คลังเก็บ

มีงี้ด้วย! 6 ฟีเจอร์สุดว้าว บนบริการเรียกรถของ “แกร็บ” ที่คุณอาจไม่เคยรู้

บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันอย่าง “แกร็บ” ได้กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้การเดินทางในปัจจุบันมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสัญจรในชีวิตประจำวัน เมื่อต้องเดินทางกลางดึก หรือแม้จะอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว เพียงแค่คลิกเดียวก็สามารถไปถึงจุดหมายได้อย่างสะดวกสบาย

จึงไม่แปลกใจที่บริการนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในเมืองและต่างจังหวัดจนกลายเป็นคำเรียกติดปาก แถมล่าสุดผู้ใช้บริการยังมั่นใจไร้กังวล เพราะแกร็บได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการแล้วจากกรมการขนส่งทางบก

Grab

แต่รู้หรือไม่? ว่าบริการเรียกรถของแกร็บมีฟีเจอร์เสริมต่างๆ ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์พิเศษ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ในด้านความสะดวกสบาย แต่ยังสร้างความอุ่นใจในทุกเที่ยวการเดินทางด้วย และนี่คือ 6 ฟีเจอร์ไม่ลับ! ที่คุณลองแล้วต้องร้องว้าว

1) “Silent Mode” เข้าโหมดส่วนตัวขอพี่คนขับไม่ชวนคุย

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยเจอประสบการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ รู้สึกอึดอัดเวลานั่งแท็กซี่หรือรถรับจ้างสาธารณะ แล้วพี่คนขับชวนคุยไม่หยุดกันแน่ๆ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะแกร็บได้ออกแบบฟีเจอร์ที่เรียกว่า ‘โหมดงดการสนทนา’ หรือ Silent Mode เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการเดินทางให้มีความเป็นส่วนตัว ให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้เวลาระหว่างเดินทางผ่อนคลายไปกับความเงียบสงบ หรือ ฟังเพลงสบายๆ ได้ตามที่ต้องการ

2) ปลอดภัยหายห่วงไปกับฟีเจอร์ “Safety Centre”

เพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับผู้โดยสารด้วยฟีเจอร์ ‘Safety Centre’ที่ผู้โดยสารสามารถเลือกกด ‘Share My Ride’ เพื่อแชร์ข้อมูลการเดินทาง อาทิ ตำแหน่งของรถแบบเรียลไทม์ รายละเอียดของพาร์ทเนอร์คนขับทั้งชื่อ เลขทะเบียน และรุ่นรถ ตลอดจนรายละเอียดการเดินทางอย่างเวลาที่เรียกรถ จุดเริ่มต้น และจุดปลายทาง นอกจากนี้หากเกิดเหตุขัดข้องหรือภัยอันตราย เพียงแค่ผู้โดยสารกดปุ่ม  ‘Emergency Button’ หมายเลขฉุกเฉิน 191 ก็จะปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ และพร้อมต่อสายหาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ในทันที 

3) “Carbon Offset” ฟีเจอร์ช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพื่อโลกที่ยั่งยืน

ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมช่วยกันแก้ไข เพื่อเชิญชวนให้ผู้ใช้บริการตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยั่งยืน แกร็บจึงได้พัฒนาฟีเจอร์ ‘Carbon Offset’ ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคร่วมชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง โดยผู้ใช้บริการสามารถกดเลือกบริจาคเงินจำนวน 2 บาทเมื่อเดินทางด้วยรถยนต์ และ 1 บาทเมื่อเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ ให้กับโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศไทย 

4) ฟีเจอร์ “Ride Cover” เพื่อคุ้มครองผู้โดยสาร ที่มอบความคุ้มค่าให้ถึงสองต่อ!

ความปลอดภัยในการเดินทาง คือ สิ่งที่แกร็บให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง นอกเหนือจากประกันอุบัติเหตุที่มีวงเงินสูงสุดถึง 200,000 บาท ที่แกร็บให้ความคุ้มครองกับผู้โดยสารทุกคนในทุกเที่ยวการเดินทางโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว ผู้ใช้บริการสามารถรับสิทธิประโยชน์ถึงสองต่อ เพียงแค่กดเปิดฟีเจอร์ ‘คุ้มครองผู้โดยสาร’ หรือ Ride Cover ในราคาเพียง 5 บาทต่อการเดินทาง ต่อแรกรับคะแนนแกร็บรีวอร์ด 500 แต้ม เพื่อใช้เป็นส่วนลดกับทุกบริการ หากพาร์ทเนอร์คนขับมาช้าเกินกว่า 10 นาที ต่อสองกับการเพิ่มวงเงินประกันคุ้มครองอุบัติเหตุฟรีสูงสุดถึง 800,000 บาท

5) “Multi-Stop Rides” ฟีเจอร์เพิ่มจุดรับ-ส่ง 

เพิ่มความสะดวกให้กับการเดินทางด้วยฟีเจอร์ ‘Multi-Stop Rides’ ที่ผู้ใช้บริการสามารถเพิ่มจุดรับหรือส่งระหว่างทางได้ เช่น การแวะรับ-ส่งเพื่อน หรือแม้แต่การเดินทางไปส่งคนที่คุณรักก่อนกลับบ้าน โดยพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บจะทราบข้อมูลการเดินทางทั้งหมดก่อนรับงาน ในขณะที่ผู้ใช้บริการก็จะทราบค่าโดยสารที่แน่นอนก่อนเรียกรถเช่นกัน 

6) “Sayanora” ฟีเจอร์สร้างความสบายใจให้กับการเดินทาง

อาจมีบางครั้งที่ระหว่างการเดินทางผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์คนขับเกิดไม่ประทับใจต่อพฤติกรรมของอีกฝ่าย เพื่อสร้างความสบายใจให้กับการเดินทางในครั้งต่อไป แกร็บจึงมีฟีเจอร์ลับที่เรียกว่าซาโยนาระ ที่ระบบจะป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์คนขับได้โคจรกลับมาพบกันอีก ทำให้ทุกคนไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจ และมั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุด

นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่แกร็บพัฒนาขึ้นจากความเข้าใจ และความใส่ใจต่อเสียงของผู้ใช้บริการ รวมถึงพาร์ทเนอร์คนขับทุกคน หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ใช้บริการแกร็บคาร์เป็นประจำ รับรองว่าคุณจะได้เห็นฟีเจอร์ล้ำๆ จากแกร็บอีกอย่างแน่นอน