน IPX8 วัดจากการทดสอบโดยการจุ่มสมาร์ทโฟนลงในน้ำจืดลึก 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที อย่างไรก็ดี ซัมซุงไม่แนะนำให้ท่านใช้สมาร์ทโฟนใต้น้ำทะเลหรือใต้น้ำในสระว่ายน้ำ และไม่ทนทานต่อฝุ่น

[18]เมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip3 5G ค่าความจุแบตเตอรี่ทดสอบในสภาวะที่กำหนดโดยห้องวิจัยภายนอก และเป็นการคาดการณ์ค่าเฉลี่ยจากค่าความเบี่ยงเบนของความจุแบตเตอรี่จากตัวอย่างตามมาตรฐาน  IEC 61960 ค่าความจุขั้นต่ำอยู่ที่ 3,595 mAh ทั้งนี้ ค่าความจุจริงอาจแตกต่างกันตามสภาพเครือข่าย ลักษณะการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมาก

[19]ค่าความจุแบตเตอรี่ทดสอบในสภาวะที่กำหนดโดยห้องวิจัยภายนอก และเป็นการคาดการณ์ค่าเฉลี่ยจากค่าความเบี่ยงเบนของความจุแบตเตอรี่จากตัวอย่างตามมาตรฐาน  IEC 61960 ค่าความจุขั้นต่ำอยู่ที่ 4,275 mAh ทั้งนี้ ค่าความจุจริงอาจแตกต่างกันตามสภาพเครือข่าย ลักษณะการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมาก  

[20] Super Fast Charging ทำงานเมื่อใช้หัว Adapter ที่มีกำลังไฟ 25 วัตต์หรือสูงกว่า ค่าข้างต้นมาจากการทดสอบโดยห้องวิจัยภายในของซัมซุง โดยใช้ Travel Adapter ที่มีกำลังไฟ 25 วัตต์เพื่อชาร์จให้กับสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่ไม่มีพลังงานเลย โดย บริการต่างๆ คุณสมบัติต่างๆ และหน้าจอปิดอยู่ ความเร็วในการชาร์จอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน สภาพขณะชาร์จ และปัจจัยอื่นๆ อีกมาก Travel Adapter ชาร์จแยก โปรดใช้หัว Adapter และสายที่ซัมซุงรับรองเท่านั้น