เหมือนจะเพิ่งผ่านไปไม่นานเอง ที่เราเคยวุ่นวายกับการพยายามแกะสายหูฟังที่พันกันจนยุ่งเหยิง แต่ทุกวันนี้ เมื่อลองสังเกตดีๆ ไม่ว่าจะกำลังเดินชอปปิง อยู่บนรถไฟฟ้า หรือวิ่งอยู่บนลู่ในฟิตเนส มองไปรอบๆ ก็จะเห็นว่ามีแต่คนใส่หูฟังไร้สายกันเต็มไปหมด
ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขในรายงานของ Counterpoint Research ซึ่งระบุว่ายอดการส่งมอบหูฟังไร้สายทั่วโลกในปี 2020 อยู่ที่ 238 ล้านชิ้น คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 83% เมื่อเทียบกับปี 2019
โดยนักวิเคราะห์อาวุโสของ Counterpoint Research มองว่าเทรนด์นี้เป็นผลสืบเนื่องจากการที่บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ทยอยยกเลิกการใส่พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มม. มาในดีไวซ์ต่างๆ ทำให้หูฟังไร้สายกลายเป็นแกดเจ็ตที่เรียกได้ว่า “ของมันต้องมี” ของยุคนี้อย่างแท้จริง (เพราะไม่มีช่องให้เสียบแล้วไงล่ะ!)
เมื่อเทรนด์ดังกล่าวค่อยๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และทำให้ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งาน จากที่เคยคุ้นชินหูฟังแบบมีสาย ก็เริ่มเปิดใจใช้หูฟังไร้สาย และกลายเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทดีไวซ์ต้องแข่งขันกันคิดค้นเทคโนโลยีที่ดีกว่าออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน สำหรับใครที่ยังลังเลใจว่าจะเปลี่ยนดี ไม่เปลี่ยนดี ลองมาดูกันว่าหูฟังไร้สายหรือ TWS มีอะไรที่สามารถมอบประสบการณ์ “ขั้นกว่า” ที่ล้ำไปจากหูฟังไร้สายแบบเดิมๆ ให้กับเราบ้าง
1. อัจฉริยะขั้นกว่า จะตัดเสียงรบกวนหรือรับรู้เสียงรอบข้างก็ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
หนึ่งในเทคโนโลยีที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของหูฟังไร้สาย คือการพัฒนาให้หูฟังสามารถตรวจจับและคัดกรองเสียงอันไม่พึงประสงค์ที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา แล้วปล่อยคลื่นความถี่เพื่อตัดเสียงรบกวนเหล่านั้นทิ้งไป ไม่ให้เข้ามารบกวนการฟังเพลงหรือการสนทนาผ่านหูฟัง
เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เรียกว่าเทคโนโลยีตัดเสียงรอบกวนรอบข้าง หรือ Active Noise Cancellation (ANC) ใครนึกภาพไม่ออกอาจลองจินตนาการดูว่าเวลาขึ้นรถไฟฟ้า เดินดูของตามห้างสรรพสินค้า หรือเดินอยู่ริมถนน รอบตัวเรามักมีเสียงจอแจ เสียงแตรรถ เสียงเครื่องจักรต่างๆ คอยกวนใจ แต่เทคโนโลยี ANC จะช่วยคัดกรองเสียงที่มีความถี่ซ้ำๆ ออกไปได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เราเพลิดเพลินกับเสียงเพลงหรือคุยสายได้อย่างสบายอารมณ์
นอกจากนี้หูฟังไร้สายยังมีโหมดการรับรู้ (Awareness Mode) ที่จะทำให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงรอบข้างได้ชัดเจนโดยไม่ต้องถอดหูฟัง ดังนั้นหากต้องการจะสัมผัสประสบการณ์เสียงที่เหนือระดับ อาจจะต้องมองหาหูฟัง TWS ที่ใส่เทคโนโลยี ANC และ Awareness Mode มาด้วย
อย่างล่าสุดหัวเว่ยเพิ่งเปิดตัว HUAWEI FreeBuds 4i หูฟังน้องใหม่มีทั้งเทคโนโลยี ANC และ Awareness Mode ซึ่งระหว่างสองโหมดนี้สามารถสลับการใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแตะก้านหูฟังข้างใดข้างหนึ่งค้างไว้ และยังมาในราคาที่เรียกว่าคุ้มค่าสุดๆ แบบใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้เพียง 2,799 บาท เท่านั้น ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่คุ้มค่าและราคาดีสำหรับกลุ่มหูฟังในระดับเดียวกันเลยทีเดียว
2. คล่องตัวกว่า แถมไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางคัน
ครั้งแรกที่ได้ลองใช้หูฟังไร้สายจะรู้สึกเหมือนมีเวลาในชีวิตมากขึ้นชีวิตเหมือนเกิดใหม่ เพราะได้เวลากลับคืนมาอีกหลายนาที จากการที่ไม่ต้องมานั่งแก้สายหูฟังที่พันกันวุ่นอีกต่อไป อยากใช้ปุ๊บก็หยิบมาสวมได้ปั๊บ คล่องตัวและสะดวกสบาย จะลุกเดินไปไหนก็ยังฟังเสียงได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปกับตัวอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หูฟังไร้สายจำเป็นต้องอาศัยการชาร์จ ดังนั้นจึงควรเลือกหูฟังที่มีแบตเตอรี่ทนทาน สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล รวมถึงควรจะรองรับการชาร์จเร็ว เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัวอยู่ตลอดเวลา อย่าง HUAWEI FreeBuds 4i ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว 55 mAh สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อปิดโหมด ANC และเมื่อนำกลับเข้าไปชาร์จด้วยเคสชาร์จ ก็จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 22 ชั่วโมง หรือหากมีเวลาชาร์จสั้นๆ เพียงแค่ 10 นาที ก็เพียงพอแล้วที่จะใช้งานหูฟังต่อได้อีกถึง 4 ชั่วโมง
3. สุนทรีย์กว่า ด้วยคุณภาพเสียงคมชัด เชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์แล้วไม่หน่วง
อีกหนึ่งความท้าทายของการออกแบบและพัฒนาหูฟังไร้สายคือคุณภาพเสียงที่คมชัด โดยสามารถดูได้จากขนาดของไดร์เวอร์ให้อยู่ที่ 10 มิลลิเมตร จะถือว่ากำลังดี เพราะจะให้คุณภาพเสียงที่คมชัด เสียงเบสหนักแน่น หรือถ้าในกรณีของ HUAWEI FreeBuds 4i นอกจากจะมีไดนามิกไดร์เวอร์ขนาด 10 มิลลิเมตรแล้ว วิศวกรยังคิดคำนึงถึงผู้ใช้กลุ่มใหญ่ที่เป็นคนรุ่นใหม่และชอบฟังเพลงเมนสตรีมอย่างเพลงป๊อบ ดังนั้นจึงออกแบบมาให้เสียงที่ได้ยินผ่านหูฟังนั้นมีความสมดุลในทุกย่านเสียงทั้งสูง กลาง และต่ำ ซึ่งเป็นการปรับจูนให้เหมาะกับดนตรีป๊อบสบายๆ นับเป็นอีกหนึ่งความใส่ใจในรายละเอียดที่ตอบโจทย์การใช้งาน
นอกจากนี้ เมื่อคำนึงถึงการใช้งานในสถานการณ์จริง พอเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้ว ค่าความหน่วงจะต้องต่ำที่สุด เพื่อให้ได้รับชมภาพและรับฟังเสียงไปพร้อมกัน โดย HUAWEI FreeBuds 4i ใช้อัลกอริทึมที่ค่าความหน่วงต่ำและล้ำสมัย เพื่อลดความเหลื่อมเวลาระหว่างภาพและเสียงให้น้อยที่สุด ดังนั้นไม่ว่าจะสวมใส่หูฟังไว้ระหว่างเล่นเกม ดูการแข่งขันกีฬา หรือดูซีรี่ส์ ผู้ใช้ก็สามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้โดยไม่เสียอารมณ์ แถม HUAWEI FreeBuds 4i ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างลื่นไหลทุกระบบปฏิบัติการด้วยบลูทูธ 5.2 ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iOS แต่แน่นอนว่าเชื่อมต่อได้สะดวกและแม่นยำที่สุดกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของหัวเว่ยที่มี EMUI 10.0 ขึ้นไป และหลังเชื่อมต่อครั้งแรกไว้แล้ว ต่อไปหูฟังก็จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้แบบอัตโนมัติ
4. ทันสมัยกว่า กับดีไซน์ที่เสริมลุคให้ดูดี สมาร์ท และโมเดิร์น
ยอมรับเลยว่าหูฟังไร้สายสามารถเสริมลุคให้ดูเท่ ดูสมาร์ทยิ่งขึ้น เพราะไม่มีสายระโยงระยางมากวนสายตา ขยับไปทางไหนก็ดูคล่องตัว ดูทันสมัย ดูเป็นสาย Tech Savvy หรือจะเลือกสีหูฟังให้บ่งบอกความเป็นตัวเราก็สามารถทำได้ เหมือนเลือกเครื่องประดับอีกสักชิ้นไว้คู่กาย ถ้าดูอย่าง HUAWEI FreeBuds 4i มีมาให้เลือกกันถึง 3 สี 3 สไตล์ คือสีขาว Ceramic White, สีดำ Carbon Black และสีแดง Red Edition ที่ทำให้เราแต่งตัวได้สนุกขึ้นในแต่ละวัน
5. ครอบคลุมยิ่งกว่า ใช้งานได้ลื่นไหลในทุกสถานการณ์
เหตุผลสำคัญที่สุดสำหรับการที่จะเปลี่ยนใจมาใช้หูฟังไร้สายคงหนีไม่พ้นความสะดวกสบาย การใช้งานที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ เพราะความสะดวกนี้เมื่อได้ลองแล้วสักครั้งก็จะติดใจ เผลอๆ อาจทำใจกลับไปใช้หูฟังแบบมีสายไม่ได้แล้ว คำแนะนำสำคัญสำหรับคนที่จะซื้อหูฟังไร้สายชิ้นแรกให้สามารถใช้งานได้แบบครอบคลุมเลยก็คือ ควรเลือกหูฟังที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย และสวมใส่สบาย เพราะเราจะยิ่งรู้สึกว่าอยากใส่ไว้ทั้งวัน ให้เหมือนเป็นอีกส่วนหนึ่งของร่างกายได้เลย ในประเด็นนี้ HUAWEI FreeBuds 4i ก็ถือว่าทำได้ดีเพราะได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ขนาดคุ้นมือเหมือนตลับแป้งของสาวๆ รวมถึงได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ปลอกซิลิโคน 3 ขนาดมาให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสรีระของแต่ละคน แถมตัวหูฟังยังมีน้ำหนักเพียง 11 กรัมเท่านั้น ให้ความรู้สึกเบาสบาย สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน
แนะนำมาจนถึงตอนนี้ คาดว่ายอดการส่งมอบหูฟังไร้สายหรือ TWS ในปีนี้คงจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน หากใครต้องการหาหูฟังไร้สายที่ทั้งสเปกดีและราคาคุ้มค่า ก็ลองให้ HUAWEI FreeBuds 4i เป็นหนึ่งในตัวเลือกไว้พิจารณา
ขอย้ำว่าวางจำหน่ายในราคาเพียง 2,799 บาท ซึ่งนับว่าราคาคุ้มค่ามากหากเทียบดูในบรรดาหูฟังระดับเดียวกัน ใครๆก็สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ แล้ววันนี้ทั้งทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Online Store, Shopee, และ JD Central หรือเข้าไปอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่